ลุ้นต่อ

วานนี้ “โมนิก้า” เห็นดัชนีกวัดแกว่งไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบ จนในบางครั้งเชื่อว่าดัชนีจะยืนปิดบวกได้ แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดอาการหวั่นไหว เมื่อเห็นดัชนีทิ้งตัวลงอย่างรวดเร็ว และผลลัพธ์สุดท้ายที่มีออกมาให้เห็นอย่างเป็นทางการก็คือ ดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,417.21จุด ลบไป 2.55 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 4.29 หมื่นล้านบาท คือภาพการลงทุนที่ยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ และยังต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อย ๆ นะจ๊ะ

ในทางกลับกันหากวิเคราะห์จากสัญญาณทางเทคนิคจะพบว่า เส้น 10 วัน กับ 25 วัน ยังเป็นลักษณะ up trend แต่ทุกครั้งที่ดัชนีดีดตัวขึ้นแรง ๆ มักจะมีแรงเทขายออกมาทดสอบกำลังใจเป็นระยะ หลังจากนั้นจะเริ่มมีแรงซื้อล็อตใหม่เข้ามาไล่หุ้นอีกรอบ จนมีการยกฐานแนวรับใหม่สูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเห็นได้จากฐานที่มั่นก่อนหน้านี้อยู่ที่บริเวณ 1,400 จุด ต่อมาขยับขึ้นมาทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,420 จุด นะจะบอกให้

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ถึงไม่ตระหนกเมื่อเห็นแรงเทขายถล่มออกมาในช่วงท้ายตลาด หรือวันนี้จะมีแรงเทขายออกมาอีกระลอก ก็ไม่ทำให้เดี๊ยนเกิดอาการหวั่นไหวทางอารมณ์ เพราะเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปแล้วว่า สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยตอนนี้น่าลงทุนจริง ๆ และเมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดต่าง ๆ จะเห็นว่า ในมุมของพีอีก็ต่ำเรี่ยดิน และในมุมของพีบีวีก็ถูกเหลือเชื่อ หรือแม้กระทั่งมุมปันผลก็โดนใจจริง ๆ เจ้าค่ะ

ถ้าไม่รู้ว่าจะเล่นอย่างไรดี “โมนิก้า” ขอแนะนำตัวหุ้นที่เดี๊ยนเคยนำเสนอเป็นข้อมูลประกอบการลงทุนในช่วงเริ่มต้นของไตรมาส 3 โดยเป็นการบอกเล่าข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น PTTGC ซึ่งเป็นการเน้นย้ำไปที่เรื่อง BV 63 บาทเป็นประเด็นสำคัญ และเมื่อดูจากการยืนปิดที่ระดับ 37.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท ก็ทำให้หุ้นตัวนี้เด่นสุด ๆ ในช่วงเงินไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนะจ๊ะ

รายต่อมาก็คือหุ้นปูนใหญ่ SCC ซึ่งติดโผหุ้นที่มีราคาต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยผลงานที่ทำได้ในแต่ละไตรมาสก็ยังดูดีในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ผนวกกับราคาหุ้นเริ่มพยายามกลับตัวขึ้นรอบใหม่ “โมนิก้า” ถึงกล้าแนะนำให้แฟนคลับหาจังหวะสะสมหุ้น วันนี้เลยต้องถามบรรดานักลงทุนว่า การยืนปิดที่ระดับ 293 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 917 ล้านบาท  น่าเล่นไหมจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ JMT ก็เป็นหุ้นที่ติดอยู่ในโผน่าซื้อของ “โมนิก้า” แทบทุกครั้งที่มีการเม้าท์ถึงหุ้นน่าเล่น จึงบอกกับแฟนคลับได้เพียงว่า  นาทีนี้อย่าได้สนใจอะไรมากมาย และอย่าได้หวั่นไหวไปกับอารมณ์ของตลาดหุ้น เพราะจังหวะนี้ต้องเน้นเล่นรอบ มีโอกาสทำกำไรต้องฉวยโอกาสทันที และการที่หุ้นย่อลงมาปิดที่ระดับ 33.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 539 ล้านบาท มันคือจังหวะเข้าทำกำไรนะคะ

เหมือนกับหุ้นเครื่องดื่มชูกำลังตัวท็อปของประเทศ “โมนิก้า” มองแบบคนอ่อนประสบการณ์ก็ยังรู้เลยว่า CBG คือกลุ่มหุ้นที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเล่นของนักลงทุนสถาบัน และแรงซื้อที่มีเข้ามาในเที่ยวนี้ก็เป็นการเล่นตามข่าวดังกล่าวเสียด้วย เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนลองประเมินการยืนปิดที่ระดับ 74.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 577 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ไปต่อไหมเอ่ย?

ตบท้ายกันที่หุ้นเสือซุ่มอย่าง TGE กันดีกว่า เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.14 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39 ล้านบาท ถือเป็นช็อตที่น่าตามไปดูแบบใกล้ชิดว่า ราคาหุ้นจะขยับขึ้นไปไกลขนาดไหน? เพราะสิ่งที่ทุกคนรับรู้กันมาตลอดก็คือ ผลงานปีหน้าจะโตเด่น และในปีถัดไปจะโตต่อ จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจในแง่ของการทำผลงานสวย..งานนี้จริงเท็จประการใด ก็ลองไปสืบข่าวกันดูพะย่ะค่ะ