PRIME ปริศนา 3 วัน 3 ฟลอร์.!

จากปรากฏการณ์ 3 วัน 3 ฟลอร์ของหุ้นบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME โดยฟลอร์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 6 ต.ค. 2566 ฟลอร์ถัดมาเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ต.ค. 2566 และฟลอร์ที่ 3 เกิดสด ๆ ร้อน ๆ ช่วงเปิดตลาดฯ เช้าวานนี้ (10 ต.ค.) โดยทรุดลงไปแตะ 0.38 บาท…

ทำให้จากเดิมหุ้น PRIME มีสถานะเป็นหุ้นบาทเศษ ก็ดาวน์เกรดมาเป็นหุ้นเศษบาทเรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว…

ก็ไม่รู้ว่าจะมีฟลอร์ที่ 4 ฟลอร์ที่ 5 และฟลอร์ที่ 6 ตามมาอ๊ะป่าว..??

ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น PRIME กันนะ…ทำไมถึงโดนถล่มขายไม่ยั้งมือขนาดนี้.? อยากรู้จัง…

เท่าที่สแกนดู มีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง บ้างก็ว่าเกิดจากหุ้นกู้ส่อเค้าจะมีปัญหาผิดนัดชำระหนี้..?

อีกกระแสก็ว่า เกิดจากออกหุ้นกู้แล้วขายไม่หมด ซึ่งก่อนหน้านี้ PRIME ได้ออกหุ้นกู้รวม 2 ชุด วงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท ชุดแรก อายุ 1 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.95% ต่อปี และชุดที่สอง อายุ 2 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 6.15% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยกำหนดขายวันที่ 3-4 ส.ค. และวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา…แถมเมาท์มอยกันอีกว่า มีบริษัทหลักทรัพย์บางแห่ง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นกู้ PRIME ประกาศถอนตัวกลางคันซะงั้น…

ล่าสุดของล่าสุด บริษัทชี้แจงว่า “บริษัทฯ มีการเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 200 ล้านบาท ในเดือน ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา โดยขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และขายหุ้นกู้ 200 ล้านบาท ได้ครบทั้งจำนวน ซึ่งบริษัทฯ ได้รายงานการขายหุ้นกู้และการใช้เงินต่อสำนักงานก.ล.ต.แล้ว

ส่วนกรณีที่มีบริษัทหลักทรัพย์บางแห่ง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ประกาศยกเลิกการจำหน่ายหุ้นกู้  ก็เป็นการขอยกเลิกก่อนที่บริษัทฯ จะยื่นข้อมูลขออนุมัติการจำหน่ายหุ้นกู้ต่อสำนักงานก.ล.ต. อีกทั้งหุ้นกู้รุ่น PRIME239A จำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระเดือน ก.ย. 2566 ที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ ได้ชำระคืนหุ้นกู้เต็มจำนวนเรียบร้อยแล้วตามกำหนดเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2566”

โปรดเข้าใจตรงกันนะ..!!

หลังจากมีคำชี้แจงดังกล่าว ก็เกิดปรากฏการณ์รถไฟเหาะตีลังกากลับมาชนซีลลิ่งหน้าตาเฉย…โดยวานนี้ปิดตลาดที่ 0.72 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 30.91% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่อุ่นหนาฝาคั่ง 465.29 ล้านบาท

แหม๊…ถ้าชี้แจงเร็วกว่านี้สักหน่อย ก็คงไม่เกิดปรากฏการณ์หุ้น PRIME ถูกถล่มขาย 3 วัน 3 ฟลอร์หรอกมั้ง..!?

แต่จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามงบการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 PRIME มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 268.17 ล้านบาท แต่มีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีอยู่ที่ 918.64 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้สถาบันการเงิน 419.24 ล้านบาท และหุ้นกู้ 499.39 ล้านบาท

โอเค…คราวนี้แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปได้ แต่หาก PRIME เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เกรงว่าจะมีปัญหาสภาพคล่องตามมาได้นะ…

สอดรับกับมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2566 ซึ่งไฟเขียวให้เพิ่มกรอบวงเงินการออกหุ้นกู้จากวงเงินเดิม 5,000 ล้านบาท เพิ่มอีก 3,350 ล้านบาท เป็นวงเงินใหม่ไม่เกิน 8,350 ล้านบาท ก็สะท้อนถึงสภาพคล่องของ PRIME ค่อนข้างฝืดเคืองนะเนี่ย

แล้วถ้ายังจำกันได้ เมื่อช่วงปลายปี 2565 PRIME ชนะการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 77 เมกะวัตต์ ในจังหวัดกำปงชนัง กัมพูชา ซึ่งเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562…แต่เค้าเมาท์กันว่า โครงการนี้น่าจะเป็นทุขลาภเสียละมั้ง..!?

เอาเป็นว่า แม้ปริศนา 3 วัน 3 ฟลอร์ รอบนี้ เริ่มเห็นคำตอบลาง ๆ เลือน ๆ แล้ว…

แต่ทิศทางธุรกิจของ PRIME ก็ยังเหมือนโฟกัสที่เบลอ ๆ อยู่นะ..!? หรือใครจะเถียง…

…อิ อิ อิ…