MASTER กางปีกความงาม.!
MASTER เป็นหุ้นศัลยกรรมความงามที่เข้าเทรดมาเกือบหนึ่งปีเต็มแล้ว ...ด้วยกระแสความนิยมการทำศัลยกรรม ทำให้ธุรกิจเสริมความงามเป็นเทรนด์ที่มาแรง
บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เป็นหุ้นศัลยกรรมความงามที่เข้าเทรดมาเกือบหนึ่งปีเต็มแล้ว (เข้าวันที่ 25 ม.ค. 2566)…ด้วยกระแสความนิยมการทำศัลยกรรม ทำให้ธุรกิจเสริมความงามเป็นเทรนด์ที่มาแรง และเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เป็นปัจจัยหนุนให้หุ้น MASTER วิ่งแรงแซงทางโค้งตั้งแต่ย่างเท้าเข้าตลาดฯ
โดยวันแรกปิดเทรดที่ 69.00 บาท เหนือจอง 50% จากไอพีโอ 46.00 บาท หลังจากนั้นก็ปรับขึ้นต่อเนื่อง เคยทำสถิติขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 83.25 บาท เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566 ก่อนจะย่อตัวลงมาตามภาวะตลาดฯ แต่โดยรวมถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้นไอพีโอเพียงไม่กี่ตัวของปี 2566 ที่ทำให้นักลงทุนยิ้มได้…
นอกจากราคาหุ้นแล้ว อีกประเด็นที่น่าสนใจหลังจากระดมทุนได้เงินก้อนใหญ่ราว 2,990 ล้านบาท ซึ่งไม่มีต้นทุน ทำให้ MASTER เหมือนพยัคฆ์ติดปีก..!!
จึงไม่น่าแปลกใจที่เห็น MASTER เปิดปฏิบัติการไล่ล่าดีล M&A อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ควักเงิน 468.39 ล้านบาท ปิด 5 ดีลรวด ได้แก่ 1)ซื้อหุ้น 40% ในบริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด (ทวิงเกิ้ล สตาร์) ซึ่งประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ผลิตสื่อโฆษณา และประชาสัมพันธ์ มูลค่า 64.94 ล้านบาท
2)ซื้อหุ้น 40% ในบริษัท ทีวายพี เมดิคัล จำกัด (ทีวายพี) ประกอบกิจการคลินิกเสริมความงาม เปิดให้บริการอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ภายใต้ชื่อ “TYP Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านเสริมจมูก ตาสองชั้น ปรับรูปหน้า มูลค่า 73.70 ล้านบาท
3)ซื้อหุ้น 40% ในบริษัท ซีเอ็มเอ็นเอช 2012 จำกัด (ซีเอ็มเอ็นเอช) ประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ภายใต้ชื่อ “ศูนย์ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุเชียงใหม่เนิร์สซิ่งโฮมแคร์” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ มีความชำนาญด้านดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยทางระบบสมองและประสาทไขสันหลัง มูลค่า 50 ล้านบาท
4)ซื้อหุ้น 40% ในบริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด (ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์) ประกอบกิจการคลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังและความงาม ภายใต้ชื่อ “The Skin Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านปลูกผมไร้รอยแผลศัลยกรรมความงาม และเลเซอร์ต่าง ๆ ปัจจุบันมีจำนวน 7 สาขาในกรุงเทพฯ รวมถึงโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมผม ภายใต้ชื่อ “ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล” มูลค่า 96 ล้านบาท
และ 5.ซื้อหุ้น 35% ในบริษัท บีอีคิว จำกัด (บีอีคิว) ประกอบกิจการคลินิกให้บริการด้านผิวพรรณ รูปร่าง และเส้นผม ภายใต้ชื่อ “BEQ Clinic” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่กรุงเทพฯ มีความชำนาญด้านการปลูกผมครบวงจร มูลค่า 183.75 ล้านบาท
การปิด 5 ดีลรวดครั้งนี้ จึงไม่ต่างจาก MASTER กางปีกความงามเลยเนอะ…
สิ่งที่น่าสนใจ อันดับแรก จะทำให้ MASTER ได้ฐานลูกค้าใหม่ทันที ถัดมา สามารถขยายตลาดได้กว้างขึ้น…จับตลาดได้ครอบจักรวาล ขณะเดียวกันเมื่อมีจำนวนสาขาภายในกลุ่มมากขึ้น ก็จะเกิดอีโคโนมีออฟสเกล หรือการประหยัดต่อขนาด…เวลาจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ก็จะถูกลง ช่วยประหยัดต้นทุน
นอกจากนี้ ยังเป็นการโตแบบอินออแกนิก ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ให้เสียเวลา และสุดท้าย จะเห็นว่า MASTER ไม่ใช่แค่ธุรกิจความงามอีกต่อไปแล้ว แต่กำลังรุกคืบสู่ธุรกิจเฮลท์แคร์ หรือการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่มีดีมานด์รออยู่แล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และที่สำคัญ ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นั่นหมายถึงโอกาสที่จะเติบได้อีกมาก
ก็น่าจะช่วยหนุนการเติบโตของ MASTER อย่างมีนัยสำคัญ…
ถ้าดูรูปเกมตามนี้ เชื่อว่า MASTER น่าจะติดปีกเสริมเขี้ยวเล็บไปอีกเรื่อย ๆ…เชื่อขนมกินได้เลย
เพราะอย่าลืมว่า MASTER ยังเหลือหน้าตักอีกเพียบที่จะไปช้อปกิจการอื่นเพื่อเสริมแกร่งธุรกิจ…
ส่วนจะเป็นบริษัทไหน..? ต้องยกหูไปถาม “เฮียระวีวัฒน์ มาศฉมาดล” กันเองละกัน…
…อิ อิ อิ…