พาราสาวะถี

ภารกิจผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลถือเป็นงานที่ทั้ง เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี และ แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้งคู่มีหัวโขนเป็นประธานและรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สามารถที่จะใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อน ประสานความร่วมมือทั้งฝ่ายการเมือง และภาคธุรกิจได้อย่างเนียนตา เนื่องจากการดำเนินการทั้งหมดมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา ยกระดับขีดความสามารถของคนไทย เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

วันศุกร์ที่ผ่านมา เศรษฐาควงอุ๊งอิ๊งไปดูมวยรายการ ONE ลุมพินี 46 ที่สนามมวยลุมพินี บางเขน โดยที่นายกฯ ได้ขึ้นเวทีกล่าวปาฐกถาพิเศษซอฟต์พาวเวอร์มวยไทย ย้ำในฐานะคนไทย รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่มวยไทย เป็นหนึ่งในกีฬาที่มียอดชมสูงสุดของโลก และได้กลายเป็นการส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นที่รู้จักที่สุดของไทยไปสู่โลก และหวังว่าจะเห็นนักกีฬามวยไทย ครูสอนมวยไทย ไปแข่ง ฝึกสอน และส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมสู่สายตาโลก

เรียกได้ว่าเป็นการไปเพิ่มคะแนนนิยมให้กับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้อีกหนึ่งสาขาอาชีพ ขณะที่ก่อนหน้านั้นวันพฤหัสบดี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีมหาดไทย ก็ได้นั่งหัวโต๊ะพร้อมแพทองธารในฐานะประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ประชุมการพิจารณาวางแผนการจัดงาน Maha Songkran World Water Festival ณ ห้องราชสีห์ ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ทั้ง 11 สาขา ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วม มีผู้ว่าราชการทั่วประเทศร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์

มิติทางการบริหารงาน งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ เพื่อที่จะให้สอดรับกับแนวทางของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ในการที่จะทำให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติได้รับรู้ว่า กิจกรรมสงกรานต์ของประเทศไทยนั้น สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ตลอดเดือนเมษายนไม่จำเป็นต้องมาในช่วงวันที่ 13-15 เมษายนเท่านั้น แน่นอนว่า งานนี้ลูกสาวคนเล็กของ ทักษิณ ชินวัตร ได้แสดงบทบาทในฐานะต้นคิดที่จะจัดวางโปรแกรมการเล่นน้ำสงกรานต์ที่แต่ละจังหวัด จัดในช่วงเวลาที่ต่างกัน เพื่อโปรโมตให้คนทั่วโลกได้รับรู้ ถ้าเป็นไปตามแผนเม็ดเงินสะพัดตามคาด นี่ย่อมถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของจริง

ไม่เพียงเท่านั้น จะเห็นได้ว่าประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ทั้ง 11 คณะ ถือเป็นระดับตัวท็อปของแต่ละสาขาอาชีพ เมื่อทุกอย่างได้เดินหน้าภายใต้การบัญชาการของแพทองธารมันย่อมหมายถึงสายสัมพันธ์หรือคอนเนคชั่นที่จะส่งผลดีในอนาคต หมายถึงรัฐบาลได้แนวร่วมจากคนในระดับอีลิทจำนวนไม่น้อย หลังจากที่ก่อนหน้านั้นจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ยุคทักษิณเรื่อยมา คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่คือฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด

งานนี้ ส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้กับเศรษฐาในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก่อนจะผันตัวเองเข้าสู่ถนนการเมืองแบบเต็มตัว ด้วยผลงานซึ่งเป็นที่ประจักษ์ และความสนิทสนม ไว้วางใจกันก่อนหน้า จึงทำให้คนเหล่านั้นกล้าที่จะเข้ามาร่วมงานแบบไม่ลังเล ขณะเดียวกัน ผลพวงจากความไม่เอาไหนในการบริหารงานของรัฐบาลเผด็จการและรัฐบาลสืบทอดอำนาจ จึงทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้หลงผิดจำนวนไม่น้อยต้องการจะไถ่บาป ทำให้ประเทศได้เดินไปข้างหน้าหลังจากที่เสียโอกาสมานานเกือบ 10 ปี

ส่วนมิติทางการเมือง ภาพของอนุทินและอุ๊งอิ๊งที่นั่งเป็นประธานคู่กันประชุมร่วมกับระดับบิ๊กของกระทรวงมหาดไทย ย่อมเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงความแนบแน่นและไว้วางใจกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แม้ว่าหน้าฉากอาจจะได้ยินได้ฟังเสี่ยหนูพูดถึงพรรคเพื่อไทยก่อนการเลือกตั้งไว้อย่างไร แต่นั่นเป็นเรื่องบทบาทของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่จะต้องเล่นไปตามบท ทั้งที่ความจริงเป็นที่รู้กันทั้งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและที่ปรึกษาคนสำคัญ เนวิน ชิดชอบ ญาติดีกับนายใหญ่มาตั้งนานแล้ว และสัมพันธ์ที่สานต่อกันระลอกใหม่อบอุ่นมากกว่าเดิม

ไม่เฉพาะด้านการร่วมมือกันทางการเมืองในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น การเดินทางกลับบ้านเกิดแบบเท่ ๆ ของทักษิณ ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่ามาจากการประสานงาน การันตีเรื่องความสะดวกสบาย และความปลอดภัยมาจากเสี่ยหนูด้วยเช่นกัน ดังนั้น ประเด็นที่ว่าพรรคแกนนำรัฐบาลจะใช้ประชาธิปัตย์เป็นเครื่องมือกดดันภูมิใจไทย ก็สามารถมองกันได้ แต่ในแง่ความเป็นจริง การพูดคุยและวางเป้าหมายในการดำเนินงานเรื่องต่าง ๆ นั้นบรรลุกันไปก่อนหน้าที่จะตั้งรัฐบาลแล้ว

ความแน่นแฟ้นของสองพรรคแกนนำรัฐบาลที่ว่านี่เอง จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราได้เห็นการขับเคลื่อนของคนพรรคเก่าแก่ต่อกรณีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจของทักษิณ ผ่านการใช้คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ถึงขนาดขู่จะบุกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกันถึงที่เลยทีเดียว แต่ก็วางเงื่อนเวลาไว้ถึงวันที่ 12 มกราคมโน่น หากเป็นการปฏิบัติการเพื่อจับผิดจริง การทอดเวลานานขนาดนี้ฝ่ายถูกตรวจสอบย่อมไหวตัวทัน และเตรียมการรับมือได้ทั้งหมด

จึงช่วยไม่ได้ที่ท้ายที่สุดกรณีนี้จะถูกมองว่าเป็นความพยายามสร้างแรงกดดันเพื่อสร้างราคาให้กับพรรคต้นสังกัดกับโอกาสที่จะถูกส่งเทียบเชิญร่วมรัฐบาล ก็รู้กันอยู่แล้วว่าใครบ้างที่บินไปหานายใหญ่ก่อนจะตั้งรัฐบาลจนถูกผู้มากบารมีของพรรคเก่าแก่หมายหัว ตราหน้าว่ากระหายอยากได้อำนาจ เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ก็น่าสนใจว่า ระยะยาวประชาธิปัตย์ภายใต้การกุมบังเหียนของ เฉลิมชัย ศรีอ่อน จะเดินกันไปในทิศทางใด เมื่อตกอยู่ในภาวะหันรีหันขวาง

การทำงานกับก้าวไกลในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ไม่น่าจะได้รับความไว้วางใจเพราะการแทงกั๊ก ส่วนอีกด้าน พรรคแกนนำฝ่ายค้านกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังมีจุดร่วมที่สามารถเดินด้วยกันได้ อันเห็นได้จากเสียงของการโหวตผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าทั้งสองพรรคอาจจะยังขบเหลี่ยมกันอยู่ ด้วยเดิมพันอนาคตทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ถ้าจะมองถึงโอกาสที่จะร่วมกันสร้างผลงาน ไม่ว่านักการเมืองหน้าใหม่หรือเก่าย่อมเข้าใจ และรู้ดีว่า ใคร พวกไหน ที่น่าคบและไว้ใจได้มากที่สุด