พาราสาวะถี
แม้ว่า เศรษฐา ทวีสิน จะย้ำมาตลอดว่าขอให้คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาอย่างรอบด้านและรอบคอบในการดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต
แม้ว่า เศรษฐา ทวีสิน จะย้ำมาตลอดว่าขอให้คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาอย่างรอบด้านและรอบคอบในการดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ได้ข้อสรุปก่อนที่จะแถลงอย่างเป็นทางการให้ประชาชนทราบเสียคราวเดียวเพื่อป้องกันความสับสน ล่าสุด บนเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อนานาทัศนะกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่จัดโดยคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ร่วมกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และคณะกรรมการวิชาการของวุฒิสภา ดูเหมือนว่าน่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนของเรื่องนี้
ทั้งเรื่องที่มาของงบประมาณ แอปพลิเคชันที่จะใช้ รวมทั้งระยะเวลาที่จะเริ่มดำเนินการ จากการบอกกล่าวของ พิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลไปพูดบนเวทีดังกล่าว โดยเจ้าตัวบอกว่า โครงการนี้มีหลายอย่างที่ต้องมีการปรับเปลี่ยน เช่น การให้สิทธิประชาชน 56 ล้านคน หลายฝ่ายเห็นว่าไม่ควรแจกคนรวย เพราะการให้เงินคนรวยไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากคนรวยจะเอาเงินในส่วนนี้ทดแทนค่าใช้จ่าย และเก็บเงินของตัวเองไว้แทน แต่ถ้าให้คนที่พอมี จะสามารถนำไปใช้หนี้ ดังนั้น ตัวเลขประชาชนที่ได้สิทธิจะเหลือ 40 กว่าล้านคน ยังไม่รวมผู้ที่ไม่มาลงทะเบียนอีก
พอมองและแก้โจทย์นี้ มันก็จะส่งผลไปถึงตัวเลขงบประมาณที่จะใช้ จากเดิมที่จะแจกให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป วางตัวเลขกลม ๆ ไว้ที่ 560,000 ล้านบาท เมื่อจำนวนคนที่ได้รับสิทธิตามที่ประเมินเป็นไปตามนี้ เงินที่จะใช้ย่อมลดตามไปด้วย ทำให้ที่มาของงบประมาณซึ่งถูกวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าจะใช้เงินจากไหนนั้น จะเป็นการใช้เงินจากงบประมาณปกติในปีงบประมาณ 2567 ที่กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา ผ่านขั้นตอนของสภาฯ
เมื่อเป็นเช่นนั้น หมายความว่า การดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เติมเงิน 1 หมื่นบาทเข้ากระเป๋าตังค์ดิจิทัลของประชาชนจะไม่ทันตามที่เศรษฐาเคยประกาศไว้ว่าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 คาดว่าน่าจะสามารถใช้ได้ในช่วงเดือนกันยายนแทน ขณะเดียวกัน ตามกระบวนการพิจารณาที่ทำกันอยู่ มองไปว่าเมื่อเป็นเช่นนี้น่าจะต้องเร่งดำเนินการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ไปด้วย เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและแล้วเสร็จในเวลาใกล้เคียงกัน
อีกประเด็นที่มีการปรับเปลี่ยนคือ เงื่อนไขที่จะให้มีการใช้เงินดิจิทัลในรัศมี 4 กิโลเมตรตามที่อยู่ตามบัตรประชาชนนั้นไม่มีแล้ว แต่จะปรับเป็นให้อยู่ในอำเภอหรือเขตเดียวกัน เพื่อให้เกิดการกระจายอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ พิชัยย้ำว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งข้างบน ข้างล่าง ตรงกลางกรอบหมดแล้ว ไม่สามารถจะกู้เพิ่ม รายได้ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นโครงการนี้จึงจำเป็น ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น ความคึกคัก แต่โครงการนี้ก็จะต้องควบคู่ไปกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการทางเศรษฐกิจที่ต้องทำให้มองเห็น ซึ่งเป็นโจทย์ยากที่รัฐบาลต้องทำให้สอดคล้องกันให้ได้
หลังขจัดสิ่งที่ฝ่ายคัดค้านทักท้วงไปแล้ว หากเป็นไปตามนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องถกเถียง และตั้งคำถามกับรัฐบาลบ้าง จากที่พิชัยบอกว่า รัฐจำเป็นต้องแจกเงินเป็นเงินดิจิทัลเพื่อบังคับให้มีการใช้จ่าย ส่วนคนที่จะมาขึ้นเงินก็ต้องลงทะเบียนและเสียภาษีด้วย ทั้งนี้ การแจกเงินอาจจะได้ไม่พร้อมกัน และอาจจะได้ใช้เงินในช่วงที่มีวันหยุด เช่น ปีใหม่ หรือสงกรานต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเชื่อว่า 90% น่าจะกลับไปใช้แอปพลิเคชันเป๋าตังเพราะมองว่าการพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ต้องใช้เวลานานและยุ่งยาก
คำถามที่เกิดขึ้นคือ การลงทะเบียนไม่ใช่ปัญหา แต่ที่ว่าต้องเสียภาษีนั้นหมายถึงภาษีอะไร หากเป็นเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากการจับจ่ายใช้สอยก็เป็นเรื่องปกติ ตรงนี้ต้องอธิบายให้เกิดความเข้าใจโดยไม่ต้องรอให้มีการตกผลึก มิเช่นนั้น จะสร้างความไม่ไว้วางใจและไม่พอใจจากประชาชนมากกว่า เช่นเดียวกับเงื่อนไขที่ว่าอาจจะให้ใช้เงินในช่วงวันหยุดหรือเทศกาล ก็ไม่น่าจะสอดคล้องกับเป้าหมายที่รัฐบาลบอกว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างกว้างขวาง เรื่องนโยบายล่าช้าออกไปประชาชนรอได้ แต่ไม่ใช่การทำให้โครงการยุ่งยาก จนคนไม่อยากได้ ไม่อยากใช้ นั่นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าการที่มีคนคัดค้าน
ส่วนกรณีขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ท่องเที่ยวไปถึงตี 4 ล่าสุด อนุทิน ชาญวีรกูล มท.1 สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการไปสำรวจความคิดเห็นประชาชนให้ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบประกาศกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับพื้นที่ท่องเที่ยวให้เปิดสถานบริการถึงเวลาดังกล่าว เพื่อจะประกาศใช้ทันในช่วงเทศกาลปีใหม่ เรื่องนี้ก็เหมือนกันไม่จำเป็นต้องดัดจริต เพราะรู้กันอยู่แล้วทุกวันนี้มีการเปิดเกินเวลากันแทบจะทุกที่ ทำไมเปิดได้ไม่ต้องบอกก็รู้ผู้ประกอบการต้องจ่ายกันหนักขนาดไหน
สถานการณ์สู้รบในอิสราเอล กองทัพยิวยังคงใช้กำลังทางทหารบุกเข้าไปถล่มพื้นที่ฉนวนกาซา นั่นจึงเป็นเหตุที่รัฐบาลเรียกร้องให้แรงงานไทยที่ยอมจะเสี่ยงชีวิตแลกกับค่าตอบแทนที่นายจ้างใช้ล่อใจอยู่ต่อ ให้รีบกลับประเทศ ถึงขนาดที่เศรษฐาประกาศว่าขอให้รีบตัดสินใจก่อนที่จะกลับไม่ได้ เข้าใจได้การยอมเผชิญชะตากรรมโดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพันเนื่องจากภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นก่อนเดินทางไปใช้แรงงาน แม้รัฐบาลประกาศจะช่วยเหลือเต็มที่ แต่ยังไม่เห็นมาตรการเป็นรูปธรรม ญาติในเมืองไทยอยากให้กลับแต่คนที่อยู่ทางโน้นไม่มีอะไรเป็นหลักประกันกลับมาแล้วจะไม่ถูกลอยแพ จึงเลือกที่จะวัดดวงกันต่อไป
การเมืองไม่ใช่เรื่องที่จะต้องปะทะและเอาชนะกันตลอดเวลา รังสิมันต์ โรม นักการเมืองรุ่นใหม่แต่เข้าใจสัจธรรมข้อนี้ การยกคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ สภาผู้แทนราษฎร ไปพบ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมผู้แทนเหล่าทัพ บรรยากาศจึงออกมาอย่างชื่นมื่น โรมจากก้าวไกลหยอดคำหวานเชื่อมือพี่สุทินจะจัดการปัญหาที่มีการทักท้วงได้ทั้งไอโอด้อยค่าฝ่ายตรงข้าม เลิกการเกณฑ์ทหาร ปมเรือดำน้ำ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่อย่างน้อยทำให้เห็นว่า ทุกเรื่องหากคุยกันด้วยเหตุและผล ฝ่ายหนึ่งตั้งคำถาม ฝ่ายหนึ่งชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง สิ่งที่เป็นข้อกำจัดก็สงวนไว้ การทะเลาะเบาะแว้ง ความขัดแย้งย่อมไม่เกิด