JKN GC พิการ.!?
ปรากฏการณ์แจ้งแล้วแจ้งอีก...ที่เกิดขึ้นกับหุ้นนางงามตกเวที บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ของ “เจ๊แอน”-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ถูกตั้งคำถามว่าด้วยเรื่องธรรมาภิบาล (Good Governance : GC) เรื่องการเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะมีปัญหาตามมาหรือเปล่า..??
ปรากฏการณ์แจ้งแล้วแจ้งอีก…ที่เกิดขึ้นกับหุ้นนางงามตกเวที บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ของ “เจ๊แอน”-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ถูกตั้งคำถามว่าด้วยเรื่องธรรมาภิบาล (Good Governance : GC) เรื่องการเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะมีปัญหาตามมาหรือเปล่า..??
เพราะโดยแนวปฏิบัติของบริษัทจดทะเบียน นอกเหนือจากพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2538 (พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด) และข้อบัญญัติต่าง ๆ แล้ว เรื่องธรรมาภิบาลเป็นอีกเรื่องที่ต้องยึดถือปฏิบัติ…ซึ่งอาจไม่ผิดกฎหมาย แต่เป็นหนึ่งในสิ่งที่บริษัทจดทะเบียนจะละเลยมิได้…ต้องให้ความสำคัญ..!?
เรื่องธรรมาภิบาลจึงถือเป็นปัจจัยเสี่ยงของ JKN..!!
ส่วนที่มาของเรื่องนี้มีสารตั้งต้นมาจากช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ย. 2566 JKN ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงมติบอร์ดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2566 เรื่องการยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง จากนั้นช่วงดึกของวันดังกล่าว ก็แจ้งตลาดฯ อีกรอบว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ศาลล้มละลายกลางได้รับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเรียบร้อยแล้ว โดยศาลฯ ได้นัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 29 ม.ค. 2567
กลายเป็นประเด็นร้อนที่คนในแวดวงตลาดทุนและวงการธุรกิจตั้งข้อสังเกตไปต่าง ๆ นานา ว่ามีความเร่งรีบจนเกินงามไปหรือไม่..?
ถัดมา เช้าวันที่ 15 พ.ย. 2566 ก็แจ้งว่ามีบอร์ด 5 คนลาออก ในจำนวนนี้มีทั้งประธานกรรมการ ประธานกรรมการตรวจสอบ และกรรมการ โดยให้เหตุผลในการลาออกมีทั้งปัญหาด้านสุขภาพ และติดภารกิจส่วนตัว แต่ที่เป็นไฮไลต์เห็นจะเป็นเหตุผลของ 2 กรรมการ ที่ระบุว่า “เนื่องจากทิศทางและกลยุทธ์การแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและความไม่แน่นอนของการทำธุรกิจในอนาคตของบริษัท” ซึ่งเมาท์มอยกันว่า เป็นบอร์ดที่มาจากฝั่งเจ้าหนี้หุ้นกู้ซะด้วย
ก็ถูกตั้งคำถามตามมาอีก ทำให้ JKN ต้องแจ้งซ้ำอีกรอบในช่วงดึกของวันที่ 15 พ.ย. กลายเป็นว่า บอร์ดทั้ง 2 คน ไม่ได้รับเชิญให้เข้าประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 7 พ.ย. 2566 ซึ่งได้มีมติให้บริษัทยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ซะงั้น…
แต่มันไม่จบแค่นั้น เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งให้ JKN ชี้แจงเพิ่มเติม…ซึ่ง JKN ได้ชี้แจงในวันที่ 20 พ.ย. 2566 โดยไล่เรียงที่มาและไทม์ไลน์ในการจัดประชุมบอร์ด แต่คีย์เวิร์ดสำคัญตรงที่…
“บริษัทมีความจำเป็นเร่งด่วน (เนื่องจากประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO&MD) ต้องเดินทางไปต่างประเทศ 1 เดือน เพื่อจัดงานประกวด Miss Universe 2023 และเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าต่าง ๆ) ทำให้ไม่สามารถออกหนังสือเชิญประชุมได้ แต่ใช้วิธีโทรศัพท์แจ้งกรรมการแทน โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ย. CEO&MD ก็ได้โทรศัพท์ไปหาคณะกรรมการเพื่ออธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งกรรมการก็ไม่ได้มีการคัดค้านการยื่นฟื้นฟูแต่อย่างใด” พร้อมระบุด้วยว่า “บทบัญญัติของกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ว่าการยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการนั้น จะต้องได้รับการอนุมัติจากมติที่ประชุมคณะกรรมการแต่อย่างใด”
แต่ชี้แจงแล้วก็ยังไม่เคลียร์คัต เป็นเหตุให้ JKN ต้องชี้แจงเพิ่มเติมช่วงดึกของวันที่ 21 พ.ย. 2566 ว่า CEO&MD ได้โทรศัพท์ติดต่อกรรมการ 5 ท่าน ซึ่งไม่ได้คัดค้านการยื่นฟื้นฟูฯ แต่อย่างใด ส่วน 1 ท่านไม่สามารถติดต่อได้ โดยมีกรรมการเพียง 1 ท่านที่สามารถเข้าร่วมประชุมออนไลน์ได้ ซึ่งเมื่อรวมกับกรรมการ 4 ท่านที่นั่งอยู่ที่บริษัท รวมเป็น 5 ท่าน ถือเป็นกึ่งหนึ่งจากกรรมทั้งหมด 10 ท่าน
แต่เนื่องจากในวันดังกล่าว ประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม จึงแต่งตั้งให้ CEO&MD เป็นประธานในที่ประชุมแทน และยืนยันว่าการจัดประชุมและมติที่ประชุมในวันที่ 7 พ.ย. 2566 ชอบด้วยกฎหมายแล้ว กระทั่งล่าสุด ก.ล.ต.ก็สั่งให้ JKN และผู้เกี่ยวข้องชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม…
โอเค…จากคำชี้แจง ก็ถูกตั้งคำถามกันเยอะ…ส่วนที่เป็นไฮไลต์ของการประชุมในวันที่ 7 พ.ย. ตามกฎหมายตั้งใครก็ได้ขึ้นมาเป็นประธานการประชุม ซึ่งในวันที่ 7 พ.ย. มีการตั้ง CEO&MD นั่นก็คือ “เจ๊แอน” เป็นประธานการประชุม แต่ปกติไม่มีบริษัทที่ไหนเค้าทำกัน เรื่องให้บอร์ดบริหารนำการประชุม แล้ววาระหลักในวันนั้นเพื่อลงมติขอยื่นฟื้นฟูกิจการ…ซึ่งหมายถึงเป็นการยอมรับว่าเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดหรือเปล่า..? ทำให้บริษัทต้องเข้าฟื้นฟูกิจการ…ซึ่งหมวกของ “เจ๊แอน” คือผู้บริหาร…แต่กลับมานั่งเป็นประธานการประชุม
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า สุ่มเสี่ยงจะผิดธรรมาภิบาลหรือเปล่า..?? ก็ไม่รู้สินะ
เอาเป็นว่า เรื่องการชี้แจงก็ว่ากันไป แต่สุดท้ายท้ายต้องดูว่าก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเข้ามาหาความชัดเจนยังไง..? หรือเป็นบทเรียนให้กับผู้เกี่ยวข้องยังไง..? มิฉะนั้นจะกลายเป็น “GC พิการ” หรือ “ธรรมาภิบาลไม่สมประกอบ” ไป..!! มีไว้ประดับยศ…แต่ในทางปฏิบัติใช้การบ่ได้..!?
…อิ อิ อิ…