ไม่รีบาวด์..ก็ลงลึก

วันก่อน “โมนิก้า” ได้เสนอมุมมองเกี่ยวกับการเคลื่อนตัวของดัชนีว่า “หลุดแล้ว..ต้องขาย” เพราะการเล่นหุ้นในช่วงหลังๆ เป็นการอิงกับสัญญาณเทคนิคเป็นหลัก


วันก่อน “โมนิก้า” ได้เสนอมุมมองเกี่ยวกับการเคลื่อนตัวของดัชนีว่า “หลุดแล้ว..ต้องขาย” เพราะการเล่นหุ้นในช่วงหลัง ๆ เป็นการอิงกับสัญญาณเทคนิคเป็นหลัก จึงไม่ควรทำตัวหน่อมแน้มในภาวะตลาดหุ้นแกว่งตัวลง และในวันถัดมาก็เม้าท์ถึง “หุ้นพลิกชีวิต” เพื่อชี้ให้เห็นการเคลื่อนตัวของดัชนีในรอบ 8 เดือนอยู่ในลักษณะขาลง พร้อมกับแกว่งตัวออกด้านข้างเป็นหลักนั้น..ล้วนมาจากตลาดหุ้นขาดปัจจัยบวกใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นเจ้าค่ะ

ต่อจากนั้นได้กล่าวเสริมให้นักเล่นได้รู้ว่า ดัชนีเริ่มกลับขึ้นมาใหม่ด้วยการไต่ขึ้นจากฐาน 1,500-1,580 จุดอย่างช้า ๆ ก่อนจะโดนสาดออกมาเป็นระลอก จนดัชนีหลุดแนวรับย่อยลงมาเรื่อย ๆ และกำลังลงมาทดสอบแนวรับสุดท้ายที่เส้น 75 วันตรงบริเวณ 1,530 จุดแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นไฟต์บังคับที่ดัชนีต้องรีบาวด์เพื่อรักษาทรง ไม่เช่นนั้นดัชนีจะไหลงลงลึกกว่าเดิม..สัญญาณเทคนิคบอกไว้อย่างนั้นจ้า!

ด้วยเหตุนี้เลยต้องถามว่า การที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,535.31 จุด ลบไป 10.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.43 หมื่นล้านบาทเป็นระดับที่น่าลงทุนไหม? และการที่รัฐบาล “เสี่ยนิด” ประกาศนโยบายที่เซอร์ไพร้สชนิดที่ชาวบ้านงงเป็นไก่ตาแตก (จ่ายเงินเดือน ขรก. งวด) มันช่วยให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้นจริงไหม? ล้วนเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจผู้คนมากมาย และเดี๊ยนไม่สามารถตอบแทนคนอื่นได้ เพราะอีฉันก็ยังงงเหมือนกันอีแม๊!

รายแรกที่ต้องเม้าท์ถึงก็คือ EA หลังโดนขายหนักสองวันติด ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 58.75 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.49 พันล้านบาท ก็เป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า เมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับการลดค่าไฟเกิดขึ้นทีไร หุ้นตัวนี้ก็โดนขายกับเขาด้วยเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงมองว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจอีกพักใหญ่ และต้องรอดูแนวรับบริเวณ 56 บาทจะเป็นจุดเด้งกลับจริงไหมเจ้าคะ

ส่วนรายที่ได้รับผลกระทบค่าไฟลดหนักสุดในเที่ยวนี้กลายเป็น GPSC ซึ่งเป็นหุ้นที่ทุกคนชี้เป้าไปในทางเดียวกันว่า อ่วมแน่! จึงมีแรงขายไหลออกมาไม่หยุดหย่อน จนวานนี้หุ้นลงมาปิดที่ระดับ 49.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 675 ล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 3 ปีครึ่ง มันเป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่า ต่อให้ถูกกว่านี้ก็ไม่น่าเล่น เพราะยังมองไม่เห็นก้นเหวน่ะซี

เหมือนกับในรายของ COM7 ก็โดนจัดหนักไม่แพ้กับรายข้างต้น แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ราคาหุ้นร่วงจากยอดดอย ขณะที่รายข้างต้นร่วงจากตีนดอย “โมนิก้า” เลยมองว่า เจ้าอื่นเจ็บน้อยกว่ารายนี้ และการที่หุ้นร่วงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 30.75 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 802 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักสำหรับคนที่ยังออกของไม่ได้นะคะ

สำหรับรายที่ลงเงียบ ๆ แต่มาโดนหนักวานนี้ก็คือ TOA ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้กับ “โมนิก้า” มากพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้ราคาหุ้นซึมซับข่าวร้ายไปเยอะพอสมควร แต่เที่ยวนี้กลับโดนถล่มหนักหน้าตาเฉย จึงสงสัยว่า น่าจะมีอะไรในกอไผ่อย่างแน่นอน หลังราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 23.50 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 190 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low แบบนี้.., มันจบแล้วใช่ไหมป๋า!

ส่วนรายที่อุตส่าห์ฟอร์มตัวขึ้นมาใหม่ และกำลังไต่เพดานสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่โดนสาดตูมเดียววานนี้ จนราคาหุ้นเสียศูนย์ต้องมองไปที่หุ้น DOHOME เป็นรายถัดมา เพราะการทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 11.20 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 228 ล้านบาท โดยมีโลว์เก่าอยู่ที่ระดับ 9 บาท มันเป็นเรื่องที่นึกถึงทีไร แล้วรู้สึกเสียวไส้ทุกที..จริงหรือไม่ วันนี้ได้รู้กันนะออเจ้าค่ะ

ตบท้ายกันที่ TH กันสักหน่อย! เพราะเป็นหุ้นที่พัวพันกับข่าวฉาวเยอะมาก และยังมีประเด็นที่ทำให้กังขาเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ถึงแปลกใจที่มีคนเข้ามาดันหุ้นสวนภาวะตลาดหุ้นแดงแป๊ด เลยมีคำถามว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.51 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 68 ล้านบาท มันเป็นเกมที่เหมาะคนกล้าตายโดยเฉพาะ เพราะในมุมของพื้นฐานมันไม่ซัพพอร์ตเลยจ้า!

Back to top button