ขายจนร้องขอชีวิต!

ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอพูดจากใจจริงว่า บางครั้งตลาดหุ้นไทยก็อินโนเซ้นท์มากเกินไป และกลายเป็นภาพที่ขัดหูขัดตาวัยรุ่นขาโจ๋อย่างแรง


ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอพูดจากใจจริงว่า บางครั้งตลาดหุ้นไทยก็อินโนเซ้นท์มากเกินไป และกลายเป็นภาพที่ขัดหูขัดตาวัยรุ่นขาโจ๋อย่างแรง โดยเฉพาะแรงขายที่สาดไม่ยั้งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมาโดนสาดหนักอีกครั้งวานนี้ จนดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,527.57 จุด ลบไป 14.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.25 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่โอเว่อร์แอ๊คติ้งมากเกินไปสำหรับตลาดหุ้นที่กำลังฟอร์มตัวขึ้นรอบใหม่นะคะ

ที่สำคัญคือ หากดูจากสัญญาณเทคนิคที่ย้ำให้เห็นว่า oversold มาระยะหนึ่ง แต่แรงขายกลับไม่เบาลงเลย จนค่า Modified Stochastic ในส่วนที่เป็นค่า %K ลงมาอยู่ที่ระดับ 15 มันเป็นสถานการณ์ที่สำทับให้เดี๊ยนรู้ว่า ตลาดหุ้นไทยลงมากเกินไป และเป็นจังหวะของการซื้อหุ้นรอบใหม่อย่างแน่นอน แต่เหตุไฉนตลาดหุ้นไทยถึงหลุดแนวรับสุดท้ายที่บริเวณ 1,530 จุดเสียอย่างนั้นล่ะจ๊ะ

โดยเฉพาะท่าทีที่เปลี่ยนไปของ “ต่างชาติ” กับ “กองทุน” มันกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” คิดหนักชนิดที่กินไม่ได้นอนไม่หลับมาร่วมสัปดาห์ หลังนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวยังเดินหน้าขายหุ้นไม่เลิก จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะกลับลงไปยืนที่บริเวณ 1,500 จุดในไม่ช้า ผนวกกับหุ้นแกนหลักของตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในสภาพขาแข็งแบบนี้ มันกลายเป็นตัวทำลายความมั่นใจของนักเล่นอย่างแรงนะจะบอกให้

ขนาดหุ้นเสือนอนกินอย่าง AOT ที่มีข่าวดีเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นยังทำได้แค่การแกว่งตัวไปมาในกรอบ 70-73 บาทเป็นเวลาสี่เดือนครึ่ง แถมวานนี้หุ้นมีอาการซึมกระทือตลอดทั้งวัน ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 70.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท มันกลายเป็นช็อตที่ลุ้นไม่ขึ้นจริง ๆ และต้องดูกันต่อไปว่า วันนี้หุ้นจะเด้งสั้น ๆ ได้ไหมเอ่ย?

ส่วนรายที่เกิดอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ และดูเหมือนจะหมดรอบก่อนกำหนด อาจต้องโฟกัสไปที่หุ้น HANA หลังโดนรินขายหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน แถมวานนี้โดนทิ้งตูมเดียวลงมากองอยู่ที่ระดับ 58.75 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.34 พันล้านบาท ทั้งที่ตอนนี้เทรดบน PE 20 เท่า “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องความกังวลที่มีต่ออุตสาหกรรมชิปชะลอตัว จึงต้องขายเพื่อลดความเสี่ยงไงล่ะคะ

ประเด็นความกังวลดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น SAWAD เพื่อชี้ให้เห็นมาตรการพักหนี้มันทำให้นักเล่นมองไปในมุมเดียวกันว่า ผลงานไม่ตามเป้าอย่างแน่นอน จึงไม่มีประโยชน์ที่จะถือหุ้นอีกต่อไป และทำให้นักเล่นเทขายหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 45.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 524 ล้านบาท โดยมีโลว์เก่าที่บริเวณ 44 บาทยืนค้ำไว้แบบนี้ กลายเป็นการบังคับให้หุ้นต้องเด้งเจ้าค่ะ

เม้าท์ถึงหุ้นเด้งขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น CRC เพื่อชี้ให้เห็นการวิ่งกลับขึ้นมาปิดที่ 39.50 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 696 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องทุกประการ เพราะในมุมของผลงานก็ไม่มีอะไรต้องวอรี่ แถมเที่ยวนี้ ประกาศท้ารบกับเจ้าใหญ่ธุรกิจค้าปลีกอย่างเต็มตัว มันเป็นภาพที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับอีฉันเป็นอย่างมาก เพราะทุนใหญ่กับทุนใหญ่ชนกัน ผู้บริโภคอย่างเราย่อมได้ประโยชน์นะจะบอกให้

เม้าท์ถึงประเด็นที่ไฝว้กันขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปยังเกมโหดที่กลับมาตั้งไข่รอบใหม่อย่าง PSP กันดีกว่า! เพราะการไต่เพดานขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.90 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 532 ล้านบาท มันเหมือนเป็นการล้างไพ่เพื่อเล่นกันใหม่ และเที่ยวนี้ก็ต้องดูกันต่อไปว่า เจ้ามือที่จะเข้ามาประคองหุ้นเป็นใคร? เพราะเที่ยวก่อน take profit แบบฮาร์ดคอร์เกินไป คนเล่นเลยกลัวหัวหดจนถึงทุกวันนี้จ้า!

ตบท้ายกันที่หุ้นเล็กแต่จี๊ดจ๊าดอย่าง GFC เพื่อแสนอให้กับนักลงทุนที่ชื่นชอบเรื่องเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพราะเมื่อมองถึงสังคมที่แปรเปลี่ยนไปจากเดิม (มีลูกยากขึ้น) มันทำให้เห็นว่า นี้เป็นหุ้นที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของคนบางกลุ่ม แถมคนกลุ่มนี้เป็นคนมีเงินเสียด้วย เลยเชื่อขนมกินได้เลยว่า ปีหน้าโตได้อย่างแน่นอน! ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 11.60 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 475 ล้านบาท เหมาะทั้งการสวนกระแสพะย่ะค่ะ

Back to top button