พาราสาวะถี

อย่างที่เปิดโปรแกรมให้เห็นไปวันก่อน เศรษฐา คิวงานแน่น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นเหนือลงพื้นที่ ได้งานได้สอบทานกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทย


อย่างที่เปิดโปรแกรมให้เห็นไปวันก่อน เศรษฐา ทวีสิน คิวงานแน่น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นเหนือลงพื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่ ได้งานได้สอบทานกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นสำคัญในสองจังหวัดไปในตัว วันนี้จะบินลัดฟ้าไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 78 ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยที่เจ้าตัวบอกไว้ก่อนเดินทางหากมีโอกาสได้คุยกับผู้นำเยอรมนี อาจได้เจรจาช่วยแก้ปัญหาเครื่องยนต์เรือดำน้ำที่กองทัพเรือไทย ยังเจรจาหาข้อตกลงกับทางการจีนไม่ได้

หากทำได้จริงก็ถือเป็นการสร้างเครดิตช่วยให้รัฐมนตรีกลาโหมพลเรือน สุทิน คลังแสง โล่งอกไปได้ระดับหนึ่ง งานประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหนนี้ ถือเป็นการเปิดตัวผู้นำประเทศไทยที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนเต็มตัว หลังจากที่กว่า 9 ปีที่ผ่านมา ความสง่างามบนเวทีระดับนานาชาติขาดหายไปเนื่องจากไทยมีผู้นำเผด็จการแม้จะฟอกขาวผ่านกระบวนการเลือกตั้ง คนก็ยังมองเป็นผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอยู่ดี ทำให้การเจรจา ความร่วมมือต่าง ๆ ทำได้แบบรักษาไมตรีไม่เต็มที่เหมือนที่ควรจะเป็น

นอกเหนือจากโอกาสที่จะได้พบปะกับผู้นำประเทศต่าง ๆ แล้ว เศรษฐายังบอกว่า มีโอกาสจะได้ให้สัมภาษณ์และพบกับสื่อมวลชนรายใหญ่ของโลก อาจจะมากกว่า 3 สื่อ แต่ต้องขอดูก่อนว่าแต่ละสื่อจะมีประเด็นอะไรบ้าง เพราะไม่อยากให้เป็นประเด็นเดียวกัน บางสื่ออาจจะอยากให้พูดถึงเรื่องพลังงานสะอาด เรื่องของเศรษฐกิจ บางสื่อก็ต้องการพูดถึงเรื่องความมั่นคง คงต้องให้ข้อมูลทุกมิติ ไม่เชิงเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ หากมีสื่อใดต้องการสัมภาษณ์ ตนยินดีตอบเป็นคำถามที่เหมาะสม รัฐบาลมีความพร้อมที่จะตอบ

ขณะเดียวกัน นักข่าวไทยก็ถามว่าจะชี้แจงอย่างไรในประเด็นทางการเมือง เพราะมีสื่อบางแห่งไม่มั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และอาจมีผลกระทบหลาย ๆ ด้าน ในการบริหารของประเทศ เศรษฐาตอบได้อย่างน่าสนใจว่า “ให้สื่อต่างประเทศเขาถามผมเองดีกว่า ถ้าเขาถามมา ผมคิดว่าผมตอบได้ แล้ววันนี้ผมมี 300 กว่าเสียงเป็นเสียงจากประชาชน วันนี้ก็เดินหน้าทำงานไม่หยุด” เป็นความเชื่อมั่นที่ว่าตัวเองเป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์

ตรงนี้พอเข้าใจได้ เงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญซึ่งสื่อต่างชาติเองก็ได้ศึกษาและพยายามทำความเข้าใจ จนเพื่อนนักข่าวต่างประเทศบางรายถึงกับสงสัยว่า ทำไมประเทศคุณถึงวางกับดักประชาธิปไตยกันแบบนี้ พออธิบายว่าเป็นกลเกมของพวกอยากอยู่ยาว เพื่อนนักข่าวฝรั่งเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ยังไม่ค่อยพอใจในคำตอบอยู่ดี มันเป็นสิ่งที่ชี้แจงลำบาก เพราะหลายเรื่องมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระบวนการและหลักการที่สากลมี แต่มันเป็นเรื่องของขบวนการสืบทอดอำนาจจากเผด็จการที่งัดกฎหมายในยามที่มีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทำอะไรก็ได้โดยที่องค์กรตรวจสอบทั้งหลาย ตกอยู่ภายใต้การควบคุมไว้ทั้งหมด

แม้ว่าอาจจะมีข้อกังขาต่อเศรษฐาหากจะไปตอบสื่อต่างชาติว่าเป็นรัฐบาลของประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง เนื่องจากเพื่อไทยไม่ได้เป็นพรรคชนะเลือกตั้ง แต่ด้วยกระบวนการที่ได้ดำเนินการมาทั้งหมดตั้งแต่โหวต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่านเกณฑ์จากที่ประชุมรัฐสภา จนกระทั่งต้องมาโหวตกันในหนที่ 3 หากมองท่าทีตอบรับของผู้นำรัฐบาลจากประเทศยักษ์ใหญ่ทั้ง สหรัฐอเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรปแล้ว เชื่อว่าสื่อที่จะได้สัมภาษณ์ผู้นำไทยก็น่าจะเข้าใจในบริบทที่เป็นไปของการเมืองไทยได้ดีในระดับหนึ่ง

คำสั่งของเศรษฐาที่คลอดมาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเรื่องการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษานายกฯ เห็นรายชื่อแล้วก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คนส่วนใหญ่รับได้ การได้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง มาเป็นประธานที่ปรึกษา พร้อมด้วยคณะอีก 8 คน แม้อาจจะติดใจในรายชื่อของ พิชิต ชื่นบาน ที่ประกาศไม่รับเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ไปก่อนหน้านี้ คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ในเมื่อภาพส่วนใหญ่เป็นที่พอใจ มีเพียงบางคนที่คนส่วนหนึ่งยังกังขา ก็ต้องใช้เวลาและให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์

คงเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองเบื้องหน้าแล้วว่า หากเดินด้วยท่าทีที่จะชนเพียงอย่างเดียว ไม่มีทางไปรอด ดังนั้น การแก้เกมของพิธาด้วยการลาออกจากความเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เป้าหมายคือการเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ย่อมเป็นการประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นฝ่ายค้านแบบเต็มตัว และจะเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาลที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำอย่างเข้มข้น

กรณีเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ของ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ถ้ายังสังกัดก้าวไกลแล้วจะให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้นำฝ่ายค้านจำเป็นต้องไขก๊อกจากตำแหน่งดังกล่าว แนวโน้มตามที่วิจารณ์กันคงไม่หนีไปจากนี้ รอมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาเพื่อลงมติขับหมออ๋องออกจากพรรค เหตุผลแล้วแต่จะหามาอธิบาย เพื่อเปิดทางให้เจ้าตัวยังมีหัวโขนความเป็น สส.ไปหาพรรคใหม่สังกัด

แนวโน้มที่จะไปสังกัดพรรคเป็นธรรม มีความเป็นไปได้สูง ด้วยเหตุน่าจะมีทิศทางและหลักการทางการเมืองในแนวเดียวกัน โดยที่ กัณวีร์ สืบแสง สส.ปาร์ตี้ลิสต์และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ก็ประกาศแล้วว่าพร้อมที่จะรับหมออ๋องเข้าเป็นสมาชิก รอหลังวันที่ 23 กันยายนนี้หลังจากที่ก้าวไกลเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว คงจะได้เห็นกระบวนการที่ชัดเจน สรุปง่าย ๆ ก้าวไกลไม่ยอมเสียทั้งตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ และรองประธานสภาคนที่ 1 เมื่อกติกาวางเงื่อนไขไว้อย่างนี้ มีช่องก็ต้องทำกันไม่ว่าจะเป็นใคร พรรคไหนก็ตาม

มีเสียงเตือนมาจากคนประชาธิปไตยในพรรคเพื่อไทย จาตุรนต์ ฉายแสง ที่แกนนำพรรคบอกว่าเทกันหมดหน้าตักในการจัดตั้งรัฐบาลหนนี้ ยังไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะยังเหลือประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ที่จะถือเป็นบทพิสูจน์ความจริงใจของพรรค การตั้งคณะกรรมการศึกษาที่มี ภูมิธรรม เวชชัย เป็นประธานก็ถูกมองแล้วว่าเป็นการยื้อเวลา กระบวนการที่รวดเร็วจะช่วยลดข้อครหานี้ได้ แต่จะทำให้ประชาชนเชื่อใจและทำให้เห็นว่าพรรคนายใหญ่ไม่ได้ตระบัดสัตย์ต่อเมื่อมีมติ ครม.ต่อการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น

Back to top button