‘หย่อนเกณฑ์’ คำนวณฟรีโฟลต : คงสถานะ DELTA-INTUCH ใน SET50 ต่อไป

DELTA กลับมาแบกน้ำหนักหุ้นบิ๊กแคปหลายตัวที่ร่วงหนัก เพื่อให้ดัชนีรอดพ้นจากการติดลบ เหมือนนักมวยที่ต้องประคองตัวเองให้ครบยก

ลักษณะการกลับมาแบกดัชนีทั้งตลาดแบบนี้ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ตีความได้ว่า ทางการจะยังคงหุ้น DELTA ไว้ในดัชนี SET50 แต่จะยังคงเป็นความเชื่อที่ไม่ได้มีความแน่นอนแบบ 100% จนกว่าจะมีการประกาศผล

โดยลักษณะทั่วไปของเกมหุ้น ก่อนที่จะมีการประกาศผลลัพธ์ใด ๆ ก็ตามที่มีความเกี่ยวข้องกับพื้นฐาน ทั้งในเชิงบวก หรือเชิงลบ ส่วนใหญ่จะมีการเล่นล่วงหน้ากันไปก่อน

เกมหุ้น DELTA ก็เช่นกัน ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็น “เข้า” หรือ “ออก” จาก SET50 ก็จะมีการเล่นล่วงหน้าเช่นกัน

โดยจะขอยก สมมติฐานหรือข้อสรุปที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นภายหลังการประกาศว่า หุ้น DELTA จะยังอยู่ใน SET50 หรือไม่ โดยแบ่งเป็น สองกรณีดังนี้

กรณีแรก หากหุ้น DELTA ถูกเข้าคำนวณใน SET50 ในรอบนี้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ 

1)ราคาหุ้น DELTA ที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนการประกาศผล จะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่ออีก หลังจากที่นักลงทุนมีความมั่นใจว่า ไม่หลุดจากการคำนวณ โดยจะมีกองทุน เข้ามาซื้อเพื่อถือ ตามเกณฑ์การถือหุ้นในกลุ่ม SET50

2)ภายหลังประกาศผล จะมีกองทุนประเภท Active Fund และนักลงทุนรายใหญ่ บางกลุ่มที่เข้ามาซื้อหุ้นดักผลก่อนประกาศ (ช่วงนี้) DELTA อาจจะมีการเทขายทำกำไร ภายหลังผลประกาศออก หรือ อาจจะไม่เทขายทำกำไรออกมา แต่เลือกที่จะถือหุ้นต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งคู่

เนื่องจากจะมี นักลงทุนอีกสองกลุ่ม ที่จะเข้ามาซื้อหุ้น DELTA หลังประกาศผลที่จะเข้าไปอยู่ใน SET50 คือ กองทุนประเภท Passive Fund หรือ Index Fund ที่จะต้องเข้ามาซื้อหุ้นตามดัชนีที่ใช้อ้างอิงที่จะต้องล้อไปกับ SET50 Index กับ นักลงทุนรายย่อยทั่วไป ที่เป็น กลุ่มมหาชนกลุ่มใหญ่ หากใครน้ำหนักมากกว่า ราคาหุ้นจะไปในทิศทางนั้น กล่าวคือ ถ้าแรงซื้อมีมากกว่าแรงขายหุ้นก็จะขึ้น…

กรณีที่สอง หากหุ้น DELTA หลุดเกณฑ์จาก SET50 จะมีผลต่อการเหวี่ยงของดัชนีมาก เนื่องจากหุ้นที่ถูกเก็งกำไรขึ้นมาจากกอง Active Fund จะต้องเทขายหุ้น (มอบตัว)

แต่เนื่องจากที่ผ่านมา หุ้น DELTA ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเหตุผลของความกังวล การหลุด SET50 ก่อนหน้านี้ ทำให้หุ้นถูกเทขายออกมามากพอสมควร ความกังวลที่จะมีแรงขายหุ้น DELTA มูลค่า 4 พันล้านบาท ก็จะลดน้อยลง เพราะหุ้นถูกทยอยเทขายไปก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้ายังคงมีอีกหนึ่งความกังวลใจ ที่เข้ามากระทบการปรับตัวขึ้นของหุ้น DELTA นั่นคือ..ดัชนีสะท้อนฟรีโฟลต (Free Float Adjusted Index) ซึ่งเป็นดัชนีตัวใหม่ ที่มีเพิ่มเติมเข้ามา จากปัจจุบันมีเพียงแค่ SET50 เท่านั้น ที่จะมีการประกาศใช้ในปีหน้า

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลจากกองทุน ส่วนใหญ่ จะยังคงยึดหลักการลงทุนในเกณฑ์ของ SET50 อยู่ เพราะไม่แน่ใจว่า ดัชนีตัวใหม่อย่าง Free Float Adjusted Index จะดีกว่า หรือไม่

ประกอบกับการที่กองทุนจะปรับไปลงทุนในดัชนี Free Float Adjusted Index นั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่จะต้องไปปรับเปลี่ยน ข้อบังคับกฎเกณฑ์การลงทุนของกองทุนนั้น ๆ ด้วย

โดยจะต้องเรียกประชุมผู้ถือหน่วย ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน และยุ่งยากหากต้องการให้เข้ามาลงทุนในดัชนีดังกล่าว

เท่าที่ทราบ มีการคำนวณตัวเลข หากกองทุนย้ายไปลงทุนตามดัชนีใหม่ดังกล่าว จะมีผลต่อการลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้น DELTA ที่หายไป 3 พันล้านบาท แต่มันคงยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้มีกระแสข่าว ประเด็น คุณสมบัติของหุ้น DELTA จะไม่ผ่านการเข้าไปอยู่ใน SET50 ตามเกณฑ์เป๊ะ แต่เชื่อว่า จะมีการ “หย่อนเกณฑ์” ดังกล่าว เนื่องจากผ่านเกณฑ์ทุกข้อ ทั้งติดเงื่อนไขห้ามติดแคชบาลานซ์ 4 เดือน มีเพียงข้อยกเว้น ที่ขาดวอลุ่มเทรดไปเพียงแต่ 4 ล้านหุ้นเท่านั้นในเดือน พ.ย.ที่ผ่านเท่านั้น

นอกจากนี้ อีกเหตุผลที่จะมาสนับสนุน “ การหย่อนเกณฑ์” คือ วอลุ่มเทรดตลาดหุ้นไทยลดน้อยลงอย่างมาก ทำให้เกณฑ์ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยน จากฟรีโฟลต 2% อาจจะถูกลดลงมา 1.5% ไม่เช่นนั้น หุ้น INTUCH จะเป็นตัวแรกที่หลุดวงโครจรไปก่อน DELTA เสียอีก 

ส่งผลทำให้จำนวนหุ้นไม่ครบ 105 ตัว (สำรอง 5 ตัว) ในการกำหนดดัชนี SET100 ที่จะเป็นตัวคัดเลือกก่อนจะคัดมาที่ SET50 

ประกอบกับอีก เหตุผลหนึ่งที่เชื่อว่าจะมีการ “หย่อนเกณฑ์” ดังกล่าวกับหุ้น DELTA เนื่องจากการจะดึงหุ้นที่ติดอยู่ใน 20 อันดับแรกออกคงไม่ใช่เรื่องง่าย

ที่ผ่านมาในตลาด Global อย่าง ดัชนีของ MSCI ที่ยัง “หย่อนเกณฑ์” ให้หุ้นไทยตัวหนึ่ง อยู่ในดัชนี MSCI มานานถึง 4 ไตรมาส แม้ขาดคุณสมบัติก็ตาม

สำหรับผลการประกาศหุ้น SET50, SET100 รอบล่าสุด คาดว่าจะประกาศในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เพื่อใช้ในรอบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 2567