สังคมข่าวหุ้น
ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้ (17 ต.ค.) ที่ 1,433.40 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด (+0.44%) มูลค่าซื้อขาย 38,504.36 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้ (17 ต.ค.) ที่ 1,433.40 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด (+0.44%) มูลค่าซื้อขาย 38,504.36 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวานนี้รีบาวด์ทางเทคนิคหลังร่วงแรง ทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค เหตุนักลงทุนคลายกังวลสงครามอิสราเอล-ฮามาสไม่ลุกลามขยายวง และไม่ได้กระทบปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยมากนัก ทำให้มีแรงซื้อกลับหุ้นที่ราคาลงไปมากแล้ว แนวโน้มวันนี้ (18 ต.ค.) คาดแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแนวรับ 1,430 จุด และแนวต้าน 1,450 จุด
แม้วานนี้ดัชนีหุ้นไทยจะฟื้นตัวกลับมาได้ แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ทำเจ๊ใจสั่นวูบ ๆ วาบ ๆ เพราะปรับตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,416 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปี 11 เดือน จนมี P/E อยู่ที่ระดับ 19.7 เท่า แม้จะดูสูง แต่จริง ๆ ถูกกดดันจากกำไรงวดไตรมาส 4/2565 ที่ต่ำผิดปกติเพียง 1.72 แสนล้านบาท (ปกติอยู่ระดับ 2.5 แสนล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ถ้าดู Forward P/E ปี 2566 จะเหลือเพียง 15.8 เท่า อิง EPS ปี 2566 ที่ 88.6 บาท/หุ้น และถ้าเป็น P/E ปี 2567 จะเหลือเพียง 14.19 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Forward P/E ในรอบ 10 ปี ที่ 18.8 เท่า เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ เอเซีย พลัส แนะนำ “ซื้อ” และ “ถือ” โดยสะสมหุ้นหลบภัยความผันผวนจากปัจจัยภายนอก อย่าง WHA, ERW, CPN, CRC พร้อมกับลดความผันผวนให้พอร์ตจากประเด็นสงครามในอิสราเอล กับหุ้นน้ำมัน เช่น TOP
ช่วงนี้เป็นช่วงของการแจ้งงบไตรมาส 3/2566 ซึ่งกลุ่มแบงก์เป็นกลุ่มแรกที่จะทยอยประกาศงบ โดย TISCO ประเดิมเป็นเจ้าแรกไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และวันที่ 19-20 ต.ค. ลุ้นแบงก์ไหนอยู่บ้างเจ้าคะ แต่ล่าสุด บล.พาย มองว่าดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วยหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่ง BBL ได้ประโยชน์สูงสุดในกลุ่ม หลังดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น จากพอร์ตสินเชื่อลูกค้าธุรกิจมีขนาดใหญ่มาก และเป็นกลุ่มที่ยังมีความสามารถในการคืนหนี้ได้ดี ส่งผลบวกต่อรายได้จากดอกเบี้ยจะสูงขึ้น และยังเห็นทิศทางเติบโตของกำไรต่อเนื่องในไตรมาส 4/2566
กลุ่มมิลล์ ส่งบริษัทลูก “เวสท์เทค” ลุยธุรกิจพลังงานทดแทน นำร่องจับมือกับบริษัทย่อยกลุ่มกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ล่าสุดลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการกว่า 3,500 ล้านบาท สัญญา 20 ปี
น่าจับตามองอย่างมากสำหรับหุ้น IPO น้องใหม่ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่าง บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN ผู้นำกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์แฟชั่นระดับลักซ์ชัวรีที่ปั้นแบรนด์อย่าง Pandora, Marimekko, Cath Kidston และ HARNN จนปังครองใจผู้บริโภคมากว่า 13 ปี ล่าสุดได้ขยายการดำเนินการไปยังต่างประเทศ โดยเปิดสาขา Marimekko ในประเทศสิงคโปร์ ที่ห้าง ION Orchard มีผลตอบรับเบื้องต้นดีมาก ส่วน HARNN เตรียมเปิดสาขาเพิ่มทั้งในสิงคโปร์และเวียดนาม
บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL ออกขายหุ้นกู้ 300 ล้านบาท อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 6.10% ขาย 24-26 ต.ค.นี้ มั่นใจได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หลังพันธมิตรบีทีเอสฯ เข้าร่วมทุนเดินหน้ารุกธุรกิจการเงิน ทั้งธุรกิจให้สินเชื่อผู้ประกอบการที่มีหลักประกัน และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) พร้อมสยายปีกธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายต่อยอดเสริมธุรกิจการเงิน ชี้ฐานะการเงินแกร่ง มีส่วนผู้ถือหุ้นกว่าหมื่นล้าน ขณะที่มีหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้นต่ำ เพียง 0.18 เท่า