NUSA ลาที ‘เทพเจริญ’.!?
ตั้งแต่ NUSA ประกาศเพิ่มทุนก้อนโต เพื่อไปแลกหุ้น WEH ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ก็ถูกติฉินนินทาว่าเป็นดีลลับลวงพราง
ตั้งแต่บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ประกาศเพิ่มทุนก้อนโต เพื่อไปแลกหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จากบริษัท ธนา พาวเวอร์ วัน จำกัด (TONE) จำนวนไม่เกิน 29 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.65% ในราคาหุ้นละ 405 บาท คิดเป็นมูลค่า 11,748 ล้านบาท
ก็ถูกติฉินนินทาว่าเป็นดีลลับลวงพรางที่จะเอา WEH เข้าตลาดทางอ้อม หรือ Backdoor Listing หรือเปล่า..? จริงเท็จประการใด อันนี้มิอาจทราบได้
ซึ่งตอนนี้เรื่องก็เงียบหายไป…แต่ในความเงียบภายในกลับร้อนระอุ อำนาจในการบริหารคุกรุ่น เห็นได้ชัดจากกรณี NUSA ร่อนจดหมายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ แจงการพ้นตำแหน่งซีอีโอของ “ณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ” หลังพบว่าสัญญาการยืมตัวจาก WEH อาจมีปัญหา
เอ๊ะ…แต่เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 บอร์ด NUSA เพิ่งเซ็นแต่งตั้ง “ณัฐพศิน” ให้รักษาการซีอีโอเองนะ…นั่งเก้าอี้ไม่ทันจะร้อน จู่ ๆ วันนี้มาบอกว่าสัญญาการยืมตัวจาก WEH อาจมีปัญหาซะงั้น…ว่าแต่บอร์ดหรือทีมกฎหมายไม่ได้ศึกษาตัวบทกฎหมายให้เคลียร์คัตก่อนเหรอว่าทำได้หรือไม่ได้เนี่ย..? อันนี้ก็เป็นปมหนึ่ง
แล้วถ้าเข้ามาดูโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ จะเห็นว่า 5 อันดับแรก เป็นคนของ “กลุ่มกิตติอิสรานนท์” หรือ “เฮียประเดช กิตติอิสรานนท์” ทั้งนั้น มีทั้งที่ถือหุ้นผ่านนิติบุคคลและบุคคล รวม ๆ กันกว่า 49% ในขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของ “กลุ่มเทพเจริญ” เหลือไม่ถึง 10% แล้ว
เท่ากับว่า NUSA เป็นของ “กลุ่มกิตติอิสรานนท์” ไปแล้ว นั่นหมายความว่าใกล้หมด “ยุคเทพเจริญ” เต็มทีแล้วน่ะสิ..!?
สิ่งที่จะตามมาคืออำนาจที่อยู่ใน NUSA ก็จะหายไปด้วย ซึ่งเดิมทีแม้ “กลุ่มเทพเจริญ” ไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ แต่ถูกวางหมากให้เป็นคนออกหน้า พบปะสื่อ เรียกว่าถ้านึกถึง NUSA นักลงทุนก็จะคุ้นเคยกับ “กลุ่มเทพเจริญ” โดยเฉพาะ “เจ๊หมวย”–ศิริญา เทพเจริญ กับ “เฮียวิษณุ เทพเจริญ”
แต่หลายเดือนมานี้ เริ่มเห็นการปรับเปลี่ยนอำนาจบริหาร…“เฮียประเดช” เริ่มปฏิบัติการส่งคนของ WEH เข้ามาบริหาร นั่งเป็นซีอีโอ แต่มีการแก้เกมด้วยการยกเลิกสัญญา “การทำสัญญายืมตัวพนักงานและให้บริการสนับสนุน” และปลด “ณัฐพศิน” พ้นจากซีอีโอ NUSA อย่างที่ไล่เรียงไปข้างต้น
เอาเป็นว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะจบง่าย ๆ น่าจะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบกันอีกหลายยกเลยแหละ แต่สุดท้ายมันอยู่ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นใคร ซึ่งในแง่การโหวต “เฮียประเดช” ยึดอำนาจได้ไม่ยากหรอก..? เชื่อขนมกินได้เลย
ที่น่าจับตา เมื่อ “เฮียประเดช” เข้ามาแล้ว ต่อไปจะเป็นยังไง..? ความเพียรพยายามที่จะเอา NUSA ไปซื้อ WEH ยังจะเดินหน้าต่อหรือไม่..? หลังจากมีเสียงจิ้งจกตุ๊กแกร้องทักกันระงม ตอนนี้ก็ยังเงียบ ๆ อยู่ แต่ก็คงพยายามแหละ
แล้วแอสแซทหรือที่ดินที่ NUSA มีอยู่จำนวนมากจะทำยังไงต่อ..? ก็มีเสียงกระซิบกระซาบมาจากวงในว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเร่ขายที่ดินให้กับหน่วยงานและบุคคลต่าง ๆ…เรื่องจริงหรือเปล่า..? หนูไม่รู้
แต่ที่พอรู้ก็เป็นกรณีการขายที่ดินเปล่าและที่ดินพร้อมบ้าน Big Lot โครงการบ้านกฤษณา-พระราม 5 ให้กับบริษัท เอสเซน แอสเสท จำกัด นี่แหละ ซึ่งล่าสุดถูกเตะสกัดจากคณะกรรมการตรวจสอบที่มีความเห็นว่าไม่ควรทำรายการดังกล่าว เนื่องจาก “เอสเซน แอสเสท” เป็นบริษัทที่มี “จิตตานันทิ์ พุทธิไตรสิน” ซึ่งเป็นน้องสาวต่างพ่อของ “เจ๊หมวย” นั่งเป็นกรรมการบริษัท เท่ากับว่าเป็นญาติสนิทกัน มิหนำซ้ำการขายที่ดินครั้งนี้ไม่ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการตรวจสอบ แถมราคาก็ไม่สมเหตุสมผลอีก…
โอเค…ในแง่ของเหตุผลก็ว่ากันไป แต่งานนี้มองเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นยุทธการโยกย้ายเปลี่ยนเส้นเอ็น อยู่ที่ว่ากำลังภายในของกลุ่มไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน
ที่แน่ ๆ จากนี้คงนับถอยหลังกับ “เทพเจริญ” ที่เคยปลุกปั้น NUSA มา สุดท้ายก็คงหลุดมือไป ส่วนยุคใหม่ของ NUSA จะเป็นยังไง..? ขึ้นอยู่กับ “เฮียประเดช” แล้วล่ะ…
…อิ อิ อิ…