ERW ท่องเที่ยวพากำไร!
ERW ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการประเดิมเปิดงบไตรมาสแรกปี 2566 พลิกมามีกำไร
คุณค่าบริษัท
เห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เห็นได้จากประเดิมเปิดงบไตรมาสแรกปี 2566 พลิกมามีกำไรสุทธิ 238 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ที่ขาดทุนสุทธิ 313 ล้านบาท และมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 1,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 181% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ที่มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 617 ล้านบาท
ตอกย้ำด้วยงบไตรมาส 2/2566 พลิกมามีกำไรสุทธิ 141 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 ที่ขาดทุนสุทธิ 139 ล้านบาท และมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 1,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 ที่มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 961 ล้านบาท
อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกลยุทธ์ด้านราคาของบริษัท แม้ในไตรมาส 2/2566 จะเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ความต้องการท่องเที่ยวยังคงอยู่ระดับสูง มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 6.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 307% จากไตรมาส 2/2565
ส่งผลให้ในครึ่งแรกปี 2566 ERW พลิกมามีกำไรสุทธิ 381 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 452 ล้านบาท และมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 3,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 1,578 ล้านบาท
สำหรับครึ่งปีหลัง บริษัทมั่นใจเติบโตได้ต่อ ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดจะเติบโตจากช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 12.9 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 52% ของเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2566 ที่ 25 ล้านคน ทั้งนี้ทางภาครัฐคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2566 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
และเป็นที่มาของการปรับเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้จะเติบโต 50% โดยมาจากประมาณการอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มเป็น 78-80% และการเติบโตของราคาห้องพักเฉลี่ยมากกว่า 20% จากปี 2565 ซึ่งหลัก ๆ จะมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามามากขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทที่ยังคงสนับสนุนการเติบโตในปีนี้
ขณะที่ บล.ทรีนีตี้ คาดกําไรในไตรมาส 3/2566 อ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย เนื่องจากยังคงเป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวและเป็นช่วงฤดูฝนในประเทศ และมีการบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในญี่ปุ่น ปรับเพิ่มคาดการณ์กําไรสุทธิปี 2566-2567 เป็น 697 ล้านบาท และ 769 ล้านบาท จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก 2566
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ได้ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ลง 5-12% เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายโครงการในปี 2566 และผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในปี 2567 อย่างไรก็ดีปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2568 ขึ้น 6% จากความสามารถในการทำกำไรของโครงการ Hop Inn ในญี่ปุ่น
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น ERW ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 42.07 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 21.30 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 4.17 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.50 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 6.04 บาท จากราคาต่ำสุด 5.40 บาท และราคาสูงสุด 6.70 บาท