เดลต้าเขย่าตลาด
วันศุกร์ที่ผ่านมาปู่ SET ยังมีอาการเสียทรง “ผงกหัวไม่ขึ้น” อีกตามเคย...จนทรุดลงไปอีกปิดที่ระดับ 1,471.43 จุด -10.71 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 7.31 หมื่นลบ.
วันศุกร์ที่ผ่านมาปู่ SET ยังมีอาการเสียทรง “ผงกหัวไม่ขึ้น” อีกตามเคย…จนทรุดลงไปอีกปิดที่ระดับ 1,471.43 จุด ลบไป 10.71 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.31 หมื่นล้านบาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสิ่งเดียวคือ แรงกดดันจากหุ้น DELTA ล้วนล้วน เพราะมี Impact ลบต่อตลาดมากถึง 21 จุด เนื่องจากบริษัทแม่ทำรายการขายบิ๊กล็อตในราคาต่ำกว่ากระดาน ปะปนไปด้วยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลงเล็กน้อยเช่นกันเจ้าค่ะ
อย่างไรก็ตาม งานนี้หากไม่นับรวมหุ้น DELTA เดี๊ยนขอพูดเลยว่าหุ้นไทยควรบวกกว่า 10 จุดด้วยซ้ำ!!! เนื่องจากได้มีการทำ “Window Dressing” คือทำราคาปิดสิ้นงวดไตรมาส 3/66 โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ปรับขึ้นรับผลดีการปรับขึ้นดอกเบี้ยทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ดีขึ้น รวมไปถึงหุ้นบลูชิพตัวอื่น ๆ อีกด้วยต่างปรับตัวขึ้นช่วยพยุงตลาดไม่ให้ลงแรงไปกว่านี้ เอาเป็นว่าช่วงนี้ “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนดูสถานการณ์โดยรวมไปก่อนพระเจ้าค่ะ
สำหรับรายของหุ้น AOT ปรับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 69.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.72% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.29 พันล้านบาท ยิ้มรับสัญญาณบวกจากนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเพิ่มสูงชัดเจน หลังรัฐบาลเริ่มมาตรการฟรีวีซ่านับตั้งแต่ 25 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา ขณะที่โบรกฯ คาดกำไรไตรมาส 4/66 อยู่ราว 4-5 พันล้านบาท ให้ราคาเป้าหมายปี 67 ไว้ที่ 85.25 บาท เดี๊ยนมองว่ามันอาจยังเป็นจังหวะให้ผู้เล่นเข้าไปช้อนซื้อหลังต่ำกว่า 70 บาทนะจ๊ะ
เช่นเดียวกันรายของหุ้น RS ปิดจ๊อบรับเงินลงทุนก้อนโต 1.6 พันล้านบาท จากค่ายเพลงชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก “ยูนิเวอร์แซล มิวสิค” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…พร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจบริหารลิขสิทธิ์เพลง “อาร์เอสมิวสิค” สร้างการเติบโตร่วมกันทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ราคาหุ้นตอบรับทันควันวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.60 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.69% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 76 ล้านบาท งานนี้ “โมนิก้า” แอบเชียร์เบา ๆ ว่าอาจได้เห็นไปทดสอบต้านเดิม 15.00-15.20 บาทนะจ๊ะสิบอกให้!!
เหมือนกับในรายของหุ้น TACC ซาบซ่ามากแม่แบบตั้งตัวไม่ทัน…ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นแรงปิดที่ระดับ 4.78 บาท บวกไป 0.46 บาท หรือขึ้นไป 10.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52 ล้านบาท ย้ำถึงพื้นฐานบริษัทฯ แกร่ง หลังจากหลายฝ่ายมั่นใจว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 3/66 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมบริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% แล้วอย่างนี้แนวต้านบริเวณที่ระดับ 5.00-5.15 บาท คงไม่ไกลเกินเอื้อมเดี๊ยนว่าค่ะ
ส่วนรายที่น่าลงทุนอย่าง TTB รับเซนติเมนต์บวกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) จะปรับตัวขึ้นนั่นเอง งานนี้จึงสะท้อนไปยังราคาหุ้นบนกระดานสามารถขึ้นไปแตะที่ระดับ 1.72 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 1.78% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 270 ล้านบาท “โมนิก้า” เห็นราคาหุ้นขึ้นมาเบรกบริเวณต้านแรกแล้วขอกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าช่วยบันดาลให้ไปต่อบริเวณต้านเดิม 1.75-1.80 บาท ด้วยกันเจ้าค่ะ
ปิดท้ายในส่วนของหุ้น JMT ดีดตัวทะลุเส้น 200 วันอีกครั้ง พร้อมวอลุ่มสนับสนุนทำให้ราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 47.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 720 ล้านบาท หากดูสัญญาณเทคนิคคาดราคามีโอกาสทดสอบแนวต้าน 49–50 บาท เห็น ๆ!! เพราะโมนิก้ายังมองบวกรับข่าวจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐฯ ทั้งการพักหนี้เกษตร, การลดภาระค่าครองชีพ และการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ล้วนแล้วแต่หนุนให้ธุรกิจการติดตามหนี้ดีขึ้นเจ้าค่ะ