สังคมข่าวหุ้น

ดัชนีวานนี้บวกขึ้นมาได้ 1.30 จุด มาจากหุ้นเดลต้าฯ DELTA เพราะปิดบวก 1.25 บาท มาที่ 85.00 บาท มีผลต่อดัชนีประมาณ 1.1 จุด


ดัชนีวานนี้บวกขึ้นมาได้ 1.30 จุด มาจากหุ้นเดลต้าฯ DELTA เพราะปิดบวก 1.25 บาท  มาที่ 85.00 บาท มีผลต่อดัชนีประมาณ 1.1 จุด รองลงมาคือหุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ที่กลับมาบวกได้ 0.75 บาท ปิด 69.25 บาท มีโอกาสจะกลับขึ้นมาที่ระดับ 70.00 บาท อีกครั้ง หลังถูกกองทุนปรับพอร์ตจากเหตุการณ์สยามพารากอน หากภายในวันนี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า AOT กลับขึ้นมาที่ 70.00 บาท ถือว่าวิ่งขึ้นมาได้เร็วกว่าที่ตลาดประเมินกันไว้

บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ราคาหุ้นดีดขึ้นต่อเนื่องรับข่าวอาจกลับเข้าสู่การคำนวณดัชนี SET50 แต่ราคายังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ ส่วนทิศทางผลประกอบการไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะออกมาดี มีโอกาสทำนิวไฮ จากการเก็บเงินสดได้เพิ่มขึ้น มาร์จิ้นแข็งแกร่ง และส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ที่ต้องระวังคือ ราคาที่ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง และเมื่อข่าวทุกอย่างมีความชัดเจน อาจจะเกิดแรงขายทำกำไรจากคนที่เข้าไปช่วงไม้แรก ๆ ใครรู้ตัวว่าเป็นไม้หลัง หากมีกำไรแล้ว ต้องเข้าเร็วออกเร็ว

กลุ่มไฟแนนซ์ กลับมาคึกคักอีกครั้งทั้ง TIDLOR SAWAD MTC รวมถึงกลุ่มทิสโก้ TISCO เข้าใจว่าน่าจะมีปัจจัยเชิงบวกรับข่าวทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยหมดรอบช่วงขาขึ้น นโยบายของรัฐบาล เช่น การพักหนี้เกษตรกร ย่อมส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ด้านอื่น ๆ รวมถึงยอดขายรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ น่าจะรับผลบวก ทำให้เข้ามาเก็งกำไรกลุ่มนี้กัน

หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พากันดิ่งเหวทั้งหมด SIRI SC AP LH QH ORI ส่วนปัจจัยกดดัน น่าจะมาจากดอกเบี้ยนโยบายที่ กนง.ปรับขึ้นมาอีก 0.25% มาอยู่ที่ 2.50% ตัวเลขจีดีพีที่อาจไม่ได้เติบโตตามที่คาดกันไว้ และอีกหลากหลายปัจจัย แต่สำหรับนักลงทุนสายปันผล และลงทุนแบบระยะกลางถึงยาว เป็นจังหวะในการเข้าสะสมได้ทั้งหมดที่เขียนมา เพราะอสังหาฯ ก็มีช่วงที่อาจวูบ ๆ บ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่พอเวลาดีดขึ้น มีโอกาสกำไรทั้งส่วนต่างราคา และได้เงินปันผลจากยีลด์ที่สูงด้วย

กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน DIF ที่บริเวณราคา 9.00-9.05 บาท นี่ก็น่าสะสม เพราะแนวโน้มเงินปันผลงวดไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.23 บาทต่อหน่วยลงทุน หากคิดจากราคา 9.00 บาท จะได้ยีลด์ต่อไตรมาสสูงเกือบ 3% (เฉลี่ยทั้งปี 11-11.50%) เช่นเดียวกับกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน JASIF ที่ไตรมาส 3/2566 น่าจะปันผลระหว่าง 0.16-0.18 บาทต่อหน่วยลงทุน คิดเป็นยีลด์ต่อไตรมาสประมาณ 2.5-2.6% หรือเฉลี่ยทั้งปี 9% สะสมกลุ่มหุ้นเหล่านี้เข้าพอร์ตไว้บ้าง

COCOCO ราคาหุ้นนับจากเข้าไอพีโอ เมื่อ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ยังอยู่เหนือราคาไอพีโอ 5.50 บาทได้อย่างแข็งแกร่ง หากกลางเดือน ต.ค.นี้ ราคายังอยู่ระดับ 9.00-10.00 บาท ถือว่าสอบผ่านในช่วง “ไอพีโอ 30 วันอันตราย” แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะสะท้อนได้ดีคือ การเลือกนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาถือหุ้น แบบเลือกกลุ่มนักลงทุน (รายใหญ่) ได้ถูก บวกกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม น่าจะยังถือไว้อย่างเหนียวแน่นแน่นอน หากผ่านไปอีกสัก 2-3 เดือน แล้วยังรักษาราคานี้ไว้ได้อยู่ ถือว่า สอบผ่าน

Back to top button