The Show Must Go On..โมนิก้าและทีมงาน

*ในวาระดิถี “ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่” “โมนิก้า” ขออวยพรให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” มีแต่ความสุข บวกด้วยมั่งมีศรีสุข พร้อมกับลั้ลล้าสุดๆ และอะไรที่แล้วไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไป อย่าเก็บเอามาใส่ใจ โดยเฉพาะคนที่ติดดอย ปีนี้หาทางลงไม่ได้ก็จริง ปีหน้ายังมีโอกาสแก้มือใหม่ เพราะโลกของการลงทุนยังเป็นเรื่องที่น่าค้นคว้าตลอดเวลา จึงขอเอาใจช่วยให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงเลวร้ายไปให้ได้นะคะ

*วันนี้จึงเป็นอีกวันที่ “โมนิก้า” ไม่ค่อยมีอารมณ์พูดถึงหุ้นรายตัว เพราะเมื่อดูข้อมูลบนกระดานหุ้นทั้งซ้าย ทั้งขวา เห็นมีแต่ข้อมูลนักลงทุนต่างชาติถล่มเทขายหุ้นไทยไม่ยั้ง จนนักวิเคราะห์ค่ายต่างๆ ถึงกับจีบปากจีบคอว่า หุ้นที่แนะนำให้ซื้อเมื่อวันก่อน วันนี้ยังไปไม่ถึงไหน จนทำให้คนซื้อเกิดอาการเซ็งเป็ดในทันที นักวิเคราะห์เลยเกิดอาการกลัวขึ้นมากะทันหัน เพราะเปลือกทุเรียน รองเท้า และก้อนหิน ไม่เข้าใครออกใครนะซี

*ประเด็นเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องเก๋ากึ๊ก แต่อย่างน้อย ก็เป็นความอึดอัดใจที่ “โมนิก้า” สัมผัสได้ทุกวัน จึงไม่อยากลงลึกถึงรายละเอียดต่างๆ มากเกินไป ขนาดของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า ถูกสุดแสนจะถูก ยังอุตส่าห์มีของที่ถูกกว่าให้เห็นอีกแบบนี้ มันเจ็บกระดองใจอย่างรุนแรง จนไม่อยากทำอะไรเลยแหละ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจจริงๆ นะจะบอกให้

*ผลสืบเนื่องดังกล่าวทำให้ดัชนีอ่อนระทวยอย่างเห็นได้ชัด จนดัชนีลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1,276.47 จุด แต่สุดท้ายเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,283.78  จุด ลบไป 2.09  จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 2.48 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นปัญหาโลกแตก และอย่าได้ถามหาเหตุผลของเรื่องดังกล่าว เพราะแค่ตัวนักลงทุนเข้าใจถึงคำว่า money game โลกนี้ก็ดูสวยขึ้นเป็นกอง พร้อมกันนั้นต้องเข้าใจตรงกันว่า ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป (The Show Must Go On) เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ PTT และ PTTEP โดนถล่มเทขาย “ครั้งแล้ว ครั้งเล่า” แต่ยังคงเป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายติด 1 ใน 5 ของกระดาน most active มันเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นว่า ยังเป็นหุ้นที่หลายคนต้องการ จึงมีแรงรับเข้ามารับหุ้นเป็นระยะ ถึงแม้จะรับไม่ค่อยอยู่ แต่ก็เป็นการชะลอแรงเทขาย วันนี้ถึงต้องถามใจนักลงทุนว่า มีมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นพลังงานอย่างไร? หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลงต่อเนื่องนะซี

*ส่วนรายของ TASCO กลายเป็นหุ้นได้รับอานิสง์จากราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง วานนี้ถึงมีการไล่ราคากันอย่างคึกคัก ก่อนจะจบลงตรงที่ราคา 38.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่า 440 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการเล่นรอบมากกว่าเป็นการขึ้นแบบจริงๆ จังๆ เพราะยอดสูงสุดของการดีดกลับต่ำลงเรื่อยๆ จากที่เคยทำไว้แถว 43 บาท ลดลงมาอยู่ที่ 41 บาท ต่อจากนั้นลงมาอยู่ที่ 39 บาท จึงต้องดูกันต่อไปว่า วันนี้หุ้นยางมะตอยจะยืนระยะได้ตลอดทั้งวันอะป่าว

*เช่นเดียวกับในรายของ EPG ซึ่งเป็นหุ้น growth stock ที่ทุกคนรู้ว่า มีดีซ่อนไว้เยอะแยะ! แถมทุกครั้งที่หุ้นกระชากขึ้นแรงทีไร ต่อจากนั้นมักมีแรงเทขายออกมาหยั่งเชิงเป็นประจำ แต่สุดท้ายหุ้นก็เด้งกลับขึ้นมาทำ high ได้เป็นประจำเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองการขยับตัวในวันนี้ให้ดีเป็นพิเศษ หลังหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 13.50 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น..มันน่าจะเป็น “โอกาส” มากกว่า “อุปสรรค” นะคะ

*สำหรับในรายของJ  มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เช่นเดียวกับรายข้างต้น แต่แพตเทิร์นของหุ้นไม่ค่อยชัดเจน หุ้นถึงมีอาการแกว่งตัวที่รุนแรงเป็นประจำ แถมรอบที่แล้วทะยานขึ้นมาแตะ 3.50 บาท ต่อจากนั้นทิ้งตัวลงพรวดเดียวมากองอยู่ที่ 2.50 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินสถานการณ์กันเอาเองว่า การทะยานขึ้นมาทำจุดสูงสุดของวันที่ 3.34 บาท ต่อจากนั้นถอยลงมาปิดที่ 3.22  บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2.55% มันเป็นจังหวะ “ตามน้ำ” หรือ “รอก่อน”  กันแน่..อิอิอิ

*ไหนๆ ก็เล่นกันแบบสุดๆ ทั้งที “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับหันมาดู SUPER กันอีกยกดีกว่า ประเด็นของการเม้าท์มอยในเที่ยวนี้ไม่มีอะไรมาก  แค่อยากจะบอกให้ทุกคนรู้ว่า มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง วานนี้ถึงเห็นหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 1.16 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท จึงมีลุ้นวิ่งขึ้นไปหายอดแรก 1.30 บาทอีกครั้งก็เท่านั้นเอง

*ส่วนที่ชอบแบบ “มาเร็ว เคลมเร็ว” คงต้องเหลือบมอง CPR เป็นลำดับแรก เพราะเป็นหุ้นที่มีการเข้าองค์ทรงเจ้าเป็นระยะ แถมวันไหนอยากจะขึ้นแรง ก็ทะยานขึ้นหน้าตาเฉย แต่ถัดมาอีกวันก็ร่วงพล่อยเป็นนกปีกหักเสียอย่างนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้เหล่านักเล่นประเมินการทะยานขึ้นมาปิดที่ 7.85 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่า 115 ล้านบาท มีโอกาสซ้ำรอยเหมือนกับที่ผ่านมาแค่ไหนเจ้าค่ะ

                *สำหรับในรายของ LDC  อาจแตกต่างอยู่นิดหนึ่งตรงที่ มีการไล่หุ้นแบบเบาๆ มาก่อน 2-3 วัน พอสบช่องได้โอกาสดี จึงเคาะขวาแบบยาวๆ จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 3 บาท บวกไป 0.68 บาท หรือขึ้นไป 29.30% ด้วยมูลค่า 60 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเกมวัดใจของเหล่าผู้กล้า เพราะไม่สามารถหาเหตุผลมารองรับการทะยานขึ้นงวดนี้ได้นั่นเองพะยะค่ะ