หุ้นเด้งเร็ว
ในเมื่อตลาดหุ้นคลายกังวลกับสถานการณ์ของดอกเบี้ยขาขึ้นชั่วคราว และปัญหาเงินเฟ้อเริ่มทุเลาลงเรื่อย ๆ เลยเป็นจังหวะของการไล่หุ้นรอบใหม่ช่วงสั้น ๆ
ในเมื่อตลาดหุ้นคลายกังวลกับสถานการณ์ของดอกเบี้ยขาขึ้นชั่วคราว และปัญหาเงินเฟ้อเริ่มทุเลาลงเรื่อย ๆ เลยเป็นจังหวะของการไล่หุ้นรอบใหม่ช่วงสั้น ๆ “โมนิก้า” จึงขอโหนกระแสไปกับเขาด้วย เพราะข้อมูลวันก่อนที่ได้นำเสนอชี้ให้เห็นว่า มีหุ้นหลายตัวที่ราคามีต่ำกว่าพื้นฐานค่อนข้างเยอะ และยังเป็นหุ้นที่เด้งกลับเร็วเมื่อบรรยากาศการลงทุนเปิดกว้างอีกครั้ง จึงขอนำเสนอหุ้นเหล่านี้ไว้เป็นทางเลือกแล้วกันนะคะ
เนื่องจากการวิ่งของดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,403.99 จุด บวกไป 24.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.43 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่า นักเล่นบางส่วนเริ่มกลับมาลุยหุ้นอีกครั้ง ผนวกกับในช่วง 1 สัปดาห์ได้มีการทดสอบแนวรับ 1,370 จุดมาแล้ว และแนวรับดังกล่าวก็ต้านแรงขายได้ดี เลยทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกอุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิม และมองว่า จังหวะนี้ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเล่นสั้นพะย่ะค่ะ
โดยเฉพาะในรายของ KKP พุ่งขึ้นแบบเงียบ ๆ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 167 ล้านบาท โดยหุ้นเทรดบน PE 6 เท่า และยังมีอันตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ในระดับ 4-5% ย่อมเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” สนใจหุ้นตัวนี้มากพิเศษ และยกให้เป็นหนึ่งในหุ้นเด้งเร็วที่นักลงทุนต้องเหลียวมองนะตัวเอง
คล้ายกับในรายของ SAWAD พอสบช่องได้โอกาสก็วิ่งขึ้นปรู๊ดปร๊าด ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 44.75 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 958 ล้านบาท ก็เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า เมื่อนักลงทุนกลุ่มสถาบันหวนกลับมาลงทุนทีไร หุ้นตัวนี้มักเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ที่จะถูกไล่ราคา ผนวกกับแรงกดดันจากเรื่องดอกเบี้ยเริ่มคลี่คลาย จึงมีโอกาสเห็นหุ้นพุ่งต่อเจ้าค่ะ
ตัวถัดมาที่น่าจะเข้าข่ายหุ้นเด้งเร็วที่น่าจับตา “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น ORI เพื่อชี้ให้เห็นแวลูของหุ้นอยู่สูงกว่านี้ค่อนข้างเยอะ และถ้าดูจากการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.95 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 90 ล้านบาท โดยที่หุ้นเทรดบน PE 5 เท่า รวมทั้งอัตราเงินปันผลตอบแทนที่อยู่ในระดับ 4-5% มันเป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้นได้เป็นอย่างดี จึงมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะนะจ๊ะ
เช่นเดียวกับในรายของ JMART ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า ได้ทำการล้างบ้านเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ไตรมาส 3 และในช่วงไตรมาส 4 เป็นจังหวะของการฟื้นตัวทางธุรกิจ จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าเล่นตามน้ำแบบไม่มีเงื่อนไข แถมวานนี้หุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 18.80 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 10.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 543 ล้านบาท กลายเป็นช็อตเด็ดที่ทำให้หลายคนวาดฝันถึงยอดเก่าที่บริเวณ 24 บาทนะตัวเอง
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น BGRIM ขึ้นมาทันที เพราะน่าจะเป็นหุ้นที่มีโอกาสเด้งแรงในอนาคต เพราะหุ้นบลูชิพเริ่มกลับมาแล้วหลายตัว เดี๊ยนถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 23.10 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 742 ล้านบาท คือใบเบิกทางที่ชี้ให้เห็นว่า แรงขายสะเด็ดน้ำแล้วจริง ๆ และต่อจากนี้จะเป็นจังหวะของการเร่งสปีดเต็มตัวนะพ่อ
เช่นเดียวกับพ่อหนุ่มบนท้องฟ้า SKY ถือเป็นทีเด็ดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหลายคนรู้ดีว่า ผลงานครึ่งปีแรกที่คิดว่าดีแล้ว ครึ่งปีหลังกลับดียิ่งกว่า “โมนิก้า” ถึงไม่เคยข้องใจเมื่อเห็นราคาหุ้นพุ่งแรงอีกรอบ และการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 29 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 8.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 142 ล้านบาท น่าจะเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ถึงเวลาที่หุ้นจะโชว์ของให้เห็นแล้วจ้า
ในเมื่อต้องการโชว์ของดีให้เห็นเต็มตา “โมนิก้า” ก็ขอเอ่ยถึงหุ้นเด้งเร็วอย่าง EA เพื่อบอกให้มิตรสหายรู้ว่า บริษัทเตรียมจะส่งรถเมล์ไฟฟ้า รถขยะไฟฟ้า และรถกระบะไฟฟ้า ไปยังประเทศอินโดฯ ไม่ต่ำกว่า 1,500 คันในปีหน้า และการลงนามสั่งซื้อและส่งมอบครั้งนี้ ก็ได้รับเกียรติจากประธานาธิบดีเสียด้วย รวมทั้งได้ยินข่าวแว่ว ๆ เตรียมประกาศซื้อหุ้นคืน หลังราคาในกระดานต่ำเกินไป ขณะเดียวกันก็เป็นการตบหน้าพวกปากมอมให้รู้ว่า บริษัทเงินสดเพียบ! เดี๊ยนถึงมั่นใจสุด ๆ ว่า การยืนปิดที่ระดับ 44.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 635 ล้านบาท เล่นสุดซอยได้นะแม่!