ZIGA เงินกู้พิศวง.!?

ถูกตั้งคำถามกันเยอะ..!? กับกรณีบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ของ “เฮียศุภกิจ งามจิตรเจริญ” เล่นใหญ่ไฟกะพริบ…จะปล่อยกู้ให้กับเสี่ยใหญ่เจ้าพ่อวงการเพลงย่านลาดพร้าว (คงไม่ต้องเอ่ยชื่อนะว่าเป็นไผ รู้ ๆ กันอยู่เต็มอก) จำนวน 104 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 15% ต่อปี เป็นระยะเวลา 10 เดือน โดยนำหุ้นบริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT จำนวน 16 ล้านหุ้น (ปัจจุบันเป็น 32 ล้านหุ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงราคาพาร์) มาเป็นหลักประกัน…

โดยหนึ่งในคนที่ตั้งคำถามนั้นเป็นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์รวมอยู่ด้วย ซึ่งล่าสุด ZIGA ตอบคำถาม สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

เกี่ยวกับการทำสัญญากู้ยืมเงินนั้น เหตุที่คณะกรรมการบริหารไม่ได้นำเสนอเรื่องให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเข้าใจว่าสามารถทำได้ อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการบริหาร เพราะคณะกรรมการบริษัทได้กำหนดวงเงินงบประมาณประจำปีไว้แล้ว

พร้อมยืนยันว่า ZIGA ไม่ได้ประสงค์จะลงทุนหุ้น GIFT ระยะยาวแต่อย่างใด เพราะการทำสัญญากู้ยืมเงินมีระยะเวลาของสัญญาเพียง 10 เดือนเท่านั้น

ส่วนที่เปิดเผยข้อมูลล่าช้าเกี่ยวกับรายการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน…ZIGA แก้ต่าง อุ๊ย…ชี้แจงว่า เนื่องจากเข้าใจว่าคณะกรรมการบริหารสามารถอนุมัติให้เข้าทำสัญญากู้ยืมเงินได้เพราะการทำสัญญากู้ยืมเงินเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบธุรกิจของบริษัท

กรณีที่กังวลกันว่า หากปล่อยกู้ไปแล้วจะกระทบต่อสภาพคล่องของบริษัท มีคำชี้แจงว่า หลังจากมีการปรับแผนธุรกิจ ลดสัดส่วนสินค้าเหล็กลง เพื่อลดความผันผวนของธุรกิจ แล้วหันมาเพิ่มสินค้าประเภทท่อร้อยสายไฟ ภายใต้แบรนด์ DAIWA แทน ทำให้อัตรากำไรดีขึ้น บริษัทมีสภาพคล่องเหลือจำนวนมากหลายร้อยล้านบาท และสามารถนำไปปล่อยกู้ โดยไม่กระทบต่อสภาพคล่องของบริษัท และจะไม่กระทบต่อการชำระหนี้ระยะสั้นอีกด้วย

ส่วนหากเกิดกรณีผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้ ZIGA ก็จะนำหุ้น GIFT ไปขาย และหากยังไม่ครบถ้วนอีก ก็คงใช้สิทธิฟ้องร้อง เนื่องจากผู้กู้มีสินทรัพย์เยอะ มากกว่าจำนวนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยหลายเท่า โดยในปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนลงทุนอื่นนอกเหนือจากธุรกิจหลัก และได้ชำระเงินหุ้นกู้ไปแล้วบางส่วนเพื่อลดภาระการเงินของบริษัท

อีกประเด็นที่สอบถามเกี่ยวกับกรณีการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น GIFT ซึ่งอาจมีความผันผวนของราคา และหากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็จะทำให้ราคาหุ้น GIFT ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันปรับลดลง แถม GIFT ยังมีผลขาดทุนมาตั้งแต่ปี 2564 บริษัทได้คำนึงถึงประเด็นนี้หรือไม่..?

ZIGA ตอบคำถามนี้ว่า ผู้กู้ส่งมอบเช็คของผู้กู้สั่งจ่ายเต็มจำนวนแล้ว แต่หากไม่สามารถขึ้นเงินได้ ก็ยินยอมให้ขายหุ้นหลักประกัน เพื่อนำมาชำระหนี้ หากยังได้เงินไม่ครบ ผู้กู้ก็พร้อมที่จะจ่ายส่วนที่ยังขาดอยู่ ในกรณีที่ไม่ชำระหนี้ตามสัญญา หรือได้เงินจากขายหุ้นที่เป็นหลักประกันไม่ครบถ้วน บริษัทจะใช้สิทธิดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนกรณีการได้มาซึ่งหุ้น GIFT ซึ่งมีการโอนการครอบครองและเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นเป็น ZIGA ในสัดส่วน 2.42% นั้น ก็ยืนยันว่าเป็นแค่หลักประกันเท่านั้น บริษัทไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในหุ้นจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด และบริษัทไม่ได้ประสงค์จะลงทุนในหุ้น GIFT ในระยะยาว เพราะเป็นการทำสัญญากู้ยืมเงินมีระยะเวลาของสัญญาเพียง 10 เดือนเท่านั้น เลยเข้าใจว่าบริษัทมิได้เข้าทำรายการเพื่อก่อให้เกิดการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ เพราะบริษัทมีสถานะเป็นผู้รักษาทรัพย์สิน คือหุ้น GIFT เท่านั้น

เรียกว่า ตลาดฯ ถามมา… ZIGA ก็ตอบไป..!?

ส่วนคำตอบจะเคลียร์คัตแค่ไหน..?

อันนี้แล้วแต่จะคิด…

…อิ อิ อิ…