กลเกมสลับร่าง??แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
หุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC เข้าเทรดวันแรก เริ่มซื้อขายที่ตลาด ในวันที่ 21 ธันวาคม 2558 เรียบร้อยไปแล้ว ถือว่าทำได้ดีอย่างมาก เพราะ หุ้นจำนวนมากที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ราคาร่วงจากเดิมไปแค่ 0.01 บาทเท่านั้น ทำได้ดีเกินคาดมาก
หุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC เข้าเทรดวันแรก เริ่มซื้อขายที่ตลาด ในวันที่ 21 ธันวาคม 2558 เรียบร้อยไปแล้ว ถือว่าทำได้ดีอย่างมาก เพราะ หุ้นจำนวนมากที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ราคาร่วงจากเดิมไปแค่ 0.01 บาทเท่านั้น ทำได้ดีเกินคาดมาก
วิศวกรรมการการเงินของบริษัทก่อสร้างที่พยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของธุรกิจก่อสร้างที่ขึ้นๆ ลงๆ เพื่อสร้างฐานธุรกิจใหม่จากอสังหาริมทรัพย์ แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นความท้าทายที่ผู้บริหารของบริษัท ชูเป็นจุดขายเพื่อชี้ชวนให้ผู้ถือหุ้นยินยอมเพิ่มทุน หลังจากที่เพิ่มทุนมาครั้งแรกเพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง แต่ไม่ประสบความสำเร็จตามคาด ต้องยกเลิกไป
การเพิ่มทุนรอบนี้อย่างที่รู้กันดี จากหุ้นเดิม 4,215.021 ล้านหุ้น เพิ่มทุนเท่าเดิม 4,215.021 ล้านหุ้น ในราคาขายผู้ถือหุ้นเดิม หรือ อาร์โอ 0.25 บาท จากราคาพาร์ 1.00 บาท และเพิ่มทุนรองรับวอร์แรนต์แจกฟรีอีกจำนวนเท่ากัน
เมื่อทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะจากนี้ไป ก็จะได้เดินหน้าเพื่ออนาคตกัน ลืมอดีตเอาไว้เบื้องหลังให้หมด
สำหรับผู้บริหารเสียงดังฟังชัด ที่ชอบให้ใครเรียกตนเองว่า ป๋า อย่าง ชุมพล อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่นั่งในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ถึงกับโล่งอก ออกมาให้คำมั่นว่า ขอให้ความเชื่อมั่นกับผู้ถือหุ้นว่าจะดำเนินธุรกิจตามแผน เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโต และมีผลกำไร เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท รวมถึงสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางแผนที่จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรู ความสูง 8 ชั้นบนทำเลศักยภาพใจกลางสุขุมวิท ภายในเดือนมกราคม 2559 ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ และเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของ EMC ที่จะมีโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาด้วยตัวเอง
ในขณะที่ งานเดิมก็ยังคงเดินหน้างานรับเหมาก่อสร้างกับทางภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มรับงานบางส่วนตั้งแต่ปลายปี 2558 เป็นต้นไป
เรื่องทั้งหลายก็น่าจะจบลงไปเรียบร้อย เพราะก่อนหน้าที่จะมีการเพิ่มทุนนั้น ป๋าชุมพล เดินสายพบกับสื่อมวลชน และนักลงทุนมากหน้าหลายตาเพื่อบอกให้รู้ว่า ภายใต้การบริหารจัดการของป๋านั้น จะไม่มีคนชื่อ เสี่ยขุน หรือ ชนะชัย ลีนะบรรจง ที่ถอยออกจากการเป็นผู้บิรหารเป็นแค่ผู้ถือหุ้นอย่างเดียว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้มืออาชีพเป็นคนดำเนินการ
พูดอย่างนั้น บอกเป็นนัยๆ ว่า…. การดำรงอยู่ของเสี่ยขุนนั้น ทำให้หลายคนไม่สบายใจ…แต่ก็ไม่รู้อีกว่า ใครมั่งที่ไม่สบายใจ…และไม่สบายใจด้วยเรื่องอะไร ….ปล่อยให้งง
รู้กันแค่ว่า…หลังเพิ่มทุนแล้ว เสี่ยขุนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอำนาจการบริหารสั่งการในบริษัทนี้อีก
เรียกว่า …เอาที่ป๋าสบายใจก็แล้วกัน
อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้หรือยังไง ปรากฏว่า ยอดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนท่วมท้นดังที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว …แม้จะยังมีคำถามตามมาว่า เสี่ยขุนที่เคยมีชื่อในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่ง (ดูในตาราง) จะหมดอำนาจจากบริษัทได้ยังไง…ยกเว้นไม่ยอมใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน หรือขายหุ้นให้คนอื่นใช้สิทธิแทน
แม้รายชื่อผู้ถือหุ้นหลังเพิ่มทุน จะยังไม่ปรากฏออกมาในที่สาธารณะ เพราะยังไม่ถึงเวลาปิดสมุดทะเบียน แต่วันแรกของการที่หุ้นเพิ่มทุนเข้าเทรดผ่านไป ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาโผล่เข้ามาคือ วรวิทย์ ลีนะบรรจง ผู้ถือหุ้นหมายเลข 4 ของบริษัท ที่เคยมีตัวเลขถือครองหุ้น 4.20% ปรากฏว่า ได้แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ได้หุ้น EMC เพิ่มขึ้นมาจากสัดส่วนเดิม เข้าข่ายที่ต้องรายงาน โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาเพิ่มคิดเป็น 4.65%
รวมกับที่มีอยู่เดิมแล้ว หากนับใหม่ จะได้สัดส่วนเกิน 5% เพราะจำนวนหลักทรัพย์หลังเพิ่มทุน ปรากฏว่าเพิ่มเป็น 6.65% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ยังไม่มีความชัดเจนว่า หุ้นที่เพิ่มมานั้น เกิดจากซื้อเพิ่มในกระดาน หรือเพราะผู้ถือหุ้นคนอื่นโอนมาให้ หรือ ขายต่อให้ …
คำถามก็ตามมาอย่างแน่นอน เพราะ วรวิทย์ ลีนะบรรจง ไม่ใช่แค่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ EMC ตามธรรมดา แต่ยังเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ UWC และถือหุ้นใน TMILL ที่เป็นเครือข่ายถือหุ้นพ่วงต่อด้วยโครงสร้างทำนองเดียวกัน
ส่วนใครจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเสี่ยขุน ก็คงยาก เพราะ….นามสกุลเดียวกัน
คำถามที่ป๋าชุมพลอาจจะยังไม่ต้องการตอบ…แต่มีคนอยากรู้ก็คือ การถือหุ้นเพิ่มของวรวิทย์นั้น หมายความว่า ตระกูลลีนะบรรจง ยังคงมีบทบาทในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ EMC ต่อไป…ไม่ว่าจะมีเสี่ยขุนหรือไม่
แล้วที่บอกว่า เสี่ยขุนถอยหลังไปเป็นแค่ผู้ถือหุ้นธรรมดา…จึงเป็นคำถามว่า หลบไป “เชิดหุ่น” หลังฉากหรือไม่
ใครจะตอบดีเอ่ย…เพราะสอบถามไปแล้ว ป๋าชุมพล บอกว่าจำตัวเลขไม่ได้…ซะงั้นไป