SUPER ต้นทุนการเงินพ่นพิษ.!
ดูไม่จืดเลยทีเดียว...เมื่อ SUPER ของ “เฮียจอมทรัพย์ โลจายะ” ประกาศงบไตรมาส 3/2566 มีตัวเลขขาดทุนบักโกรกอยู่ที่ 445.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 440%
ดูไม่จืดเลยทีเดียว…เมื่อบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ของ “เฮียจอมทรัพย์ โลจายะ” ประกาศงบไตรมาส 3/2566 มีตัวเลขขาดทุนบักโกรกอยู่ที่ 445.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 440% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 82.59 ล้านบาท
ทั้ง ๆ ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 2,311.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.48% จากเดิมทำได้ 2,191.47 ล้านบาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 84.60% อยู่ที่ 33.15 ล้านบาท ส่วนต้นทุนขายและการให้บริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.45% อยู่ที่ 1,254.95 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาสนี้มีกำไรขั้นต้น 1,056.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.71% และมีกำไรจากการดำเนินงาน 1,023.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.47%
จะเห็นว่าตัวเลขหลาย ๆ ตัวดูดีขึ้น แต่พอไปดูบรรทัดสุดท้าย อย่างที่เห็น ตัวเลขติดลบซะงั้น…สาเหตุก็มาจากถูกต้นทุนการเงินพ่นพิษใส่ไปเต็ม ๆ…
ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา SUPER ถูกต้นทุนทางการเงินตามหลอกหลอนมาโดยตลอด…สารตั้งต้นก็มาจากการที่ SUPER ไม่ได้ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเอง แต่ใช้วิธีโตทางลัดไปซื้อโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) อยู่แล้ว ซึ่งต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่ค่อนข้างสูง…
ประกอบกับย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ธุรกิจโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มถือเป็นเรื่องใหม่ของเมืองไทย ทำให้สถาบันการเงินไม่มั่นใจ จึงคิดดอกเบี้ยแพง…
นี่ขนาดว่า SUPER มีการตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (Super Energy Power plant Infrastructure Fund) หรือ SUPEREIF ขายสินทรัพย์เข้าไป แล้วนำเงินไปใช้หนี้บางส่วนแล้วนะ ก็ทำให้ต้นทุนการเงินดีขึ้น…แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น
เพราะล่าสุดต้นทุนทางการเงินกลับมาหลอกหลอนอีกแล้วคร้าบบบบท่าน…สาเหตุอาจเป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมา SUPER มีการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ทำให้ต้องมีการสร้างหนี้ก้อนใหม่อยู่เรื่อย ๆ ก็เลยมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นอีกครั้ง…
ก็เข้าใจแหละว่า SUPER มีความเพียรพยายามในการแก้ไขปัญหาแล้ว แต่ยังไม่จบ เห็นได้ชัดจากงบในไตรมาส 3/2566 ที่มีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นเกือบ 50% อยู่ที่ 1,014.24 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 679.82 ล้านบาท
เรียกว่าเป็นแผลติดเชื้อเรื้อรังที่รักษาไม่หายสักที..!!
แต่ไม่จบแค่นั้น เพราะเหมือนผีซ้ำด้ำพลอย จากเดิมเมื่อไตรมาส 3/2565 เคยขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนแค่ 120.28 ล้านบาท มาไตรมาสนี้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 726.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 504.25% โอเค…เป็นตัวเลขทางบัญชี (ยังไม่เกิดขึ้นจริง) ซึ่งมีสาเหตุมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้…อันนี้เข้าใจได้
ที่น่าสนใจ ต้นทุนการเงินที่กัดกินกำไรนี่แหละ…เพราะมันทำให้บรรทัดสุดท้ายของ SUPER ยังไง้ยังไงก็ดูไม่ดี..!!
ต้องดูว่าจะแก้ปัญหาชีวิตนี้ยังไง..?
เอ๊ะ…หรือจะตั้งกองอินฟราฯ ขึ้นมาอีกสักกองฯ ก็อาจเป็นไปได้…
เพราะถ้าขืนปล่อยไว้อย่างนี้ ต้นทุนทางการเงินจะกลายเป็นขวากหนามในการลงทุน…เนื่องจากถ้ามีภาระต้นทุนทางการเงินสูง…สิ่งที่ตามมาคือ อันดับเรตติ้งก็จะไม่ดี เวลาไปขอกู้เงินแบงก์ ทำโปรเจกต์ไฟแนนซ์ ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยแพง กลายเป็นวัวพันหลักไปเรื่อย ๆ
สุดท้ายโอกาสที่จะเห็นหุ้น SUPER โผล่จากโคลนตม ทะลุ 1 บาท ก็ปิดประตูตายไปได้เลย
แหม๊…คิดแล้วมันน่าหนักใจแทน “เฮียจอมทรัพย์” จริง ๆ ให้ตายสิ..!!
…อิ อิ อิ…