ภาวะหุ้นขาขึ้นชั่วคราว
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปิดบวกขานรับแรงเก็งกำไรว่าเฟดฯ จะหยุดวงจรขึ้นดอกเบี้ยจากการที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ไหลลง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปิดบวกขานรับแรงเก็งกำไรว่าเฟดฯ จะหยุดวงจรขึ้นดอกเบี้ยจากการที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ไหลลง
กรณีขานรับข้อเท็จจริงดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่ว่าค่าเงินดอลลาร์จะถดถอยลงจากการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดฯ ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีทางเทคนิคเท่านั้นเอง เพราะโดยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่เปิดเผยโดยนายสนั่น อังอุบลกุล กรรมการกกร.ที่ออกมายอมรับว่าปีนี้การส่งออกของไทยติดลบประมาณ 2.5% ถือเป็นข่าวร้ายที่ขัดขวางการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีลักษณะโอเวอร์ซัพพลาย จนกระทั่งบริษัทเหล่านี้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
ความย้อนแย้งของพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยกับข่าวดีทางเทคนิคของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จึงเป็นตัวสกัดขาขึ้นของราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อเท็จจริงคือว่า อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ ยังไม่หยุดยั้งอย่างเป็นทางการแต่เกิดจากการคาดเดาเพื่อเก็งกำไรตามปกติของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ที่บอนด์ยีลด์ลดลงจนกระทั่งกระทบต่อค่าดอลลาร์และราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กก่อนที่เฟดฯ จะมีการประชุมประจำเดือนในกลางเดือนนี้ เพื่อพิจารณาว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยควรจะไปในทางใดซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
ภาวะการเก็งกำไรของตลาดหุ้นและค่าดอลลาร์ในยามนี้จึงเป็นแค่การตีความของนักวิเคราะห์ที่เรียกว่านักอ่านริมฝีปากของเฟดฯ ซึ่งไม่แน่นอนเพราะถ้าหากเฟดฯ ยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ราคาหุ้นในตลาดก็จะตกลงในขณะที่ราคาทองคำและอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งค่าดอลลาร์จะพลิกกลับเป็นขาขึ้นระลอกใหม่
ภาวะขึ้นและลงจากการเก็งกำไรจากอัตราดอกเบี้ยของเฟดฯ จึงเป็นภาวะความไม่แน่นอน ซึ่งจะส่งผลกระทบมายังประเทศไทยโดยตรงอย่างแน่นอน
ภาวะขาขึ้นของตลาดหุ้นไทยที่ทะลุขึ้นเหนือ 1,420 จุด เป็นภาวะที่สุ่มเสี่ยงไม่น้อยสำหรับแมงเม่าในตลาดเพราะผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นไทยยามนี้มีเพียงจำนวนไม่เกิน 30 รายเท่านั้นที่มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ในขณะที่ส่วนใหญ่มีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติแค่ทรงตัวหรือทรุดต่ำลง ซึ่งหมายถึงเงินปันผลที่จะลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวกับการส่งออกหรือหุ้นที่บริษัทมีการกู้เงินลงทุนจากต่างประเทศค่อนข้างสูง
ค่าเงินบาทที่ผันผวนรวมถึงธุรกิจส่งออกที่ติดลบจึงน่ากังวลมากกว่าข่าวดีระยะสั้นของเฟดฯ ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปในทิศทางใด
คำแนะนำของนักวิเคราะห์ที่บอกว่าให้ซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวจึงมีเหตุผลแทนที่จะเดินตามความเสี่ยงในลักษณะตาบอดเดินตามคนตาบอด เพียงเพราะเห็นอัตราดอกเบี้ยขยับขึ้นหรือลง