ถึงเวลาของชาวสวน!โมนิก้าและทีมงาน

*พฤติกรรมการขายหุ้นของฝรั่งตาน้ำข้าวที่เกิดขึ้นในคราวนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวความคิดที่เป็นไปในทางที่แย่ลงอย่างสุดซอย จึงกระหน่ำสาดหุ้นออกมาอีก 5.93 พันล้านบาท จนยอดเทขายรวมพุ่งขึ้นมาแตะระดับ 1.50 แสนล้านบาท อาจเป็นภาพการลงทุนที่ค่อนข้างดูน่ากลัวก็จริง แต่เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้นะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้ถึงไม่แปลกใจที่นักลงทุนบางส่วนเริ่มทำตัวเป็นชาวสวน เพราะเมื่อมองจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก หลายอย่างชี้นำไปในทางเดียวกันว่า “ของดี ราคาถูก” มีให้ช็อปปิ้งไม่อั้น วานนี้ถึงเห็นแมงเม่าปีกแข็งเข้ามาเก็บหุ้นอีก 2.75 พันล้านบาท ในขณะที่กองทุนตัวแสบก็ซื้อสวนเข้าไปในพอร์ต 3.57 พันล้านบาท มันคือภาพที่ฟ้องให้รู้ว่า ดัชนีไม่น่าจะทิ้งตัวลงแรงไปกว่านี้อีกแล้วนะคะ

*เนื่องจากผู้เล่นเริ่มเห็นพ้องต้องกันว่า ตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวร้ายไปเยอะแล้ว และต่อจากนี้คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้วกระมั้ง! ดัชนีถึงพยายามประคองตัวยืนเหนือแนวรับ 1,250 จุด แถมสัปดาห์ก่อนดัชนีก็เด้งกลับขึ้นไปยังบริเวณ 1,300 จุดอย่างรวดเร็ว ก็มีจุดกำเนิดจากแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นตรงบริเวณดังกล่าว “โมนิก้า” ถึงอยากเห็นแฟนคลับทำตัวเป็นชาวสวนอีกรอบไงล่ะค่ะ

*ถึงกระนั้นก็ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยงไว้คอยเสี้ยมสอน หากคิดจะเล่นอย่างจริงจัง ต้องเผื่อใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งเห็นได้จากหุ้น สุสาน..อุ๊ย..สื่อสาร ยังถูกถล่มไม่เลิก ล้วนมีนัยสำคัญในตัวของมันเอง “โมนิก้า” ไม่จำเป็นต้องพร่ำพรรณนาทุกขั้นตอน เพราะอาจเหมือนเป็นการสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ จึงขอเม้าท์ในประเด็นแหล่มๆ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็แล้วกันเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะในรายของหุ้นดีแตก DTAC  ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง คนเล่นต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในการทำธุรกิจให้มากๆ  เนื่องจากหน่วยงานที่คอยกำกับอย่าง กสทช.  ออกมาตอกตะปูปิดฝาโลงอย่างเป็นทางการว่า  ไม่สามารถขยายเวลาสัมปทานคลื่น 1800 MHz ของ  กสท.  ให้กับ บมจ.ดีแทค  เพื่อเช่าทำสัญญาโครงข่าย 4G ไปถึงปี 2568  แต่ราคาหุ้นในกระดานกลับเด้งขึ้นมาปิดที่ 29 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.50%  มันใช่เรื่องไหมเนี่ย?

*ส่วนในรายของ JAS เห็นอย่างทนโท่ว่า ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ แถมเครื่องมือเครื่องไม้ก็พร้อมรบเต็มที่ ซึ่งตรงกับสโลแกนที่ว่า “เงินพร้อม คนพร้อม” เหตุไฉนกลับมีแรงเทขายกระหน่ำออกมาอย่างไม่ดูดำดูดี จนราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ระดับ 3.10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 16% ด้วยมูลค่า 6 พันล้านบาท มันดูพิลึกกึกกือหรือไม่..ใครก็ได้ ช่วยตอบให้เดี๊ยนชื่นใจสักทีเถอะ

*ผิดกับในรายของ TRUE รายนี้มีตัวเลขมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ตั้งแต่เริ่มประมูล 4G หุ้นตัวนี้ได้รับผลกระทบทางราคาน้อยกว่าเจ้าอื่น และดูเหมือนว่า ได้กลายเป็นหุ้นที่เด้งเร็วสุดในกลุ่มนี้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.70 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น แถมจิ้งจกแถวรัชดาฯซอย 4 ร้องกันระงมว่า เล่นได้..เล่นได้..เล่นได้ มันย่อมมีฮิ้นไม่มากก็น้อยล่ะหว่า?

*เปลี่ยนบรรยากาศมาเม้าท์ถึงพวกม้ามืดกันบ้างดีกว่า และรายแรกที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์ถึงในเที่ยวนี้ก็คือ JTS ซึ่งเป็นเพียงเจ้าเดียวที่รับกินงานวางระบบที่บริษัทแม่จะป้อนงานให้ ราคาหุ้นก็เลยเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.93 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 30%  พร้อมกับโดนขึ้นเครื่องหมาย Trading Alert  มันเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับความเสี่ยงหรือไม่ ลองคิดกันดูสักนิดนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SIM ประโคมข่าวเรื่องยอดขายจะพุ่งกระฉูด เพราะค่าย AIS ต้องอัดโปรโมชั่นแจกมือถือฟรี เพื่อป้องกันลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 10 ล้านเลขหมายในระบบ 2G หันไปซบค่ายคู่แข่ง ราคาหุ้นเลยวิ่งระเบิดระเบ้ออย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบหลายเดือน วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งมาจบที่ราคา 1.32 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยวอลุ่มที่แน่นเอี้ยดแบบนี้..มันเป็นกระแสวูบวาบ หรือ ของจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวค่ายสีเขียวเขาก็ออกมาแจงเองล่ะค่ะ

*สำหรับในรายที่สวนกระแสจนน่าตกใจในเที่ยวนี้กลายเป็นมิสเตอร์ K เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นอีกรอบ แต่แพตเทิร์นใหญ่ของหุ้นยังเป็นลักษณะค้อนหัวกลับ “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยแน่ใจว่า การเด้งขึ้นมาปิดที่ 6.55 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท เป็นการเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น หรือเป็นแค่การเด้งเพื่อลงต่อ จึงขอให้ผู้เล่นเฝ้าติดตามกันเอาเองนะคะ

*ป.ล.การเล่นหุ้นวันนี้ต้องทันต่อเหตุการณ์ และต้องอ่านเกมให้ขาด ไม่เช่นนั้นจะหาจังหวะเป็นชาวสวนไม่เจอ และอาจกลายเป็นชาวดอยโดยไม่รู้ตัวนะตัวเอง..อิอิอิ