ชั้นใต้ดินที่หนึ่ง

คำพูดติดตลกในเกาหลีใต้ระดับแมงเม่าเรียกหุ้นตอนขาลงนอกเหนือความคาดหมายที่คิดว่านี่คือราคาที่ติดพื้นแล้ว ลืมไปว่ายังมีชั้นใต้ดินอยู่


คำพูดติดตลกในเกาหลีใต้ระดับแมงเม่าเรียกหุ้นตอนขาลงนอกเหนือความคาดหมายที่คิดว่านี่คือราคาที่ติดพื้นแล้ว ลืมไปว่ายังมีชั้นใต้ดินอยู่ น่าจะเอามาใช้กับตลาดหุ้นไทยยามนี้ที่ลงมาอยู่ใต้ระดับ 1,475 จุด ราคาหุ้นกำลังร่วงลงมาสู่ชั้นใต้ดินชั้นที่หนึ่ง ส่วนจะมีชั้นที่สองหรือไม่ยังหวั่นใจอยู่เหมือนกัน หลังจากที่ค่าเงินบาทร่วงลงมาอยู่ที่ 36 บาทต่อดอลลาร์

เช้าวานนี้ตลาดเงินบาทเปิดที่ 36.74  ตอนบ่ายอ่อนค่าลงอีกที่ 36.84  ถ้าไม่มีการแทรกแซงจากแบงก์ชาติค่าเงินบาทอาจจะทะลุ 37 บาทเมื่อไรก็ได้ หลังจากที่ดอลลาร์แข็งขึ้นมาอีกจากการที่รัฐสภาอเมริกันผ่านร่างกฎหมายที่ทำให้ไม่ต้องมีระบบชัตดาวน์หรือการระงับการใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ของพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาซึ่งเป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ตลาดกลับไปเปลี่ยนมุมมองใหม่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อสู้กับเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีก

ดัชนีตลาดหุ้นไทยหรือ SET เช้าวานนี้ซึ่งเปิดตลาดด้วยแรงบวกจากการเก็งกำไรของหุ้นกลุ่มธนาคารที่จะประกาศงบภายในวันที่ 20 ตุลาคมนี้หลังจากที่มีการคาดหมายว่าจะมีกำไรโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมากในการปรับขึ้นดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝากพร้อมกัน แต่ก็มีแรงเทขายออกมาจากฟันด์โฟลว์หรือกองทุนเก็งกำไรจากต่างชาติ ทำให้ดัชนีที่ทำท่าบวกแรงถึง 1,478 จุด ร่วงลงมาเหลือเพียง 1,474 จุด จากแรงเทขายหุ้นธนาคารโดยเฉพาะหุ้น BBL ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรโดดเด่นในไตรมาสต์ที่ 3 นี้จนทำให้ราคาหุ้นเมื่อปิดตลาดติดลบไป 0.50 บาท

สัญญาณทางเทคนิคของดัชนี SET ที่เปิดสูงปิดต่ำเมื่อวานนี้ (แม้ว่าจะเป็นบวกก็ตาม) ส่อเค้าว่าดัชนีน่าจะมีโอกาสปรับตัวลงไปอีกสู่ชั้นใต้ดินที่สองเพราะชั้นใต้ดินที่หนึ่งยังสูงเกินไปอยู่

คำถามที่ว่าฐานของดัชนีชั้นที่สองควรจะอยู่ที่เท่าไร คำตอบคือ 1,450 จุด  ส่วนชั้นใต้ดินที่สามหรือสี่จะมีหรือไม่ ต้องถามใจของฟันด์โฟลว์ว่าจะทิ้งเงินบาทไปถือดอลลาร์อีกนานเท่าไร  คำตอบนี้คงจะทำให้บรรยากาศของตลาดหุ้นไทยน่าอึดอัดยิ่งขึ้น

Back to top button