Naked Short เหมือนแต่ต่าง ‘เกาหลีใต้-ไทย’

ช่วงระหว่างที่แวดวง “ตลาดทุนไทย” ยังถกเถียงกันอยู่ว่าหุ้นไทยมีการทำ Naked Short Selling หรือไม่.!? หรือจะมีการเพิ่มความเข้มงวดกฏเกณฑ์การทำ Short Selling อย่างไรหรือไม่.!?


ช่วงระหว่างที่แวดวง “ตลาดทุนไทย” ยังถกเถียงกันอยู่ว่าหุ้นไทยมีการทำ Naked Short Selling หรือไม่.!? หรือจะมีการเพิ่มความเข้มงวดกฏเกณฑ์การทำ Short Selling อย่างไรหรือไม่.!?

แต่ทว่า “ตลาดหุ้นเกาหลีใต้” กับมีพัฒนาการว่าด้วยเรื่อง Naked Short Selling อย่างเข้มข้น ถึงขั้นเตรียมสั่งปรับเงินกับ 2 สถาบันการเงินยักษ์ระดับโลก มูลค่ากว่า 260,000 ล้านบาท หลังตรวจพบมีการทำ Naked Short Selling เกิดขึ้นจริง.!

โดยสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า หน่วยงานการกำกับดูแลทางการเงินเกาหลีใต้ (Financial Supervisory Service-FSS) เสนอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Securities and Futures Commission) เป็นหน่วยงานในสังกัด

สั่งปรับ 2 ธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลก อย่าง HSBC Holdings และ BNP Paribas จำนวน 10,000 ล้านวอน (260,000 ล้านบาท)

โทษฐาน “ละเมิดกฎหมายตลาดทุน” ด้วยทำการขายชอร์ต ประเภท Naked Short Selling ซี่งเป็นการขายชอร์ต โดยไม่มีการยืมหุ้นมาไว้ก่อนในวันที่สั่งขาย ทำให้ผู้ซื้อมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับหุ้นในวันส่งมอบ ส่งผลให้เกิดการบิดเบือนราคาหุ้น สร้างความเสี่ยงต่อตลาดโดยรวม

โดยวันที่ 20 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ บริการการเงิน 5 คน นำโดย “คิมโซ-ยัง” รองประธานคณะกรรมการบริการการเงิน (Financial Services Commission-FSC) ได้หารือเรื่องค่าปรับดังกล่าว แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้และอาจมีการเปลี่ยนแปลงค่าปรับในการประชุมครั้งต่อไป

ทั้งนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่ FSC และ FSS สั่งปรับกองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับโลก 3 แห่ง เป็นเงินรวมกันกว่า 2,000 ล้านวอน (ประมาณ 53 ล้านบาท) ฐานละเมิดกฎหมายตลาดทุน ทำการขายชอร์ต และการค้าที่ไม่เป็นธรรม สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ของเกาหลีใต้ ที่ประกาศห้ามการขายชอร์ตเต็มรูปแบบ จนถึงสิ้นเดือน มิถุนายน 2567 เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากตรวจพบธุรกรรมประเภท Naked Short ที่ผิดกฎหมายจำนวนมาก

อย่างไรดีโฆษกคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงิน (FSS)  และคณะกรรมการด้านบริการทางการเงิน (FSC) ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว โดยระบุเพียงแค่ว่า “คณะกรรมการจำเป็นต้องหารือกันเพิ่มเติมเรื่องนี้” ขณะที่เจ้าหน้าที่ของ HSBC และ BNP Paribas ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นด้วยเช่นกัน

หาก HSBC และ BNP Paribas ถูกลงโทษปรับจริงจะถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้ ใช้บทลงโทษดังกล่าวต่อวาณิชธนกิจชั้นนำระดับโลกในความผิดเกี่ยวกับการทำ Naked Short Selling

ช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการด้านบริการการเงินของเกาหลีใต้ (FSC) ออกมาตรการห้ามทำการขายชอร์ต หุ้น (Short-Selling) ในบริษัทต่าง ๆ ที่จดทะเบียนในดัชนี KOSPI 200 Index และดัชนี KOSDAQ 150 Index ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 66-30 มิ.ย. 67 

โดย “คิม จู-ฮยุน” ประธาน FSC ออกแถลงการณ์ว่า การออกคำสั่งห้ามขายชอร์ตมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบและระบบการซื้อขายในตลาดหุ้น เพื่อสร้างความเท่าเทียมระหว่างนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยช่วงที่ผ่านมา วาณิชธนกิจต่างชาติรายใหญ่ ได้รุกเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และมีพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่ง FSC ไม่สามารถปล่อยให้การซื้อขายที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ดำเนินต่อไปได้

“ช่วงที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เผชิญกับความผันผวนอย่างหนักนั้น เราพบว่า มีวาณิชธกิจต่างชาติเข้ามาทำ Naked Short-Selling ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นตลาดหุ้นเกาหลีใต้ นอกจากนี้ FSC จะกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้นสำหรับผู้ที่ขายชอร์ตอย่างผิดกฎหมาย โดยทีมงานเฉพาะกิจของเราจะเริ่มดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 66 เป็นต้นไป”

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นใน “ตลาดหุ้นเกาหลีใต้” ดังกล่าว ถือเป็นบทเรียนสำคัญยิ่งต่อตลาดหุ้นไทย เริ่มจากความเพียรพยายามหา “ต้นตอความผันผวนของตลาดหุ้น” จนพบว่ามี Naked Short Selling เกิดขึ้นจริง.! มากกว่าจะรีบออกมาด่วนสรุปว่า “ไม่มี..ไม่มีเลย”..!!

ที่สำคัญคือความกล้าหาญในการบังคับใช้กฎหมายกับ “วาณิชธนกิจระดับโลก” ได้อย่างแข็งขัน..ต่างจากตลาดหุ้นไทย ที่ถูกตั้งคำถามว่า “ลูกเกรงใจวาณิชธนกิจใหญ่” ยังมีกันอยู่มากใช่หรือไม่..!!?

Back to top button