จุดเริ่มต้นขาลงหุ้น Tesla.!?

นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 96% แต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลงกว่า 15%


นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ราคาหุ้น Tesla หรือ เทสลา (บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน) ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 96% แต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลงกว่า 15% มาปิดตลาดที่ 211.99 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจาก “อีลอน มัสก์” ซีอีโอเทสลา ออกมายอมรับว่า “ปัญหาเศรษฐกิจมหภาค” ที่อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานบริษัท

โดย “เทสลา” ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/66 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 66) มีรายได้ 23,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไร 1,850 ล้านดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบไตรมาส 2/66 และกำไรปรับลดลงเมื่อเทียบไตรมาส 3/65 ด้วยเช่นกัน

ทั้งการประชุมทางโทรศัพท์ เพื่อหารือเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 3/66  “อีลอน มัสก์” ที่นั่งตำแหน่งระดับสูงทั้งเทสลา,โซเชียลเน็ตเวิร์ก X (เดิมคือ Twitter), SpaceX และสตาร์ทอัพ xAI, Neuralink และ The Boring แสดงมุมมองด้านลบทางด้านเศรษฐกิจ และเน้นย้ำว่าการลดต้นทุนและการลดราคา จะเป็นสิ่งจำเป็นต่อเทสลา ช่วงไตรมาสถัดไป

“อีลอน มัสก์” กล่าวถึงความคาดหวังของผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับ Cybertruck ที่ล่าช้าไป และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับ Robotaxi และเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ ที่บริษัทได้ดำเนินการมาหลายปี และบริษัทกำลังเดินตามหลัง Cruise และ Waymo ในสหรัฐฯ และผู้พัฒนา robotaxi รวมถึง Didi ผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารยักษ์ใหญ่ในจีน

นอกจากนี้ประเด็นของ Cybertruck ซึ่งเป็นรถกระบะที่แหวกแนวของบริษัท  โดยเปรียบเทียบเหมือนกับการขุดหลุมฝังตัวเองพร้อมกับคาดว่าบริษัทอาจต้องใช้เวลาประมาณอีกกว่า 1 ปี ก่อนที่ Cybertruck จะสามารถสร้างกระแสเงินสดทางบวกให้บริษัท 

โดย “อีลอน มัสก์” ระบุว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่อุปสงค์รถกระบะโมเดลนี้ เนื่องจากมีผู้สั่งจองรถแล้วกว่า 1,000,000 ล้านคัน แต่การสร้างรถให้สมบูรณ์ และการปรับราคาให้ผู้ซื้อสามารถจับต้องได้ เป็นสิ่งท้าทายสำหรับเทสลาอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ “เทสลา” วางแผนจัดงานเปิดตัว Cybertruck อย่างเป็นทางการวันที่ 30 พ.ย. 66 แต่ยังไม่ได้เปิดเผยข้อกำหนดและราคาขั้นสุดท้ายของรถบรรทุกและยังไม่ชัดเจนว่ามีกี่คนที่ชำระค่าจอง Cybertruck ไปแล้วบ้าง

อย่างไรก็ดี “อีลอน มัสก์” ยอมรับว่า “เทสลา” มีความพยายามหลายครั้งเพื่อการลดต้นทุนภายในและต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับลูกค้า  ระหว่างการพูดคุยเรื่องประมาณการรายได้กับนักวิเคราะห์ พร้อมยอมรับว่า มีความกังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่ประชาชนเผชิญอยู่ขณะนี้ 

โดยสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ หากอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ระดับสูงหรือสูงขึ้นไปอีก การซื้อรถจะยากขึ้นมาก ส่งผลให้ผู้ซื้อไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อรถได้

Toni Sacconaghi จากเบิร์นสไตน์ ที่ปกติแล้วจะไม่ค่อยเชื่อมั่นโฆษณาเกินจริงของ “เทสลา” คงคำแนะนำให้ Underperform สำหรับหุ้นเทสลา และให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ระดับ 150 ดอลลาร์สหรัฐ ถือว่ามีดาวน์ไซด์เกินกว่า 30% โดยมีความกังวลด้านการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นลดลงในอนาคต

น่าสนใจว่า..การปรับตัวขึ้น “เกือบเท่าตัว” ของราคาหุ้นเทสลา ตลอดช่วงเกือบ 1 ปี ที่ผ่านมา ได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้วใช่หรือไม่.!?

แต่ที่แน่ ๆ..นี่คือจุดเริ่มต้นของแรงขายหุ้น Tesla ได้บังเกิดขึ้นแล้ว..!!!!!

Back to top button