CHAYO ได้หนี้ก้อนโต-ปั้นกำไร.!
หลังผ่านพ้นมาตรการยืดหนี้-พักหนี้ ก็จะมีหนี้ก้อนโตที่เคยซุกซ่อนไว้ใต้พรม อุ๊ย...ที่เคยอุ้มไว้ ปรากฏชัดมากขึ้น
หลังผ่านพ้นมาตรการยืดหนี้-พักหนี้ ก็จะมีหนี้ก้อนโตที่เคยซุกซ่อนไว้ใต้พรม อุ๊ย…ที่เคยอุ้มไว้ ปรากฏชัดมากขึ้น จากการที่แบงก์ต้องเร่งระบายหนี้เสียออกมา (เพื่อเลี่ยงการตั้งสำรองฯ ก้อนโต) ทั้งหนี้ที่มีหลักประกัน และหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน รวมถึงหนี้ที่เรียกว่า หนี้ปลาเป็นและหนี้ปลาตาย..!!
โดยข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ระบุว่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 มีตัวเลขหนี้เสีย (NPL) อยู่ที่ระดับ 9.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2566 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8 แสนล้านบาท
จากสถานการณ์ดังกล่าว ก็เข้าสู่ยุคทองของบริษัท AMC หรือบริหารหนี้เสีย หนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ที่จะได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ เพราะจะมีหนี้เสียเข้ามาเติมในพอร์ตมากขึ้น…
โดย ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2566 CHAYO มีพอร์ตหนี้ที่อยู่ภายใต้การบริหารกว่า 85,736 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้เสียที่มีหลักประกัน 20,676 ล้านบาท และหนี้ไม่มีหลักประกัน 65,060 ล้านบาท (ไม่รวมทรัพย์รอการขายหรือ NPA อีกจำนวน 368.05 ล้านบาท)
ที่น่าสนใจ ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 สามารถประมูลหนี้ก้อนใหม่ได้แล้ว 8,653.78 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็น หนี้ของบริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทบริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด รวมกัน 6,912.74 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วงระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-20 มิ.ย. 2566 มียอดหนี้ที่ปรับปรุงยอดจากเดิม 5,418.72 ล้านบาท, วันที่ 24 ก.ค. 2566 ชนะการประมูลหนี้ไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง 1,130.39 ล้านบาท และวันที่ 28 ก..ย. 2566 ชนะการประมูลหนี้ไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งอีก 363.63 ล้านบาท
ด้านบริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย เจวี จำกัด ประมูลหนี้ใหม่ได้แล้ว 1,741.04 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วงระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2566 มียอดหนี้อยู่ที่ 117.97 ล้านบาท, วันที่ 31 ส.ค. 2566 ชนะการประมูลหนี้ไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง 94.92 ล้านบาท และวันที่ 19 ก.ย. 2566 ชนะการประมูลหนี้ไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งอีก 1,528.15 ล้านบาท
เมื่อมีหนี้ก้อนโตเข้ามา ก็หมายถึงโอกาสในการปั้นกำไรก้อนใหญ่น่ะสิ..!?
เพราะถ้าย้อนไปดูฝีไม้ลายมือในการบริหารหนี้ของ CHAYO ในช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่ธรรมดานะ แม้จะต่ำกว่าอีกค่ายคู่แข่งไปนี้ดดด ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 30-40% ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิของ CHAYO อยู่ที่ 27-30% แต่ถือว่าทำได้ดี
โดยในปี 2561 มีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท จากรายได้รวม 264 ล้านบาท ส่วนปี 2562 กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 111 ล้านบาท จากรายได้รวม 317 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิแตะ 155 ล้านบาท จากรายได้รวม 520 ล้านบาท และปี 2564 กำไรสุทธิพุ่งเป็น 219 ล้านบาท จากรายได้รวม 805 ล้านบาท
ส่วนปี 2566 นี้จะเติบโตซาบซ่าขนาดไหน..? อันนี้มิอาจทราบได้
แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ CHAYO นะ คาดผลการดำเนินงานปกติของบริษัทในปี 2566 จะเติบโตดีราว 30% จากปีก่อน จากกระแสเงินสดที่ดีขึ้น มาจากทั้งยอดรับชำระที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และการขาย NPA ที่คาดว่าจะมีการขายที่ดินแปลงใหญ่ในช่วงไตรมาส 4/2566
โดยแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายสูงสุด 11.70 บาท
ก็ยังมีอัพไซด์อีกเพียบ…
แต่ถ้าใครจะเห็นต่างจากนี้ก็ไม่ว่ากัน…นานาจิตตัง..!!
…อิ อิ อิ…