CBG ‘ฟ้าเปิด’ ปี 2567 โตพุ่ง 50%
ด้วยแนวโน้มที่ดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 นี้ ไปจนถึงปี 2567 “เสถียร เสถียรธรรมะ” ผู้นำทัพมั่นใจว่า CBG “ฟ้าเปิด” แล้ว
เส้นทางนักลงทุน
มีโอกาสได้นั่งพูดคุยกับ “เสถียร เสถียรธรรมะ” ประธานคณะกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ รวมทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 สัดส่วน 25.01% ผ่านบริษัท เสถียรธรรมโฮลดิ้ง จำกัด ในบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เบียร์แบรนด์ “คาราบาว-ตะวันแดง” เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ถึงทิศทางของ CBG ในปี 2567 ที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นปี “ฟ้าเปิด” สำหรับ CBG
“เสถียร” เล่าให้ฟังว่า การแจ้งเกิดของเบียร์แบรนด์ “คาราบาว-ตะวันแดง” มีส่วนสัมพันธ์กับ CBG ในฐานะที่ CBG เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายให้กับเบียร์คาราบาว-ตะวันแดง
เบียร์ทั้ง 2 ยี่ห้อเริ่มทำการจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ ช่วงแรกปริมาณจะอยู่ที่ 30 ล้านชิ้นต่อเดือน หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 830 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้นกระแสรายได้ของ CBG ก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมาจาก 2 ทาง คือการผลิตขวดและกระป๋อง รวมทั้งรายได้จากการจัดจำหน่ายดังกล่าว โดยจะเห็นผลการรับรู้ชัดเจนเต็มปีหน้า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 จึงมั่นใจว่า CBG จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 50% จากปี 2566
และด้วยกลยุทธ์ในการบุกตลาดเบียร์มูลค่า 2.6-2.7 แสนล้านบาท โดยตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งการตลาด 10% ในปี 2567 หรือมียอดขายกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากนั้นจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ชิงส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% จากปัจจุบันที่ 2 เจ้าใหญ่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 90% ยิ่งทำให้การผลิตขวดและกระป๋องเพิ่มมากขึ้น โดย “เบียร์” จะเป็นหัวรถจักรที่สำคัญที่จะพาสินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์ให้เติบโตไปด้วย พร้อมเป็นแกนนำให้ธุรกิจอื่น ๆ ในเครือคาราบาวเติบโตมากขึ้นไปอีก
CBG จะมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายกำลังการผลิตขวดและกระป๋อง รองรับการเพิ่มขึ้นของการผลิตเบียร์ ซึ่งปัจจุบันได้สร้างโรงงานการผลิตเบียร์ในจังหวัดชัยนาท ในช่วงแรกนำร่องการผลิตที่ 200 ล้านลิตร ตั้งแต่ปีหน้าจะทยอยขยายกำลังการผลิตตามทิศทางความต้องการของตลาด โดยสามารถขยายกำลังการผลิตได้ถึง 400 ล้านลิตร
คาดว่าจะขยายกำลังผลิตได้เต็มกำลังภายในไตรมาส 4 ของปี 2567 ซึ่งจะใช้งบลงทุนในการขยายกำลังการผลิตประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท และใช้งบในการทำการตลาดไม่น้อยกว่า 15% ของยอดขาย
ปัจจุบันตลาดเบียร์ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว การเข้ามาในตลาดของกลุ่มคาราบาวจะทำให้เห็นความเคลื่อนไหว หรือ Movement ของตลาดที่เปลี่ยนไป จากมาตรฐานใหม่ของเบียร์ที่บริษัทกำลังจะสร้างขึ้น และมาพร้อมตัวเลือกที่หลากหลาย และจากมูลค่ารวมของตลาดแอลกอฮอล์รวมกว่า 5 แสนล้านบาทนั้น
เบียร์ทั้ง 2 แบรนด์ 5 รสชาติ จะปูพรมจำหน่ายในร้านค้าในเครือข่ายของกลุ่มคาราบาว ได้แก่ ซีเจ มอร์ ที่มีถึง 1,000 สาขาทั่วประเทศ, ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ที่มีร้านค้าอยู่มากกว่า 5,000 ร้านทั่วประเทศ และหน่วยรถในศูนย์กระจายสินค้าทั้ง 31 แห่ง ที่สามารถเข้าถึงร้านค้าปลีกทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางของโมเดิร์นเทรด และเทรดิชันนอลเทรด
บริษัทได้จัดทัพปรับโครงสร้างการกระจายสินค้าในเครือใหม่ทั้งหมด ด้วยการกระจายสินค้าสู่ “ตัวแทนจำหน่ายระดับอำเภอทั่วประเทศ” โดยตรง เพื่อลดขั้นตอนการกระจายสินค้า ทำให้สินค้าสามารถเจาะเข้าถึงร้านค้าย่อยหรือโชห่วยทั่วประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับแผนของ CBG ในปี 2566 นี้ วางเป้ายอดขาย 2 หมื่นล้านบาท แม้ช่วงครึ่งปีแรกจะติดลบ แต่มองครึ่งปีหลังฟื้นตัวได้ดี ทั้งในประเทศจากเครื่องดื่มชูกำลังวางเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 25% จากปัจจุบัน 22%
และนอกจากนี้บริษัทเริ่มมีแนวคิดในการรุกตลาดเครื่องดื่มชูกำลังราคา 12 บาท เนื่องจากการปรับราคาขึ้นของคู่แข่งหลักเริ่มมีการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้น คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนต่อในช่วงปีหน้า
แนวโน้มของ CBG ดีขึ้นในงวดครึ่งปีหลังนี้ เพราะต้นทุนลดลง โดยเป็นผลจากราคาอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตกระป๋องเครื่องดื่ม คิดเป็น 20% ของต้นทุนรวม ลดลงมาอยู่ที่ 2,175 ดอลลาร์ฯ ต่อตัน จากระดับสูงสุดที่ 2,650 ดอลลาร์ฯ ต่อตัน เมื่อเดือนมกราคม 2566 จะทำให้ต้นทุนลดลง และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น
นอกจากนี้ ยอดขายที่เติบโตปานกลางในประเทศไทยและในต่างประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชา น่าจะทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานแก้วและกระป๋องดีขึ้น รวมถึงช่วยให้บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรในงวดครึ่งปีหลัง
ในปี 2566 CBG ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มบํารุงกําลังที่ 23-25% โบรกเกอร์มองว่าน่าจะทําส่วนแบ่งการตลาดได้ถึงกรอบเป้าหมายด้านล่าง เป้าอัตรากําไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยในปี 2566 ของบริษัทอยู่ที่ 26.8% ฟื้นตัวจาก 25.8% ในครึ่งแรกที่ผ่านมา
ดังนั้น ด้วยแนวโน้มที่ดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 นี้ ไปจนถึงปี 2567 “เสถียร เสถียรธรรมะ” ผู้นำทัพมั่นใจว่า CBG “ฟ้าเปิด” แล้ว