ขึ้นไม่ชัด?

มีคำถามมากมายในวงการตลาดหุ้น ว่าปู่ SET เป็นอะไร?…แล้วจะเหวี่ยงไปอีกนานมั้ย?…ลงไปลึกแล้วหรือยัง?…แนวรับเท่าไร?….เกิดคำถามเยอะแยะมากเสียเหลือเกิน! แม้ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีจะรีบาวด์มาปิดที่ระดับ 1,388.23 จุด บวกไป 17.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.13 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าเป็นเพียงเทคนิเคิลรีบาวด์ระยะสั้นเท่านั้น เพราะขึ้นมาไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากระตุ้น เพียงการเข้าซื้อหลังหุ้นลงลึกเกินไปแล้วนั่นเองเจ้าค่ะ

อย่างไรก็ดีหนึ่งในกลุ่มผู้เล่นที่สามารถพลิกเกมเป็นฝ่ายทำกำไรอย่างเต็มตัวเที่ยวนี้กลายเป็นฝรั่งตาน้ำข้าวชอบฉวยโอกาสหาจังหวะหุ้นลงหนักแล้วเข้าซื้อ หลังเทขายหุ้นในช่วงที่ดัชนียกตัวมาระยะหนึ่ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประเมินกันว่า นักเล่นกลุ่มนี้จะเป็นผู้ซื้อสุทธิของตลาดหุ้นไทย “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่บรรดาแมงเม่าต้องอ่านให้ออก เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ ช่างตรงกันข้ามกับคำบอกเล่าของก๊วนผู้รู้เลยเจ้าค่ะ

เช่นกรณีของหุ้น KAMART เกิดการเด้งทางเทคนิค…หลังเข้าเขต Oversold ก็เท่านั้น โดยทำให้ราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.90 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 219 ล้านบาท เอาเป็นว่า “โมนิก้า” ไม่แนะนำให้ถือนานถ้าไม่อยากเสี่ยง เพราะพฤติกรรมของหุ้นมาประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็จากไป มิหนำซ้ำในส่วนของค่า P/E ที่ 18 เท่า ยังไม่น่าตกใจเท่าค่า P/BV สูงถึง 6.20 เท่าเลยเพคะ

โดยแตกต่างจากรายของ BANPU ยังมีความน่าสนใจแอบซ่อนไว้ อย่างค่า P/E เพียง 3.32 เท่า ประกอบกับค่า P/BV ที่ 0.56 เท่า ถือว่าราคาหุ้นยังไม่แพง รวมถึงเป็นหุ้นที่ยีลด์สูงอีกด้วย พร้อมกับไตรมาส 4/66 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดเข้าไฮซีซั่นนั่นเอง ดังนั้น “โมนิก้า” มองว่าจากราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.45 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.05% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 592 ล้านบาท ถูกเกินไปมั้ยคะ

เหมือนกับในรายของ SCB ยังไงโบรกฯ ยังยกให้เป็นท็อปพิกกลุ่มธนาคารชูเป้า 124 บาท ถือว่าอัพไซด์สูงปรี๊ด 24% เทียบจากราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 100 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 2.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.79 พันล้านบาท โดย “โมนิก้า” ได้ยินว่าส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) จะพีกในไตรมาส 4/66 นี้ ที่สำคัญค่า P/E ที่ 8 เท่า และค่า P/BV ที่ 0.70 เท่า ของดีไม่ดีดูนักลงทุนดูกันเอาเองไม่ขอพูดมากเจ็บคอค่ะ

ขณะเดียวกันในรายของ KCE ราคาหุ้นประคับประคองยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันเอาไว้ได้!! และยังส่งผลให้ปิดที่ระดับ 51.75 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 499 ล้านบาท “โมนิก้า” หวังไกลว่าจะกลับไปทดสอบแนวต้านเดิมบริเวณ 53-55 บาท ฟากโบรกเกอร์ประเมินว่าช่วงไตรมาส 4/66 นี้ ส่วนของกำไรยืนระดับได้เท่าไตรมาส 3/66 เป็นแน่ จากแรงส่งค่าเงินบาทที่อ่อนอยู่เจ้าค่ะ

ปิดท้ายรายของหุ้น CPAXT ราคาหุ้นเด้งขึ้นอีกครั้ง อยู่ในลักษณะแท่งเทียน Morning Star อาจเห็นฟ้าสว่างวันถัดไปก็เป็นแน่ แต่ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 28.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.89% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 215.20 ล้านบาท ส่วนแนวต้านต่อไปบริเวณ 29.75-30 บาท “โมนิก้า” ชี้มีข่าวดีรออยู่โดยเฉพาะไตรมาส 4/66 นี้เข้าช่วงไฮซีซั่น รวมทั้งลุ้นการออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาลใหม่เข้ามาหนุนค่ะ