พาราสาวะถี
เดินสายไม่หยุดสำหรับ เศรษฐา ทวีสิน ทั้งในและต่างประเทศ คิวงานล่าสุดเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ฉลองวาระครบรอบ 50 ปี
เดินสายไม่หยุดสำหรับ เศรษฐา ทวีสิน ทั้งในและต่างประเทศ คิวงานล่าสุด 14-18 ธันวาคม เดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ตามคำเชิญของ คิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีแดนซามูไร แน่นอนว่า ผู้นำไทยประกาศตั้งแต่ก่อนไป เป้าหมายสำคัญคือการเชิญชวนนักลงทุนแดนอาทิตย์อุทัยมาลงทุนเพิ่ม พร้อมกระตุ้นให้ลุยเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี หลังพบว่าจีนเดินหน้าเรื่องนี้ในไทยไปก่อนหลายช่วงตัว
อย่างที่เศรษฐาว่า ในแง่ของนักลงทุนต่างชาติญี่ปุ่นถือเป็นผู้มีพระคุณกับประเทศไทยมายาวนาน ดังนั้น เมื่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการผลักดันนโยบายที่สำคัญหลายประการ หนึ่งในนั้นคือการสร้างความเชื่อมั่น เพื่อเชื้อเชิญนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงหลักปักฐานในแดนสยาม ในฐานะมิตรที่ดีย่อมนึกถึงกันเป็นลำดับแรก เมื่อดูจากคิวงานของผู้นำไทยครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นโอกาสที่น่าจะก่อให้เกิดความร่วมมือด้านบวกระหว่างสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในฐานะเซลส์แมนของประเทศ การทำหน้าที่ขายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นนั่นก็เรื่องหนึ่ง การยอมรับจากภาคเอกชน นักธุรกิจขาใหญ่ในประเทศก็เรื่องหนึ่ง สิ่งสำคัญในแง่ความเป็นรัฐบาลคือ ต้องเร่งผลักดันนโยบายหลัก ๆ ที่ได้ประกาศไว้ให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว การเดินหน้าแก้หนี้ทั้งระบบ ระหว่างรอทั้งการขับเคลื่อนดิจิทัลวอลเล็ต และงบประมาณปี 2567 ยังไม่เพียงพอต่อการที่จะทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจมองเห็นอนาคต
การลดภาระของประชาชนที่ได้ขยับไปก่อนหน้า ทั้งค่าไฟฟ้าและน้ำมัน เรื่องหลังคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะดูแนวโน้มจากตลาดโลก และเครื่องมือที่กระทรวงพลังงานจะใช้ควบคุมยังสามารถ กดราคาไม่ให้น้ำมันแพงได้ แต่ค่าไฟที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มีมติปรับขึ้นงวดมกราคมถึงเมษายน 2567 ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย ถือเป็นตัวสั่นคลอนความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง ตรงนี้ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะดูแลอย่างไร
การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช.เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเศรษฐานั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน เดิมทีกระทรวงพลังงานแจ้งกับนักข่าวว่าหลังประชุม พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพร้อมคณะจะมีการแถลง แต่หลังเสร็จประชุมมีการสั่งให้เก็บเอกสารทั้งหมด และแจ้งยกเลิกการแถลงข่าว โดยที่ทางฝ่ายเลขานุการ กพช.จะนำเสนอบทสรุปของที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันอังคารที่ 19 ธันวาคมนี้
น่าสนใจว่า มาตรการที่จะออกมานั้นตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและภาคเอกชนหรือไม่ ในส่วนของผู้ใช้ไฟน้อยกว่า 300 หน่วยไม่น่าจะมีปัญหา คงจะกดราคาที่ 3.99 บาทต่อหน่วยต่อไป ซึ่งจะมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 17 ล้านหลัง แต่ผู้ที่ใช้ไฟมากกว่านั้น ยังรอคำตอบอยู่ว่าจะเป็นราคาที่ 4.20 บาทต่อหน่วยหรือน้อยกว่านั้น ซึ่งก่อนการประชุม เศรษฐาได้แจ้งว่ามีผู้โทรศัพท์มาล็อบบี้ตนหลายคน แต่ตนยึดมั่นต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง
ไม่รู้ว่าสายที่ยกหูหานายกฯ นั้นเป็นจากฝั่งไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ราคาค่าไฟฟ้าจะต้องไม่โดดไปสูงตามราคาที่กกพ.เคาะกันไว้ก่อนหน้านี้ เหมือนกับโจทย์ที่เศรษฐาฝากให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาให้ดูความเหมาะสม เพราะไม่อยากให้ผลกระทบเชิงลบเกิดขึ้นกับความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย สำหรับภาคธุรกิจตลาดทุน ภาคประชาชน นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้ทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ปัจจัยเกื้อหนุนในเชิงบวกที่จะทำให้ท่านผู้นำเบาใจได้มีน้อยนิดเหลือเกิน
ดีที่ว่าไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องการเมือง เนื่องจากศึกษามาเป็นอย่างดี โดยที่พรรคเพื่อไทยก็วางแผนมาอย่างรัดกุม จึงแยกบทบาทของเศรษฐากับงานของฝ่ายนิติบัญญัติออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ในทางการเมืองไม่ว่าเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือกฎหมายอะไรก็ตามที่รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เสนอ จะได้ยินคำตอบจากปากของนายกฯ ว่า เป็นเรื่องของรัฐสภาตนไม่เกี่ยว รัฐบาลไม่ยุ่ง หากยังปักหลักด้วยแนวทางเช่นนี้ ปัญหาเรื่องเสถียรภาพก็จะไม่เกิด
ประเด็นการหักกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง คำขู่ที่ว่ารัฐบาลจะหนีไม่พ้นการถูกตรวจสอบทั้งการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2567 ที่จะเข้าสู่สภาในเดือนหน้า หรือแม้แต่การเตรียมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ต้องเจอ เมื่อพิจารณาไปยังเสียง สส. 314 ที่นั่ง ยิ่งทำให้ไม่ต้องมีความกังวลใด ๆ ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ผลงานยังไม่ปรากฏ เรื่องทุจริตยังไม่มี โอกาสที่จะทำให้เศรษฐาและคณะเสียรังวัดนั้นเป็นไปได้ยาก
ประเภทตัดแปะข่าวที่เป็นกระแส หรือการปะติดปะต่อข้อมูลมากล่าวหาในสภานั้น มันหมดยุคไปแล้ว ขนาดว่าช่วงรัฐบาลสืบทอดอำนาจที่อ่อนด้อยในแง่ของการใช้โซเซียลมีเดียต่อกรกับฝ่ายค้าน ยังไม่สามารถที่จะสร้างความสั่นคลอนให้กับฝ่ายกุมอำนาจได้ หลายต่อหลายหนกลายเป็นฝ่ายซักฟอกเองถูกตั้งข้อกังขาถึงความถูกต้อง แม่นยำในข้อมูล บางรายถึงกับถูกตีโต้จนไปไม่เป็น เรื่องชั้นเชิงทางการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ อาศัยชั่วโมงบิน มิหนำซ้ำ ยังมีปัจจัยว่าด้วยผลประโยชน์มาเป็นตัวล่อทำให้พวกอ่อนหัดหลายรายต้องยอมทิ้งหลักการกันเลยทีเดียว
ต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งว่า การกลับคืนสู่อำนาจหนนี้ของเพื่อไทยมีการเตรียมแผนมาดี แม้จะผิดพลาดกับผลเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปตามเป้าแลนด์สไลด์ แต่การมีแผนสำรองบวกกับความเป็นนักการเมืองอาชีพ จึงสามารถที่จะก้าวขึ้นสู่อำนาจบริหารได้อย่างแนบเนียน เป็นไปตามข้อตกลงที่ได้เจรจากันไว้ล่วงหน้าทั้งหมด เมื่อเตรียมการกันไว้เป็นขั้นเป็นตอน บางเรื่องอาจต้องมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าบ้าง แต่นั่นถือเป็นโจทย์จิ๊บจ๊อยสำหรับพรรคการเมืองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกรูปแบบ ดูกันแค่ระยะใกล้ต้นปีไปถึงกลางปีเศรษฐาก็ยังมีแต่ความสบายใจ แม้จะหนักใจ แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะราบรื่น เรียบร้อย