‘พรอนงค์’ ภารกิจสร้างความเชื่อมั่น

เลขาธิการก.ล.ต.คนใหม่ ยอมรับว่าต้องทำงานท่ามกลางความคาดหวัง และจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับตลาดทุน


เส้นทางนักลงทุน

ปัญหาความไม่โปร่งใส ทุจริต สร้างราคาในตลาดหุ้น เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “เศรษฐา ทวีสิน” ให้ความสำคัญ และต้องการให้ทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ช่วยกันเร่งสางปมปัญหา เร่งดำเนินการทางกฎหมาย ตลอดจนให้หาแนวทางวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

นายกรัฐมนตรีชี้ชัดไปที่ 2 เคสใหญ่ คือ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 ในวันนั้นมีนักลงทุนรายใหญ่ตั้งตัวแทน หรือ “นอมินี” มารับซื้อหุ้นที่ขายผ่านการซื้อด้วยบัญชี Margin จนกระทั่งสร้างความเสียหายสูงถึงเกือบ 5,000 ล้านบาท ทำให้โบรกเกอร์เจ็บหนัก เพราะต้องมารับผิดชอบใช้หนี้จากการซื้อหุ้นดังกล่าวแทน

และเคส บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ตกแต่งบัญชี โยกย้ายถ่ายเงินไปมาระหว่างกลุ่มบริษัท เมื่อเรื่องปูด ทั้งนักลงทุน ผู้ถือหุ้นสามัญ หุ้นกู้ รวมไปถึงเจ้าหนี้ ต่างได้รับผลกระทบ บาดเจ็บปางตาย ต้องสูญเสียเงินลงทุน-เงินกู้ยืมกันถ้วนหน้า มีมูลค่ารวมสูงเกือบ 3 หมื่นล้านบาท อื้อฉาวสะเทือนวงการตลาดทุนไทยรุนแรง

อีกเพียงไม่กี่วันก็จะครบรอบ 1 ปี เคส MORE ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2566 สำนักงานก.ล.ต.แจ้งความคืบหน้าว่าได้ตรวจสอบการกระทำความผิดและกล่าวโทษตามกระบวนการไปแล้วทั้งหมด และพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไปหากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งประสานความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้คณะทำงานเพื่อการบูรณาการการบังคับใช้กฎหมาย

ก.ล.ต.บอกว่าได้เร่งรัดการดำเนินการนำผู้กระทำผิดฐานสร้างราคาหลักทรัพย์เข้าสู่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายมาโดยตลอด นับตั้งแต่เหตุการณ์การสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของหุ้น MORE ระหว่างเดือน ก.ค.-พ.ย. 2565

ได้กล่าวโทษผู้กระทำความผิดฐานสร้างราคาหลักทรัพย์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เมื่อวันที่ 10 ก.พ. และวันที่ 27 มิ.ย. 2566 จำนวน 18 ราย และ 32 ราย ตามลำดับ

ปัจจุบัน DSI ได้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว และก.ล.ต.ส่งข้อมูลไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาและมีการประสานการทำงานร่วมกันด้วยแล้ว

โดย DSI อยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายในฐานความผิดที่เกี่ยวกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงฐานความผิดการสร้างราคาหลักทรัพย์ที่ก.ล.ต.ได้ดำเนินการกล่าวโทษไปด้วย ตามกระบวนแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะลงนามในคำสั่งแต่งตั้งต่อไป

สำหรับเคส STARK นั้น เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2566 ได้สั่งการให้นำผลการตรวจสอบ special audit ไปพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม เช่น การปรับปรุงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2565 และการดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง, ตรวจสอบข้อมูลงบการเงินให้ครบถ้วน, ทบทวนการเปิดเผยข้อมูลสรุปผลการตรวจสอบ special audit ผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ครบถ้วนและชัดเจนขึ้น และขอให้ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิเข้าร่วมประชุมในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 19 ต.ค. พิจารณาและอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลงทั้งหมด

ความคืบหน้าภายหลังเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ได้กล่าวโทษผู้กระทำผิดบุคคลธรรมดา 5 ราย และนิติบุคคล 5 ราย ต่อ DSI กรณีตกแต่งงบการเงิน, เปิดเผยข้อมูลในแบบ Filing หุ้นกู้อันเป็นเท็จ เป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวงและได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง ปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจสอบเชิงลึก เพื่อขยายผลผู้กระทำผิดเพิ่มเติม และความผิดเพิ่มเติม

เพื่อความเป็นธรรม ก็ต้องยอมรับว่าเคส MORE และ STARK ในส่วนของสำนักงานก.ล.ต. ทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถรวบรวมเอกสาร หลักฐาน ส่วนใดที่สามารถกล่าวโทษได้ก็เร่งดำเนินการภายในระยะเวลาเพียง 3-4 เดือน ถือว่ารวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เคยมีมา

แต่ในฐานะผู้ที่ได้รับความเสียหายแล้ว หนึ่งในโบรกเกอร์ผู้ที่ต้องแบกรับการชำระเงินค่าซื้อหุ้นจากเคส MORE แทนผู้กระทำผิด ให้สัมภาษณ์ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ระบุว่า หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการทำหน้าที่ของตัวเอง แต่อาจจะไม่รวดเร็ว และต้องใช้เวลาหลายปี ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเคสนี้ โบรกเกอร์ทุกรายได้ดำเนินการตั้งสำรองความเสียหายไว้ทั้งหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์มีความหวังว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะได้รับกลับคืนมาบางส่วน แม้จะไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่เคสนี้เป็นการกระทำที่ทุจริตอย่างชัดเจน จึงต้องการให้กระบวนการทางกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นต่อระบบตลาดหุ้น ตลาดทุนไทยให้กลับมา

ทั้งนี้ ในวันที่ 10 ต.ค. 2566 นี้ เลขาธิการก.ล.ต.คนใหม่จะมีการแถลงนโยบายและทิศทางของก.ล.ต. ท่ามกลางความคาดหวัง หนึ่งในภารกิจสำคัญ หนีไม่พ้นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่นายกรัฐมนตรีต้องการ

“พรอนงค์ บุษราตระกูล” กล่าวกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ภายหลังเข้ามารับตำแหน่งได้ติดตามทุกเคส โดยเฉพาะเคสซึ่งเป็นที่สนใจของสาธารณะชนว่ามีเคสอะไรบ้าง และได้ดำเนินการถึงไหน อย่างไรบ้างแล้ว

เคสที่นายกรัฐมนตรีเป็นห่วง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของสำนักงานก.ล.ต. ได้ดำเนินการกล่าวโทษและส่งไม้ต่อให้ DSI, บก.ปอศ. แล้ว และยืนยันว่าเรื่องนี้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

เลขาธิการก.ล.ต.คนใหม่ ยอมรับว่าต้องทำงานท่ามกลางความคาดหวัง และจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับตลาดทุน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรขอให้ดูที่ผลงาน ซึ่งจะเป็นเครื่องพิสูจน์การทำงานตลอดช่วงวาระที่นั่งเก้าอี้เลขาธิการคนที่ 8 ของสำนักงานก.ล.ต.

Back to top button