หุ้นน่าเล่นตลาดขาลง

ในเมื่อตลาดหุ้นไม่มีทีท่าจะหยุดลงตอนไหน? เดี๊ยนเลยไปค้นหาหุ้นที่น่าเล่นในช่วงตลาดขาลงมาให้แฟน ๆ ไว้พิจารณาเป็นทางเลือก


ในเมื่อตลาดหุ้นไม่มีทีท่าจะหยุดลงตอนไหน? เดี๊ยนเลยไปค้นหาหุ้นที่น่าเล่นในช่วงตลาดขาลงมาให้แฟน ๆ ไว้พิจารณาเป็นทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้วัดความน่าสนใจก็มาจาก PE ต่ำ ซึ่งเป็นตัวที่บอกให้ทุกคนรู้ว่า ราคาหุ้นตอนนี้ถูกสุด ๆ จึงเป็นโอกาสของการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคนที่มีเงินเย็นเป็นจำนวนมาก มันคือจังหวะของการซื้อลงทุนระยะยาวอย่างแท้ทรูนะคะ 

วันนี้เลยไม่ต้องสนใจว่า ดัชนีจะขึ้นไปเท่าไหร่? หรือดัชนีจะลงไปเท่าไหร่? เพราะคงไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,379.96 จุด ลบไป 1.87 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.80 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นการยื้อเวลาลงไปอีกระยะหนึ่ง และเรื่องนี้ถูกย้ำหัวหมุดจากสถานการณ์หุ้น IPO หลุดจอง กันเป็นพรวน..ขนาดมีเซียนใหญ่ ๆ ถือหุ้นกันอย่างคับคั่ง แต่กลับไม่มีใครสนใจเลยพับผ่าสิ!

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้น RCL เป็นรายแรก เพื่อชี้ให้เห็นว่า ในช่วงปี 63 บริษัททำกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.10 บาท (ประกาศงบช่วง ก.พ.) หุ้นขึ้นมารับข่าวแถว 19 บาท ขณะที่ครึ่งแรกปี 66 บริษัททำกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.80 บาท (กำไรเกือบจะเท่าทั้งปี 63) ราคาหุ้นดันยืนที่ระดับ 19.20 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28 ล้านบาท และเป็นการเทรดบน PE ไม่เกิน 10 เท่าแบบนี้..ชอบไหม..ชอบไหม!

รายถัดมาขอมองไปที่หุ้น BANPU เพื่อย้ำให้ทุกคนเห็นว่า ผลงานของบริษัทในปีนี้อาจไม่โดดเด่นเหมือนปีก่อนก็จริง แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่า การที่หุ้นเทรดบน PE 3.50 เท่า มันเป็นระดับที่ทำให้เชื่อว่า แรงขายน่าจะสะเด็ดน้ำจริง ๆ และมีโอกาสที่จะเห็นหุ้นวิ่งกลับขึ้นไปใหม่ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นช่วยประเมินว่า การยืนปิดที่ระดับ 7.55 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 710 ล้านบาท เหมาะที่จะซื้อขนาดไหนจ๊ะ

ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” ถึงกับหูตาผึ่งขึ้นมาทันที และต้องเอ่ยถึงหุ้นน้องอร ORN อีกครั้ง เพราะการยืนปิดที่ระดับ 1.03 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 4.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41 ล้านบาท มันเป็นการเทรดบน PE 4 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ถูกสุด ๆ ในสายตาของคนที่เน้นลงทุนระยะยาว ผนวกกับทุกคนรับรู้ว่า เงินไอพีโอที่ได้จะนำไปขยายธุรกิจบ้าน และคอนโด เดี๊ยนเลยเชื่อว่า ปีหน้าคงได้เห็นผลงานที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไงล่ะคะ

อีกรายที่น่าสนใจต้องมองไปที่ BRI เพราะการลงมายืนปิดที่ระดับ 7.15 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 15 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low และเป็นการเทรดบน PE 4.40 เท่าแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นการขายที่โอเว่อร์แอคติ้งเกินไปหน่อย เพราะผลงานของบริษัทก็ยังทรงๆ แถมเมื่อดูถึงอัตราเงินปันผลตอบแทนที่อยู่ในระดับ 8% มันทำให้เห็นว่า ราคานี้น่าช้อนหุ้นเก็บไว้บ้างเจ้าค่ะ

คล้ายกับหุ้นตัวตึงยานยนต์อย่าง AH ก็เป็นหุ้นที่เหมาะต่อการทยอยสะสมทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ BV ที่อยู่ในระดับ 29.29 บาท และอัตราเงินปันผลตอบแทนที่อยู่ในระดับ 3.20% หรือแม้กระทั่งราคาหุ้นที่เทรดบน PE 5 เท่า ล้วนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า หุ้นตัวนี้น่าสะสมเข้าพอร์ตเมื่ออ่อนตัวลงมาอีก เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินว่า การยืนปิดที่ระดับ  28.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52 ล้านบาท โดนใจแค่ไหนจ๊ะ

ส่วนรายที่โดนใจ “โมนิก้า” เป็นเวลานาน และยังโดนใจต่อไปเรื่อย ๆ ขอมองไปที่หุ้น NER ซึ่งเป็นหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา (อยู่ในระดับ 4-6%) แถมกำไรที่ทำได้ในแต่ละปีก็อยู่ในจุดที่นักเล่นรับได้ เดี๊ยนถึงอยากให้ทุกคนประเมินการยืนปิดที่ระดับ 4.54 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 5 เท่าแบบนี้..มันเป็นจังหวะของการทยอยสะสมจริง ๆ นะตัวเอง

ปิดท้ายกันที่น้องใหม่ไซด์จิ๋วอย่าง SINO กันดีกว่า! เพราะการยืนปิดที่ระดับ 1.05 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 2.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3 ล้านบาท เป็นการเทรดบน PE 5 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่มีความเสี่ยงต่ำจริง ๆ แถมเมื่อเหลือบดูมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางสุด ๆ ก็ทำให้เชื่อว่า แรงขายน่าจะหมดไปแล้วจริง ๆ และต่อจากนั้นก็จะไปวัดกันที่ผลงานไตรมาส 3 ออกมาดีแค่ไหน? ซึ่งจะเป็นแรงส่งให้หุ้นวิ่งใหม่อีกรอบเจ้าค่ะ

Back to top button