พาราสาวะถีอรชุน
ปัญหาไร้มาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านเมืองสงบยาก นาทีนี้มีการตั้งข้อสังเกตพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจรถไฟธนบุรีจะเอาผิด 11 นักศึกษาให้ได้ โดยออกหมายเรียกซ้ำสอง ไม่สนใจใยดีต่อข้อติดขัดที่กลุ่มนักศึกษายื่นขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา มิหนำซ้ำ ยังขู่สำทับถ้าไม่มาตามกำหนดจะออกหมายจับ
ปัญหาไร้มาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านเมืองสงบยาก นาทีนี้มีการตั้งข้อสังเกตพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจรถไฟธนบุรีจะเอาผิด 11 นักศึกษาให้ได้ โดยออกหมายเรียกซ้ำสอง ไม่สนใจใยดีต่อข้อติดขัดที่กลุ่มนักศึกษายื่นขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา มิหนำซ้ำ ยังขู่สำทับถ้าไม่มาตามกำหนดจะออกหมายจับ
ความไม่ชอบมาพากลและทำให้สังคมเห็นถึงเล่ห์เพทุบายของเจ้าหน้าที่ก็คือ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร.ออกมาระบุว่า พนักงานสอบสวนยกหูขอคำแนะนำซึ่งเห็นว่าการขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่เห็นว่าเหตุผลของนักศึกษาเรื่องออกหมายกระชั้นชิดฟังไม่ขึ้น
ชี้นำกันขนาดนี้แล้วเจ้าหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาจะตัดสินใจอย่างไร เอาล่ะในเมื่อบอกว่าเป็นหน้าที่และต้องทำกันตามขั้นตอนของกฎหมายก็ไม่ว่ากัน หากเล่นงาน 11 นักศึกษาด้วยข้อกล่าวหาชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปขัดคำสั่ง คสช. ก็เกิดคำถามตามมาว่า แล้วทีพุทธะอิสระเคลื่อนไหวไปในที่ต่างๆ นับตั้งแต่ คสช.ยึดอำนาจถามว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองและชุมนุมกันเกิน 5 คนหรือไม่
คำตอบมันมีอยู่ในตัวอยู่แล้วไม่ต้องอธิบาย แล้วพนักงานเจ้าหน้าที่ทำไมนิ่งเฉยนอกจากไม่เห็นว่าขัดคำสั่ง คสช.หรือผิดกฎหมายใดๆ แล้วยังอำนวยความสะดวกให้อีกต่างหาก จึงมีการรื้อฟื้นความจำว่าหรือเป็นเพราะพุทธะอิสระเป็นอาจารย์ด้านจิตวิญญาณของ 3 พี่น้องแห่งบูรพาพยัคฆ์ทั้ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา จึงมีความเกรงอกเกรงใจกันเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าเป็นเช่นนั้น จากนี้ไปท่านผู้นำและผู้มีอำนาจต้องเลิกหยอดคำหวานอ้างเรื่องความเป็นกลางและเป็นธรรมได้แล้ว นอกจากจะผิดศีล 5 ที่พระซึ่งเป็นอาจารย์สอนไว้แล้ว มันยังทำให้คนไม่เชื่อมั่นการทำหน้าที่ของท่านและชาวคณะเข้าไปอีก แต่ก็อีกนั่นแหละ พูดแบบนี้คณะผู้มีอำนาจคงจะเถียงหัวชนฝาเพราะผลสำรวจความชื่นชอบของประชาชนล่าสุดโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติคะแนนนิยมสูงถึง 99.5 เปอร์เซ็นต์
คะแนนสูงปรี๊ดเช่นนี้จะเป็นรองก็แค่ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเท่านั้น ที่พบว่าคะแนนนิยมของประชาชนโสมแดงก่อนหน้านี้สูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม มาลดลงนิดหน่อยจากการสำรวจครั้งล่าสุดนี่เองที่อยู่ในระดับ 99.97 เปอร์เซ็นต์ หายไป 0.03 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพราะว่าท่านผู้นำคิมติดราชการที่ต่างประเทศทำให้ประชาชนไม่ได้เห็นหน้าค่าตา
ด้วยคะแนนนิยมของสำนักงานสถิติแห่งชาตินี่กระมัง ที่ทำให้บิ๊กตู่มั่นอกมั่นใจถึงขั้นประกาศกลางวงระบายความในใจประจำปี ที่มองยังไงก็ไม่ใช่การแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีของรัฐบาลคสช. วางเดิมพันจะแสดงความรับผิดชอบหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่ผ่านการทำประชามติ มีผลโพลของประชาชนจำนวนมหาศาลรองรับนี่เอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปยังหน่วยงานที่ทำการสำรวจความคิดเห็นแล้ว จึงมีความเห็นของนักวิชาการตามมาถึงความน่าเชื่อถือต่อผลดังว่า บูฆอรี ยีหมะ อาจารย์ประจำสาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจ อันดับแรกโพลดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยหน่วยงานของรัฐ โดยหลักวิชาการของการทำโพลก็ไม่อาจเชื่อถือได้โดยสนิทใจอยู่แล้ว
ประกอบกับบรรยากาศทางการเมืองเอง ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งหากการทำโพลเกิดขึ้นในสังคมประชาธิปไตยความเชื่อถือจะสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะหากหน่วยงานที่ทำโพลไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ ในสังคมปกติการทำโพลมักจัดทำโดยสถาบันทางการศึกษาเพราะจะทำให้สังคมเชื่อถือมากขึ้นในเรื่องการไร้อคติและความเป็นกลาง
ไม่เพียงเท่านั้นจากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ต่อให้เป็นโพลที่ทำมาจากสถาบันทางการศึกษาประชาชนและผู้ที่ติดตามการเมืองต้องจับตาและตั้งคำถามเสมอ เนื่องจากบรรยากาศทางการเมืองในขณะนี้ไม่เป็นปกติ ต่อให้รัฐไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการทำโพลโดยตรง ผู้จัดทำโพลเองก็อาจจะเครียด บางครั้งก็ต้องเซ็นเซอร์ตัวเองทั้งเรื่องคำถามว่าถามอย่างไรจะไม่ให้ผลโพลออกมากระทบกับผู้มีอำนาจ
ตรรกะสำคัญที่ทำให้หลายคนคิ้วขมวดและยิ้มที่มุมปาก คงเป็นตัวเลข 99.5 เปอร์เซ็นต์ เพราะในสังคมประชาธิปไตยทั่วโลก จากสถิติไม่เคยมีประเทศไหนได้มากขนาดนี้มาก่อน ในรัฐบาลประชาธิปไตยได้เพียง 70-80 เปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว ฉะนั้นในความเป็นจริงจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ยิ่งเกิดขึ้นในสภาพบรรยากาศแบบนี้ยิ่งทำให้สังคมสงสัย
ยิ่งเห็นคนแถลงเรื่องนี้คือ สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล เชื่อได้เลยว่าคนจำนวนไม่น้อยตัดสินใจได้ทันทีว่าตัวเลขที่เกิดขึ้นน่าเชื่อถือเพียงใด ความจริงแล้วเมื่อนำเอาความหมายที่แท้จริงของโพลมาอธิบายตามที่อาจารย์บูฆอรีกล่าวถึงแล้ว ก็น่าจะเห็นอะไรที่เด่นชัดขึ้น เพราะโพลคือเครื่องมือหนึ่งในการสำรวจทัศนคติ ความคิด ความเห็นและวัดความนิยมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
มีจุดเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกาในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี การจะได้คำตอบที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด โพลต้องอยู่ภายใต้บรรยากาศเสรีภาพ ทั้งคนทำโพลและคนตอบคำถามโพล เพราะหลักใหญ่ใจความสำคัญหนึ่งของโพลคือ เสรีภาพในการแสดงออก หรือ freedom of expressionโดยปราศจากข้อจำกัดต่างๆ ที่จะทำให้การแสดงออกบิดเบี้ยวไปให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างที่บอกไว้หลายครั้งเรื่องของการปฏิบัติการทางจิตวิทยา การปฏิบัติการข่าวสารทางทหารหรือไอโอหรือแม้กระทั่งการโฆษณาชวนเชื่อ อาจใช้ได้ผลในยุคสมัยหนึ่ง แต่ในปัจจุบันที่โลกก้าวไกลไปสู่ยุคโซเซียลมีเดียแล้ว ยุทธวิธีแบบเดิมๆ ไม่อาจนำมาใช้ได้อีก แต่ก็ยังมีบางพวกที่ไม่ยอมสรุปบทเรียน ทำตัวเป็นพวกหลงยุคตกขบวนความก้าวหน้า ถ้าเดินตามแนวนี้ไม่รู้ว่ามีใครมองเห็นหนทางประเทศที่จะเดินไปข้างหน้าหรือไม่