ฝรั่งยังขายต่อ!

สถานการณ์หุ้นแบบนี้ ทำให้เรายังต้องลงทุนแบบดูสถานการณ์ไปวันต่อวัน เว้นแต่หุ้นตัวที่ดูแล้วพื้นฐานแน่นจริง ถึงจะซื้อถือยาวเพื่อรับเงินปันผล


วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย (SET-mai) ออกมาอีก 1,117 ล้านบาท

ไม่เพียงเท่านั้น เพราะนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนต่าง ๆ ผสมโรงขายทำกำไรกันออกมา 178 ล้านบาท ส่งผลดัชนีหุ้นไทยวานนี้ เปิดกระโดด แล้วมาปิดในแดนลบ หรือ -2.55 จุด มาที่ 1,417.21 จุด

นักลงทุนรายย่อย หรือเม่า โดนกินรวบกันอีกรอบ

ก่อนหน้านี้ บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองค่อนข้างตรงกัน

คือ นักลงทุนต่างชาติ หรือฟันด์โฟลว์ น่าจะเริ่มกลับเข้าตลาดหุ้นไทย

ปัจจัยหนุนคือ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับลง

ทำให้มองกันว่า เงินทุนที่ถูกโยกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังตราสารหนี้ น่าจะเริ่มเบาแล้ว

หรือสรุปง่าย ๆ แรงขายของต่างชาติน่าจะลดลงนั่นแหละ

ในทางกลับกัน เงินต่างชาติที่เคยขายสุทธิออกมา

น่าจะเริ่มขยับ หรือกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นไทย หลังจากกระหน่ำขายก่อนออกมาอย่างหนักต่อเนื่อง

ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกลับค่อนข้างตรงกันข้ามกับคาดการณ์

ทำให้ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ ปิดลง สวนกลับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ต่างปิดในแดนบวก

อาจจะมีการบอกว่า ดูจะเร็วเกินไปที่บอกว่า ฝรั่งกลับหรือยังไม่กลับ เพราะคงต้องดูให้ยาวกว่านี้อีกสักหน่อย เพราะระหว่างทางนับจากนี้ อาจจะมีการขายทำกำไรกันออกมาบ้างก็ได้

เช่น ซื้อ 3 วัน ขาย 1 วัน หรือซื้อ 10 วัน ขาย 2 วัน ฯลฯ

ส่วนเมื่อวานนี้ หุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มโรงพยาบาล เป็นตัวหลักที่กดดัชนีลงทุน

มีแรงขายออกมาต่อเนื่อง

อย่างกลุ่มพลังงาน น่าจะมาจากหุ้นน้ำมัน เช่น PTTEP หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลง ส่งผลในรอบ 1 เดือน ฃลงมาแล้วประมาณ 10-11%

ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลอาจเกิดจากการขายทำกำไร หลังจากหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่วิ่งสวนตลาดขึ้นมาก่อนหน้านี้

เช่นเดียวกับกลุ่มแบงก์ที่ถูกขายทำกำไรออกมาเช่นกัน

ทั้ง BBL KBANK KTB และ TTB

ส่วน SCB ราคาปิดออกมาเสมอตัว แต่ก็ยังไม่ผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ระดับ 100 บาท

เมื่อวานนี้มีหุ้นขนาดใหญ่แจ้งผลประกอบการงวด Q3 กันออกมา

เช่น GPSC ที่มีกำไร 1.79 พันล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรเพียง 331 ล้านบาท

ESSO มีกำไรสุทธิ 4.6 พันล้านบาท จากที่เคยขาดทุน 3.1 พันล้านบาทในไตรมาสเดียวกันปีก่อน

กำไรที่เพิ่มขึ้นของของ 2 หุ้นด้านพลังงาน (ไฟฟ้าและน้ำมัน) อาจจะเป็นเซนติเมนต์เชิงบวกให้กับหุ้นในกลุ่มได้บ้างในวันนี้ ทำให้ดัชนีอาจจะแกว่งตัวขึ้น

สถานการณ์หุ้นแบบนี้

ทำให้เรายังต้องลงทุนแบบดูสถานการณ์ไปแบบวันต่อวัน เว้นแต่หุ้นตัวที่ดูแล้วพื้นฐานแน่นจริง ปันผลงาม ถึงจะซื้อถือยาวเพื่อรับเงินปันผล หรือหวังจากส่วนต่างราคาได้

ส่วนฝรั่งจะกลับหรือยังไม่กลับ

ยังคงต้องลุ้นกันต่อไป

Back to top button