เก็บหุ้นลุ้นปีหน้า
ถ้าพูดถึงการเล่นหุ้นในช่วงวันสุดท้ายของปี 66 ควรเป็นแบบไหน? “โมนิก้า” ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ควรหาจังหวะทยอยเก็บหุ้นดาวเด่นเข้าพอร์ต
ถ้าพูดถึงการเล่นหุ้นในช่วงวันสุดท้ายของปี 66 ควรเป็นแบบไหน? “โมนิก้า” ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ควรหาจังหวะทยอยเก็บหุ้นดาวเด่นเข้าพอร์ต เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยน่าจะดีขึ้นในปีหน้า (ชีวิตยังมีหวัง) จึงเป็นโอกาสสำหรับคนที่ชอบหาช่องทางในการทำกำไรระยะสั้น ผนวกกับตอนนี้กำลังมีการพูดถึงหุ้น Laggard กันค่อนข้างเยอะ และยังมี Growth Stock เป็นอีกหนึ่งเลือกหลักแบบนี้..น่าสนใจไหมล่ะคะ
อ้อ!..อย่าลืมว่า Dividend Stock ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม และจังหวะนี้ก็เหมาะต่อการทยอยสะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเสี่ยงที่จะเห็นราคาหุ้นลงแรงก็มีไม่มาก ผนวกกับการแกว่งตัวของดัชนีในรอบ 1 เดือนมันบอกให้รู้ว่า แรงขายเริ่มสะเด็ดน้ำจริง ๆ รวมทั้งความกังวลต่าง ๆ ก็คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงเห็นดัชนีประคองตัวเหนือแนวรับ 1,400 จุดได้อย่างแข็งแกร่งนะจ๊ะ
สถานการณ์ดังกล่าวเชื่อมโยงกับการที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,410.43 จุด ลบไป 3.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.92 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เห็นว่า ยังมีคนรอช้อนหุ้นตลอดเวลา ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เดี๊ยนเริ่มมีความรู้สึกดี ๆ กับตลาดหุ้นไทยมากขึ้น และถ้าดูจากแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล “เสี่ยนิด” ก็จะเห็นว่า มีหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวหลายตัว (แต่คนด่าเรื่องวันหยุดปีใหม่ ทั้งบ้านทั้งเมือง) นะพ่อคุณ
เม้าท์ถึงเรื่องฟื้นตัวทางเศรษฐกิจคราใด “โมนิก้า” ชอบนึกถึงหุ้นโรงแรมอย่างน้องมิ้น MINT เป็นรายแรกประจำ เพราะเมื่อดูความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ย่อมส่งผลโดยตรงต่อราคาหุ้นในกระดานอย่างมีนัยสำคัญ และการที่หุ้นยืนปิดในระดับ 29.25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 805 ล้านบาท ย่อมเป็นโอกาสทองสำหรับคนที่ชอบลุ้น เพราะฐานเก่าที่เล่นกันเป็นประจำอยู่ที่ 34 บาทเจ้าค่ะ
อีกรายที่กำลังแฮปปี้กับค่าระวางเรือขาขึ้น ต้องมองไปที่คนทำตู้สินค้าเป็นหลัก และในที่นี้ต้องโฟกัสไปยัง RCL แบบไม่ต้องลังเลใจ เพราะเมื่อดูการเทรดบน PE 5 เท่า และยังมีลุ้นปันผลในระดับ 4% เป็นของขวัญติดปลายนวม “โมนิก้า” ถึงเห็นด้วยที่ราคาหุ้นขยับขึ้นต่อเนื่อง และการยืนปิดที่ระดับ 24.50 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 383 ล้านบาท น่าตามไปดูจ้า!
อีกรายที่มีลุ้นรายได้โตจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “โมนิก้า” ต้องเหลือบมองหุ้น CPALL แบบไม่มีข้อแม้ เพราะทุกครั้งที่เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเริ่มสะพัดเมื่อใด มักเห็นหุ้นตัวนี้ทะยานขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 55.50บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 796 ล้านบาท เหมาะต่อการเล่นขนาดไหนพะย่ะค่ะ
เช่นเดียวกับในรายของ BA ก็ทะยานขึ้นรับข่าวดีแบบเนิบ ๆ จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 15.60 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82 ล้านบาท ถือเป็นเกมต้อง follow buy อย่างแน่นอน เพราะมองในมุมของผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยหุ้นยังเทรดบน PE 9 เท่าแบบนี้..บรรดานักวิเคราะห์ก็คงแนะนำให้ซื้อทั้งนั้น เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองไปประเมินว่า สิ่งที่เดี๊ยนเม้าท์ให้ฟังมันจริงไหม?..อิอิอิ
ประเด็นข้างต้นทำให้นึกถึงหุ้น WHA ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหุ้นที่ทำผลงานโตทุกปี และปีหน้าก็ยังโตได้อีก “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า นี่เป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการเล่นหุ้นโต ผนวกกับหุ้นเคยทำไฮไว้ที่ระดับ 5.50 บาท จึงมีโอกาสที่หุ้นจะวิ่งทะลุไฮเดิม ต่อจากนั้นจะขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม เลยให้การยืนปิดที่ระดับ 5.30 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 224 ล้านบาท น่าสนใจสุด ๆ นะคุณแม่!
ตบท้ายกันที่หุ้น NUSA กันดีกว่า เพราะการออกมาชี้แจงของเจ้าบ้านอย่าง “เจ๊หมวย” กับ “เฮียณุ” ทำให้สังคมได้เห็นภาพอีกมุมอย่างชัดเจน และประเด็นดังกล่าวก็ต้องไปสู้กันอีกยกหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ “โมนิก้า” ในฐานะคนกลางที่ได้รับรู้เรื่องดังกล่าวเลยหวังว่า ทั้ง 2 ฝั่งจะเคลียร์กันลงตัวในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยคนอื่น ๆ สบายใจขึ้น เพราะเคยเห็นกันมาแล้วว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ทะเลาะกันทีไร..มักพังกันทุกฝ่ายนะจ๊ะ..นะจ๊ะ