พาราสาวะถี

บิ๊กเซอร์ไพรส์ของ อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ประกาศว่าจะเกิดขึ้นวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่มีอะไรหวือหวา แต่น่าสนใจกับการควงคู่ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.กล่าวโทษ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. และกรรมการ ก.ตร.อีก 9 คน ที่มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. โดยข้อกล่าวหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91

มีคำอธิบายจากเสรีพิศุทธ์ว่า การยื่นร้องครั้งนี้เพราะการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ไม่ยึดหลักอาวุโส ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ง.(4) ที่มีหลักการให้การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงความอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน แต่เศรษฐากลับเสนอชื่อพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ซึ่งเป็น รองผบ.ตร.ที่มีอาวุโสเป็นลำดับที่ 4 ให้ที่ประชุม ก.ตร.พิจารณา และกรรมการ ก.ตร.ทั้ง 9 ก็ให้ความเห็นชอบ งานนี้มีการออกตัวว่าที่ทำไปเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เกี่ยวกับการเมือง

พร้อมกับแจกแจงด้วยว่า “ก่อนหน้านี้เคยเตือนคุณเศรษฐาไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ฟัง แล้วผมจะมีไมตรีทำไม เพราะคุณเป็นคนทำลายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณเป็นคนเสนอ ถึงคุณงดออกเสียง แต่แค่คุณเสนอก็ผิดแล้ว เพราะเป็นต้นเหตุ ถ้าไม่เสนอคนอื่นจะลงมติได้อย่างไร” แก้ต่างกันอย่างนี้ต้องดูว่าลูกพรรคเสรีรวมไทยที่ยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะอึดอัดใจหรือไม่ การที่หัวหน้าพรรคอ้างว่ามีอิสระในการดำเนินการ แต่สิ่งที่ทำไปมันคือการเล่นใหญ่ ปลายทางคือการล้มรัฐบาลทั้งคณะ

หน้าที่ในการตอบโต้เรื่องนี้ ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาลแจกแจงว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร.เป็นไปตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ ไม่ใช่แค่นายกฯ แต่คนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมรับรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นและสามารถชี้แจงได้ นายกฯ ไม่กังวลเรื่องนี้ แต่ระบุว่า นึกไม่ถึงว่าจะเป็นปัญหา และไม่ควรจะเป็นเรื่อง เสียเวลา เสียสมาธิในการทำงาน แต่เมื่อเป็นเรื่องขึ้นมาแล้ว สังคมอยากรู้ จึงมอบหมายให้ตนมาชี้แจง ตอกกลับกันแบบเบา ๆ

ไม่หวั่นไหวต่อแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นอยู่แล้วสำหรับนายกฯ คนที่ 30 ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย สถานการณ์เฉพาะหน้าปัญหาน้ำท่วมเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ สุดสัปดาห์นี้นำทีมลงพื้นที่อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด ติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมดูแลชาวบ้านและมอบสิ่งของช่วยเหลือ การทำงานแบบนี้อาจดูเหมือนสร้างภาพ แต่ได้ใจประชาชน ไม่ใช่ผู้นำที่ทำตัวเหินห่างเนื่องจากห่วงภาพลักษณ์ ความปลอดภัยส่วนตัวมากกว่าความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย เหมือนท่านผู้นำที่เพิ่งวางมือไป

อย่างไรก็ตาม ไม่เฉพาะเรื่องที่เสรีพิศุทธ์ไปยื่นร้อง ป.ป.ช. ตอนนี้ปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยจากการประกาศตัดขาดกับ ทักษิณ ชินวัตร ของ เฉลิม อยู่บำรุง ก็อาจจะกระทบต่อความตั้งใจในการทำงานของเศรษฐา แต่ไม่น่าจะสะเทือนถึงเสถียรภาพของรัฐบาล กรณีนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ เป็นเรื่องของคนที่ไม่ได้ดั่งใจ และอาจจะมีเรื่องให้ผิดหวังในอนาคต จึงรีบชิงตัดตอนออกตัวล่วงหน้าก่อนที่จะเสียหน้าภายหลัง ที่ วัน อยู่บำรุง ผู้ลูกโพสต์ว่าตระกูลนี้สอพลอไม่เป็น มันยิ่งสะท้อนให้เห็นวิธีการทางการเมืองแบบโบราณ

เรียกร้องความสนใจเปิดทางให้เกิดการเจรจา เข้าไปหาไปพบแล้วทุกอย่างก็จะจบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างที่ ภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์เหมือนรู้ใจคนที่ไปคุยด้วย กับการที่บอกว่าเฉลิมอยู่กับพรรคเพื่อไทยมานาน รวมถึงให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่พรรคในเรื่องต่าง ๆ อยู่แล้ว ตนจะเข้าไปพบในเร็ว ๆ นี้ และขอย้ำว่าไม่มีปัญหาขอให้ทุกคนสบายใจได้ เฉลิมยังเป็นที่เคารพของคนในพรรค และเป็นผู้มี่มีบทบาทในพรรคอยู่แล้ว

มีประเด็นต้องขีดเส้นใต้จากคำพูดของเสี่ยอ้วนครั้งนี้คือ ข้อกล่าวอ้างจากข่าวปล่อยที่ออกมาจากฟากของเฉลิมที่ว่าทักษิณบอกเฉลิมกับลูกพูดกวนโอ๊ยจึงไม่ให้ตำแหน่ง ไปได้ยินคำพูดนี้มาจากไหน อย่างไร เพราะตัวของอดีตนายกฯ ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หรือว่าจะมีพวกเสี้ยมคอยยุแยง ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ผู้ยิ่งใหญ่ฝั่งธนบุรีคิดต่อไปได้ว่า เส้นทางทางการเมืองของตระกูลอยู่บำรุงกับเพื่อไทยจะต้องยุติกันเท่านี้ จะว่าไปการย้ายสังกัดหรือจะตั้งพรรคการเมืองเอง ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมีโอกาสร่วงมากกว่ารุ่ง

เริ่มนับ 1 แล้วกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อเศรษฐานั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา งานนี้ย้ำชัด “ในฐานะนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพราะเป็นเรื่องสำคัญ” พร้อมกำชับกรรมการทุกคนร่วมกันดำเนินงานอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง และขอให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังและกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ประสาคนที่ทำงานภาคธุรกิจมาเพื่อให้เกิดความชัดเจน และโปร่งใสในสิ่งที่จะดำเนินการ เศรษฐาจึงบอกกับกรรมการในที่ประชุมอย่างตรงไปตรงมาว่า ขอให้ผู้ที่เป็นกรรมการชุดนี้ซึ่งล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอแนะแนวความคิดออกมา หากมีอะไรที่อยากจะเสนอแนะ หรือมีข้อข้องใจไม่สบายใจ ก็ขอให้นำมาพูดคุยหารือกันในนี้ให้ละเอียดเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในที่ประชุม หากมีอะไรที่ยังไม่ได้นำมาพูดคุยถกเถียงกัน หรือมีข้อขัดแย้งกัน ก็ขอให้เก็บกันไว้ในห้องนี้แล้วพูดคุยกันในหมู่คณะกรรมการหรือผู้ใหญ่เพื่อให้ได้ทางออกที่สมบูรณ์ และอย่าทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน

น่าเห็นใจเพราะนโยบายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ประเด็นที่ถูกจับตามากที่สุดคือที่มาของงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการ 560,000 ล้านบาท จะใช้วิธีการใด ดังนั้น จึงต้องให้ได้ข้อสรุปที่เห็นพ้องต้องกันของที่ประชุม ซึ่งเศรษฐาถึงกับบอกว่าขอร้องเรื่องนี้ เพราะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล และการแต่งตั้งคณะกรรมการนี้ ตนต้องการให้เป็นสิ่งยืนยันความตั้งใจที่จะดำเนินการเรื่องนี้จริง ๆ เป้าหมายที่ตั้งไว้จะเริ่มดำเนินการในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า น่าลุ้นจะเป็นไปได้หรือไม่