ไอพีโอลุยไฟ

สถานการณ์ของตลาดหุ้นคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันสงครามต่อไปเรื่อย ๆ หลังบ่างช่างยุอย่าง “อเมริกา” กับ “อังกฤษ” เริ่มเข้าไปจุ้นจ้านมากขึ้น


สถานการณ์ของตลาดหุ้นคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันสงครามต่อไปเรื่อย ๆ หลังบ่างช่างยุอย่าง “อเมริกา” กับ “อังกฤษ” เริ่มเข้าไปจุ้นจ้านมากขึ้น (แทนที่จะช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย ดันกลายเป็นคนเติมเชื้อไฟ) ทั่วโลกเลยกังวลว่า ความขัดแย้งดังกล่าวจะขยายวงกว้าง และเป็นชนวนเหตุให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ เร่งปรับพอร์ต และหันไปถือเงินสดมากขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ดัชนีรูดทะลุแนวรับสำคัญลงมาเรื่อย ๆ จนแนวรับที่แข็ง ๆ แน่น ๆ บริเวณ 1,400 จุด ยังถูกถล่มราบเป็นหน้ากลองแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นผลกระทบที่หุ้นบลูชิพต้องรับเองเต็ม ๆ และการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,399.35 จุด ลบไป 23.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.29 หมื่นล้านบาท ก็ไม่ได้การันตีว่า นี่คือก้นเหวของการลงเที่ยวนี้ หลังสัญญาณเทคนิคทุกตัวฟ้องว่า ตลาดหุ้นเข้าเขตขายมากเกินไปเป็นแรมเดือนนะจ๊ะ

งานนี้เลยเหลือแค่ว่า หุ้นตัวไหนน่าเล่น? และหุ้นตัวไหนปลอดแรงขายต่างชาติ? และคำตอบที่ได้จากบรรดาเม่าตัวน้อย ๆ ก็คือ หุ้นไอพีโอ เพราะวันแรกมีอัพไซด์ให้เล่นต่ำ ๆ 30% ขณะที่ผลงานแต่ละไตรมาสก็มีแนวโน้มเติบโต จึงกลายเป็นช็อตที่เล่นกันได้ยาว ๆ แถมระหว่างทางก็ทั้งจังหวะ “ขึ้นแรง ลงแรง” โดยที่ราคาหุ้นเทรดบน PE 20-30 เท่าเป็นส่วนใหญ่แบบนี้..ขาซิ่งเขาบอกว่า มันพะยะค่ะ

รายแรกที่ต้องเอ่ยถึง “โมนิก้า” ขอชี้เป้าไปที่หุ้น TRP ก่อนใครเพื่อน เพราะวันนี้จะกระโจนลงสนามเป็นรายแรก และเมื่อเหลือบดูราคาขายไอพีโอที่ระดับ 14 บาท ซึ่งเทียบเท่ากับ PE 21 เท่า และมีการให้ราคาเป้าสูงสุดที่ระดับ 26 บาท เดี๊ยนย่อมมองเป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำ หรือถ้ามองในมุมของอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 30% ก็ทำให้หุ้นความสวยความงามตัวนี้น่าสนใจเป็นทวีคูณนะตัวเอง

ส่วนรายที่พกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า เพราะประเมินตัวเองมีของดีอยู่ในตัว คงต้องมองไปที่หุ้นประตูหน้าต่าง WINDOW หลังราคาขายไอพีโอที่ระดับ 2.10 บาท เป็นการขายบน PE 35 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ดูตึงไปหน่อย แต่ด้วยราคาขายที่ทุกคนเข้าถึงได้ จึงเป็นช็อตที่น่าติดตามดูเช่นกัน ผนวกกับขาลุยชอบหุ้นราคากระจุ๋มกระจิ๋มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงกลายเป็นการวัดฝีมืออันเดอร์ไรท์เตอร์วางแผนมาดีขนาดไหน?..อิอิอิ

พอถึงวันที่ 26 ต.ค. ก็เป็นคิวของหุ้น MCA ซึ่งเป็นการรวมเหล่าตัวตึงเข้ามาไว้ในสังกัด แถมเมื่อดูจากชื่อชั้นของคนที่เข้ามาล่มหัวจมท้าย ไม่น่าจะทำให้คนจองซื้อหุ้นไอพีโอในราคา 3.30 บาทต้องผิดหวังกระมัง! ส่วนบางคนที่กังวลว่า การขายดังกล่าวอยู่บน PE 35 เท่า อาจทำให้หุ้นไปไม่สุดซอย ก็ต้องมาดูแผนใช้เงินไอพีโอเพื่อทำให้บริษัทเติบโตสองหลัก มันสามารถช่วยอัพแวลู และทำให้พีอีลดเยอะขนาดไหนเจ้าค่ะ

ต่อจากนั้นในวันที่ 30 ต.ค. ก็เป็นคิวของน้องอร ORN ภายใต้การกำกับของ “พี่โต๊ะ” ก็มาแบบเหนือเมฆที่ทำให้คนทั้งบางอ้าปากค้าง เพราะราคาขายไอพีโอที่ระดับ 1.49 บาท เป็นการตั้งขายบน PE 5.70 เท่า ซึ่งเป็นการปฏิวัติวงการไอบีอย่างแท้ทรู “โมนิก้า” ถึงมองว่า นี่เป็นหุ้นที่น่าเล่นแบบสุดซอย เพราะราคาขายเปิดออปชั่นให้ทุกคนลุยเต็มที่ จึงกลายเป็นหุ้นที่เดี๊ยนรู้สึกปลื้มปริ่ม และต้องชมเชยความปราดเปรื่องของ เฮีย.ค ด้วยนะคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น JPARK ซึ่งเป็นเด็กปั้นของ เฮีย.ค ที่ส่งลงสนามไปก่อนหน้านี้สักหน่อย เพราะสิ่งที่เห็นเที่ยวนี้ก็คือ ราคาหุ้นยังยืนเหนือจองที่ราคา 3.80 บาทอย่างแข็งแกร่ง แถมยังซื้อ ๆ ขาย ๆ กันสนุกสนาน ทั้งที่ภาวะตลาดหุ้นไทยแดงเถือกทั้งกระดาน เดี๊ยนถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 4.12 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 90 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 26 เท่า มันมีอะไรต้องกลัวอีกเหรอคะ

ปิดท้ายกันที่น้องถ่าน TAN ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับผู้คนในตลาดหุ้นอย่างมาก เพราะเป็นหุ้นที่มีเซียนมาชุมนุมเยอะแยะไปหมด แต่ราคาหุ้นกลับฟอร์มตกอย่างไม่น่าเชื่อ “โมนิก้า” เลยขอเป็นสื่อกลางเพื่อเป็นกระบอกเสียงไปยังเซียนต่าง ๆ ให้ช่วยกันเร่งกู้ภาพ (หุ้นหลุดจอง 16.50 บาทง่ายเกินไป) ผนวกกับหุ้นยังมีอาการเมาหมัดให้เห็นตลอดเวลา ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 15.30 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 6.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 121 ล้านบาทแบบนี้..เสียเซลฟ์นะจ๊ะ

Back to top button