1,300 ก็เอาไม่อยู่?
ดูเหมือนเพื่อนพ้องหลายคนคิดว่า น้องโมเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย เพราะเรื่องเม้าท์ในแต่ละวันมีแต่การติเตียนตลอดเวลานั้น “โมนิก้า” ถือเป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง
ดูเหมือนเพื่อนพ้องหลายคนคิดว่า น้องโมเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย เพราะเรื่องเม้าท์ในแต่ละวันมีแต่การติเตียนตลอดเวลานั้น “โมนิก้า” ถือเป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง เพราะสิ่งที่พูดถึงในแต่ละประเด็นล้วนเป็นประโยชน์กับส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว และที่สำคัญคือ หากตรงไหนไม่เป็นความจริงก็เอาปากกามาวง เพื่อจะได้ถ่ายทอดข้อมูลให้กับสาธารณชนให้รู้กันโดยทั่วไปนะจ๊ะ
วันนี้เดี๊ยนเลยอยากเปิดอกถามกับทุกคนว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างไร? และเงินในกระเป๋าของทุกคนเป็นอย่างไร? ซึ่งคำตอบของคนส่วนใหญ่ก็คงพูดเหมือนกันว่า ไม่ไหวจะเคลียร์? ส่งผลให้สถานการณ์หลายอย่างออกไปในทาง “ทรงกับทรุด” และเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นักลงทุนหมดกำลังใจที่จะเคาะขวา “โมนิก้า” ถึงมองว่า ตลาดหุ้นไทยจะไหลลงไปเรื่อย ๆ เพราะทุกคนยังมองไม่เห็นก้นเหวอยู่ตรงไหนน่ะซี
ประเด็นนี้ดูง่าย ๆ ได้จากดัชนีในช่วงต้นปียืนอยู่ที่ 1,600 จุด พอถึงช่วงกลางปีก็ลงมายืนแถว 1,500 จุด และในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนออกทางตรงก็ลงมายืนแถว 1,400 จุด “โมนิก้า” เลยอนุมานได้ทันทีว่า สิ้นปีอาจหลุดลงไปต่ำกว่าระดับ 1,300 จุด เพราะแรงส่งจากเศรษฐกิจในประเทศอ่อนแรงลงทุกที ผสานกับการเคลื่อนย้ายเงินทุนยังดำเนินต่อไป จึงกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้คนถอยห่างจากตลาดหุ้นไงล่ะคะ
คิดดูแล้วกัน!..สัปดาห์ก่อนดัชนีก็ลงมาถึงทำโลว์ที่ระดับ 1,366.19 จุด ก่อนจะวิ่งกลับขึ้นยืนปิดที่ระดับ 1,388.23 จุด มันเป็นเหตุการณ์เขย่าขวัญที่หนักกว่าวันผีหลอกในคืนฮาโลวีนเสียอีก “โมนิก้า” ถึงมีอาการตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เมื่อเห็นดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,381.83 จุด ลบไป 14.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.74 หมื่นล้านบาท เพราะมันส่อแววว่า สัปดาห์นี้จะหนักกว่าสัปดาห์ก่อนเจ้าค่ะ
ประกอบกับบรรดานักวิเคราะห์สำนักต่าง ๆ ออกอาการเซ็งเป็ดกันเป็นแถว เพราะหุ้นที่แนะนำให้ทยอยสะสมเข้าพอร์ต กลับมีอาการอ่อนตัวแบบไม่มีลิมิต จนไม่อยากจะแนะนำหุ้นตัวไหนทั้งนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจสุด ๆ สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแวดวงตลาดหุ้น แถมมีข่าวร้ายผุดขึ้นเป็นรายวันแบบนี้ จึงเหมือนเป็นการชำเราตลาดหุ้นไปเรื่อย ๆ จนหาทางกลับบ้านไม่เจอจ้า
เหมือนกับสถานการณ์ของหุ้น CRC ซึ่งเคยประคองตัวได้อย่างแข็งแกร่ง แต่วานนี้ก็โดนถล่มยับแบบไม่ทันตั้งตัว จนหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 36.75 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 880 ล้านบาท มันกลายเป็นสถานการณ์ที่บีบหัวใจอย่างหนัก เพราะโลว์ก่อนอยู่ที่ระดับ 36.25 บาท และถ้าหลุดระดับดังกล่าวลงไปอีก หุ้นก็คงต้องควานหาฐานใหม่นะตัวเอง
อีกรายที่สร้างความกังวลให้กับ “โมนิก้า” มากขึ้นเรื่อย ๆ คงมองไปที่หุ้น AWC ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ลงเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นจุดเด้งกลับอยู่ตรงไหน? ผนวกกับการยืนปิดที่ระดับ 3.46 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 133 ล้านบาท ก็เป็นราคาต่ำสุดในรอบหลายปีเสียด้วย เดี๊ยนเลยสังหรณ์ใจว่า แรงขายยังจะมีออกมาเรื่อย ๆ และจะทำให้หุ้นทำโลว์ใหม่ให้เห็นอีกน่ะซี
ปิดท้ายวันนี้ “โมนิก้า” ขอชะแว็บไปแสดงความยินดีกับลูกเขยดีเด่นอย่าง “ณพ ณรงค์เดช” สักหน่อย! เพราะหน่วยข่าวสายศาลของเดี๊ยนแจ้งด่วนมาว่าพ่อหนุ่มเจ้าปัญหา อุ๊ย! เจ้าปัญญา ถูกฟ้องอาญา “โกงเจ้าหนี้” แต่ศาลท่านยกฟ้องจำเลยทั้งกระบิ สรุปคือ…รอดคุก!! ไปอีกหนึ่งคดี งานนี้คงต้องยกเครดิตให้กับมือกฎหมายคู่ใจที่มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้านกันมานาน หลังทำให้รอดพ้นมลทินไปได้อีกคำรบเจ้าค่ะ
กระนั้น อีโมแอบได้ยินมาว่า ก่อนการพิพากษาทั้งคู่ต่างรู้สึกหวาดหวั่น ออกอาการไม่แน่ใจว่าศาลท่านจะลงอย่างไร? ถึงขั้นว่านอกเหนือจากใช้ความขลังของ “Firm วีระวงค์” ในการต่อสู้คดีแล้ว วานนี้ที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาทนายดังกับลูกความสุดเลิฟต่างเห็นพ้องว่าต้องพึ่ง “สายมู” ส่วนที่ว่ามูลึกซึ้งกันขนาดไหนนั้น? คงต้องไปถามคุณ “พี่หมิ่น” และคุณ “น้องณพ” กันเอาเองนะคะ