พักรบโมนิก้าและทีมงาน
*มูลค่าการซื้อขายที่สุดแสนจะเบาบางในรอบหลายเดือน ทำให้บรรยากาศการลงทุนดูหงอยเหงามากขึ้นเป็นกอง และยังทำให้เหล่าผู้กล้าถอนตัวออกจากตลาดหุ้นในทันทีนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่ขาซิ่งต้องคิดให้ดีก่อนจะตะลุยซื้ออย่างไม่คิดชีวิต เพราะบรรยากาศการลงทุนในสัปดาห์นี้ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากสัปดาห์ก่อน จึงต้องเลือกหนทางไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะจะบอกให้
*มูลค่าการซื้อขายที่สุดแสนจะเบาบางในรอบหลายเดือน ทำให้บรรยากาศการลงทุนดูหงอยเหงามากขึ้นเป็นกอง และยังทำให้เหล่าผู้กล้าถอนตัวออกจากตลาดหุ้นในทันทีนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่ขาซิ่งต้องคิดให้ดีก่อนจะตะลุยซื้ออย่างไม่คิดชีวิต เพราะบรรยากาศการลงทุนในสัปดาห์นี้ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากสัปดาห์ก่อน จึงต้องเลือกหนทางไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะจะบอกให้
*ประกอบกับพรายกระซิบส่วนตัวของ “โมนิก้า” ไปเจอะเจอนักลงทุนขาใหญ่อยู่ที่เชียงใหม่บ้าง ญี่ปุ่นบ้าง ยุโรปบ้าง ฯลฯ ย่อมเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ไม่มีใครสนใจตลาดหุ้นไทยเป็นการชั่วคราว จึงไม่ควรหวังดัชนีจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และในระหว่างนี้คงเห็นการแกว่งตัวแบบ w-shape ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเหมือนกับที่เดี๊ยนพยายามย้ำกับแฟนคลับเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนไงล่ะค่ะ
*นอกจากนี้อย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นแรงซื้อจากกองทุน LTF & RMF เข้ามาเป็นจำนวนมากเหมือนกับปีก่อนๆ เพราะเม็ดเงินก้อนดังกล่าวได้ไหลเข้ามาแล้วในช่วงที่ดัชนีย่อตัวลงมาแถว 1,300 จุด เมื่อปลายเดือน สิงหาคม 2558 ขณะที่ดัชนีปิดปลายสัปดาห์ที่แล้วในระดับ 1,282.93 จุด ลบไป 1.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.60 หมื่นล้านบาท จึงไม่มีประโยชน์ที่จะทุ่มเงินเข้ามาทำราคาหุ้นเพื่อปิดบัญชีหรอกค่ะ
*วันนี้ถึงต้องเข้าลงทุนแบบปัจจุบันทันด่วน เห็นตัวไหนเริ่มขยับ ต้องรีบกระโจนใส่ ไม่มีเวลาอิดออด เพราะของดีไม่ได้มีให้เล่นบ่อยๆ ซึ่งเหมือนกับการยกตัวสูงขึ้นของ COM7 ถ้าติดตามดูสตอรี่ที่ปูพื้นมาระยะหนึ่งจะเห็นว่า มักใช้เรื่องรายได้โต กำไรโต มาเป็นตัวบิ้วด์อารมณ์ และดูเหมือนว่า มุกนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีเสียด้วย จึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่า 700 ล้านบาท พร้อมกับแสดงโมเมนตัมขาขึ้นอย่างชัดเจนแบบนี้..สุดยอด..ดดด เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ J ซึ่งเป็นหุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาเทรดได้ไม่นาน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของนักโหนกระแส ล่าสุดหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 3.06 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 550 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นรู้อยู่แล้วว่า การขึ้นมาเที่ยวนี้เกิดจากนักเก็งกำไรเข้ามาตะลุมบอน สถานการณ์ของหุ้นถึงคึกคักอย่างผิดหูผิดตาไงล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ SIM ผงาดขึ้นมาติดในกระดาน most active ตั้งแต่เช้าจรดเย็น มันเกิดจากตลาดไม่มีหุ้นขนาดใหญ่ให้เล่น บวกกับกระแสตลาด replacement กำลังมาแรง ขาเล่นเลยอินกับประเด็นดังกล่าวอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ผสมผสานกับข้อมูลเก่าในอดีตมีการยืนยันด้วยตัวเลขทางสถิติว่า ตั้งแต่เกิด 2G ต่อเนื่องมาถึง 3G และล่าสุดจบที่ 4G กำไรของหุ้นที่ขายมือถือโตกันถ้วนหน้า “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นตัวนี้วิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.40 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 300 ล้านบาทไงล่ะค่ะ
*ส่วนคนที่ได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี แต่ราคาหุ้นกลับมีอาการ 3 วันดี 4 วันไข้ “โมนิก้า” พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ไม่มีใครเกินกว่า CSS ภายใต้การกุมบังเหียน “เฮียกัง” ของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า กำไรนอนมาตั้งแต่หัววัน สุดท้ายหุ้นยังขึ้นไปยืนเหนือ 5 บาทไม่ได้สักทีแบบนี้ วัยรุ่นเซ็ง! ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.74 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 430 ล้านบาท เดี๊ยนหวังว่า เที่ยวนี้จะทำสำเร็จนะคะ
*ทางด้าน SCI ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” เฝ้าดูมาระยะหนึ่ง หลังจากแรงเทขายเริ่มซาลง พร้อมกับเทกตัวขึ้นอย่างช้าๆ จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะกลับขึ้นไปสร้างฐานที่ 7 บาท ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่นักเล่นบางกลุ่มเริ่มสังเกตเห็นการฟอร์มตัวอย่างเป็นล่ำเป็นสัน วันนี้ถึงต้องถามใจเหล่าผู้กล้าว่า เอาอย่างไรดี? หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.75 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5.50% แล้วนะซี
*ส่วนคนที่ชอบลงทุนแบบยาวๆ แต่ซื้อแล้วค่อนข้างสบายใจ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้น EPG ของคุณพี่ “เฉลียว” โดยประเด็นที่ทำให้ทุกคนสนใจหุ้นตัวนี้ ล้วนมาจากนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ สร้างแวลูให้กับตัวบริษัทค่อนข้างสูง แถมราคาเป้าหมายที่กูรูให้ไว้ในเที่ยวนี้อยู่ที่ระดับ 15 บาท เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 12.60 บาท บวกไป 0.30 บาท ยังพอมีแก๊ปให้เล่นเจ้าค่ะ
*ตรงกันข้ามกับกรณีของ ITD ถ้ามองการถีบตัวขึ้นเที่ยวนี้เป็นจังหวะของการโหนกระแส “โมนิก้า” คิดว่า เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าเล่น หรือถ้ามองเป็นการทยอยสะสมหุ้นไว้ในพอร์ต ก็ทำได้เหมือนกัน เพราะข้อมูลทางเทคนิคที่เห็นกันในช่วง 5 เดือนเต็มๆ คือ ฐานของหุ้นมีตั้งแต่ 7.50 บาท ขยับขึ้นไปเป็น 8 บาท ต่อจากนั้นขึ้นไปยืนแถว 8.50 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดปิดที่ 7.35 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.5% ด้วยมูลค่า 250 ล้านบาท