พยายามไม่ไหว!

กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกไทยเดือน ต.ค. ขยายตัวขึ้น 8% แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 9% เล็กน้อย ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ยืนยันว่าไม่ได้ส่งผลภาพการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญมากนัก แต่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเกิดจากการขายลดความเสี่ยงในกลุ่มท่องเที่ยวออกมา นำโดยตัว AOT หนักสุด! เพราะปัญหาการยกเลิกไฟลท์บินของนักท่องเที่ยวจีน ประกอบกับราคาน้ำมันย่อตัวลงระหว่างรอติดตามการประชุม OPEC+ กดดันกลุ่มหุ้นพลังงานต้นน้ำด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้ที่ยังมีแรงขายออกมาอีก แม้ว่าจะมีหุ้นรายตัวพยายามดีดตัวขึ้นมาให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่สามารถให้ SET Index ที่พยายามดีดตัวขึ้นไปหาแนวต้านเก่าบริเวณ 1,400 จุดได้ สุดท้ายก็ลงยืนปิดที่ระดับ 1,393.42  จุด ลบไป 4.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.63 หมื่นล้านบาท เบาบางเหมือนดั่งเคย น่าจะเป็นเครื่องยืนยันความหวังยังมีเหลืออยู่ในใจนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอย่างที่คิด จึงทำดีสุดได้เพียงแค่นี้จ้า!

ส่วนในรายของ PSL ราคาฟื้นตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.35 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 9.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 307 ล้านบาท จนสามารถเบรคเหนือ 8 บาทได้อีกครั้ง “โมนิก้า” เชื่อว่าราคามีโอกาสทะยานไปทดสอบบริเวณแนวต้านเดิม 8.50-8.70 บาทเป็นแน่!!! ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณของดัชนีค่าระวางเรือเทกอง “BDI” ปรับตัวขึ้นโดดเด่น 2 วันติดต่อกัน ทำนิวไฮรอบ 6 สัปดาห์ จากความคาดหวังต่อภาคอสังหาฯ ของจีนว่ามีโอกาสชะลอการถดถอยเพคะ

เหมือนกับในรายของ BH เกิดอาการเด้งหลังลงลึกจนเข้าเขต Oversold นั่นเอง ล่าสุดราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 219 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 0.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 766 ล้านบาท อย่างไรก็ดีเดี๊ยนมองว่านี่อาจเป็นจังหวะทยอยสะสม เพราะเชื่อว่าในช่วงไตรมาส 4/2566 อุปสงค์คงค้างจากผู้ป่วยชาวต่างชาติเข้ามาหนุนกว่าปกติ มิหนำซ้ำ จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ยังคงอยู่ในระดับสูง แล้วไม่ให้ติดไว้ปลายนวมเลยหรือคะ

เช่นเดียวกับในรายของ AAI สัญญาณเทคนิคเริ่มแกว่งตัวออกด้านข้าง..แต่ระหว่างทางเด้งให้เห็นเป็นระยะ ๆ อย่างล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.76 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 75 ล้านบาท ฟากนักวิเคราะห์คาดว่าแนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 4/2566 จะดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า และเป็นจุดสูงสุดของปีอีกด้วย พร้อมกับประเมินปีหน้า โอกาสมีอัพไซด์จากการขยายลูกค้ารายใหม่กลุ่ม private label ในสหรัฐฯ 2 ราย ดังนั้น “โมนิก้า” คิดว่าช่วงนี้เล่นสั้น ๆ ไปก่อนเจ้าค่ะ

อีกรายที่น่าจับตาดูเป็นพิเศษต้องยกให้หุ้น IVL เพราะเห็นสัญญาณซื้อเข้ามาเป็นระลอก “โมนิก้า” จึงต้องประเมินว่าหรือนี่จะเป็นรอบกลับตัวรอบใหม่ พ่วงกับสัญญาณเทคนิค RSI เริ่มผงกหัวขึ้นชัดเจน ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 25.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 197 ล้านบาท ได้อย่างยอดเยี่ยม…เอาเป็นว่าประคองเหนือ 25 บาทได้ก็ชื่นใจ แต่อย่าให้ต่ำกว่านี้แล้วกันค่ะ

ตบท้ายกันที่หุ้น PTTGC เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมาปิดที่ระดับ 38.25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.32% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 317 ล้านบาท มันยังคงมาจากความหวังไตรมาส 4/2566 บันทึกกำไรจากการขายหุ้นสามัญ GCL บริษัทย่อยภายใต้ธุรกิจบริการและอื่น ๆ ให้กับ WHAVH บริษัทย่อยของ WHA เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจโลจิสติกส์ สำหรับธุรกิจโพลิเมอร์ของบริษัทในสัดส่วน 50% “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องดี และเป็นจังหวะเข้าเก็บได้พะย่ะค่ะ