พาราสาวะถี

การเมืองประเดิมศักราชใหม่ด้วยความร้อนฉ่ากันแน่นอน เพราะวันที่ 3-5 มกราคม มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567


การเมืองประเดิมศักราชใหม่ด้วยความร้อนฉ่ากันแน่นอน เพราะวันที่ 3-5 มกราคม มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ฝ่ายค้านที่ฉายหนังตัวอย่างโดยก้าวไกลก็ทำท่าว่าจะดุเดือด เช่นเดียวกันกับประชาธิปัตย์แม้จะถูกมองว่าอยู่ในอาการแทงกั๊ก ก็จะใช้จังหวะนี้ในการโชว์ฝีมือของการถลกหนัง เปิดแผลฝ่ายกุมอำนาจ หากอยากจะมีเสถียรภาพมั่นคง ต้องกล้าที่จะชวนกันไปร่วมในขบวนแห่งอำนาจด้วย

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (2 มกราคม) วิปรัฐบาลนัดประชุมพรรคร่วมทุกพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในแง่ของการจัดตัวบุคคลลุกขึ้นอภิปรายตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ในกรณีที่มีการพาดพิง นอกเหนือจากเนื้อหาที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาเรื่องงบประมาณ โดยเฉพาะเพื่อไทยต้องจัดองครักษ์อารักขาเป็นพิเศษทั้ง เศรษฐา ทวีสิน และประเด็นที่จะมีการพูดไปถึง ทักษิณ ชินวัตร เห็นอาการของคนจากพรรคแกนนำฝ่ายค้านแล้ว งานนี้หนีไม่พ้นเล่นเกมการเมืองแบบน้ำเน่าแน่นอน

กรณีของทักษิณ เมื่ออ่านเกมจากการปรับงานรองนายกฯ ที่โยก พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาดูแลกระทรวงยุติธรรม ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ แทน สมศักดิ์ เทพสุทิน ด้านหนึ่งก็ลดข้อครหาเรื่องความเป็นคนของพรรคเพื่อไทย ย่อมทำทุกทางที่จะให้อดีตนายกฯ ได้ประโยชน์จากข้อกฎหมาย และระเบียบต่าง ๆ แต่เมื่อไม่ใช่คนพรรคเดียวกัน แถมยังมีความช่ำชองทางด้านกฎหมายในฐานะอดีตผู้พิพากษา งานนี้ใครที่คิดจะตีกินย่อมมีสิทธิ์ถูกตอกกลับหน้าหงายเอาง่าย ๆ

มองแบบชั้นเดียวเชิงเดียว ฟังคำอธิบายจากสมศักดิ์กับพีระพันธุ์ในเรื่องเดียวกัน ไม่ว่าจะระเบียบของกรมราชทัณฑ์เรื่องคุมขังนอกเรือนจำ หรือรายงานที่เกี่ยวข้องกับการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจของทักษิณ ถามว่าความเชื่อถือของผู้รับสารโดยเฉพาะฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทั้งพวกขาประจำ และฝ่ายค้าน ใครจะมีมากกว่ากัน เมื่อเปลี่ยนคนกำกับดูแล เสียงวิจารณ์คงไม่ได้หายไปทันที แต่ก็จะเบาบางลงจากเดิม ที่สังคมคาดหวังจะได้รับฟังคำอธิบายที่ไม่คลุมเครือ ก็เชื่อว่ารองนายกฯ จากพรรคร่วมรัฐบาลน่าจะมีคำตอบที่กระจ่างกว่าก่อนหน้า

จับอาการของก้าวไกลที่กระทุ้งเรื่องทักษิณถี่ยิบ ไม่ใช่การเร้าความน่าสนใจเพื่อสร้างมูลค่าก่อนที่จะเข้าสู่วาระอภิปรายร่างฯ งบประมาณ แต่จะเป็นการชี้ให้เห็นถึงการพยายามลดทอนความน่าเชื่อถือของพรรคแกนนำรัฐบาลในแง่ของความโปร่งใส และการก้าวขึ้นสู่อำนาจ ถือเป็นการเดินหน้าเต็มสูบเอาคืนจากการถูกฉีกทิ้งเอ็มโอยู เกิดการพลิกขั้ว แต่การเล่นงานไปที่ตัวบุคคลซึ่งคนส่วนใหญ่ได้ก้าวข้ามไปแล้ว อาจจะเป็นการเดินเกมที่หาแนวร่วมเดินด้วยลำบาก

อย่าลืมว่าฐานที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งแทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมในขบวนการต่อต้านหรือล้มระบอบอุปโลกน์อย่างระบอบทักษิณเสียด้วยซ้ำ เป้าหมายของคนหนุ่มสาวรุ่นนี้คือ การต่อต้านเผด็จการ คสช. และข้อเรียกร้องสุดโต่งซึ่งตรงกับนโยบายที่พรรคแกนนำฝ่ายค้านได้หาเสียง แต่ก็กลายเป็นชะตากรรมที่รอการชี้ขาดโดยศาลรัฐธรรมนูญในสิ้นเดือนนี้ ดังนั้น การเล่นกับผีทักษิณจึงน่าจะเป็นการเอาใจพวกสลิ่มที่มาถือหางพรรคสีส้มมากกว่า

ยิ่งมาพวกลากตั้งตัวตึงบางรายออกมาเคลื่อนไหวในทำนองบอกว่าเศรษฐาจะอยู่ในตำแหน่งไม่เกินปีนี้ ยิ่งทำให้มองได้ว่า หรือจะมีขบวนการสมคบคิดเพื่อที่จะทำให้เกิดปฏิบัติการข่าวสาร ด้อยค่าฝ่ายกุมอำนาจ แต่น่าจะเป็นเรื่องยากที่ คนสองพวกนี้จะผสมพันธุ์กันได้ เพราะฝ่ายหนึ่งก็สุดโต่งในเรื่องไม่เอาทักษิณ ขณะที่อีกฝ่ายก็ประกาศชัดไม่ยอมรับพวกลิ่วล้อ หน่อเนื้อใด ๆ ที่มีต้นกำเนิดมาจากพวกเผด็จการ คสช. ถ้าจับมือกันมันก็เท่ากับกอดคอกันไปตาย

เมื่อมองอย่างแยกส่วน ก็จะเห็นได้ว่าความพยายามของแกนนำพรรคฝ่ายค้านที่หันมาเล่นงานทักษิณ หวังสร้างแรง

กระเพื่อมกระทบเสถียรภาพรัฐบาล สั่นคลอนต่อตำแหน่งของเศรษฐา ก็ยังมีประเด็นร่วมกันเสี้ยมกับพวกลากตั้งขาประจำที่ชี้ให้เห็นว่า เมื่อเศรษฐาพ้นไปจากเก้าอี้แล้วยังมี แพทองธาร ชินวัตร ที่รอเสียบอยู่ ทั้งที่ความจริงหากทำให้รัฐบาลมีอันเป็นไปได้จริงก่อนที่พวกลากตั้งจะหมดอำนาจร่วมโหวตเลือกนายกฯ ในเดือนพฤษภาคม รู้กันอยู่ว่าใครจะได้ประโยชน์

ขณะที่พวกตัวตึงของพวกลากตั้งที่วิพากษ์วิจารณ์ทำตัวเป็นหมอเดาอนาคตรัฐบาลนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน พวกนี้กำลังจะกลายเป็นแค่คนตกยุค เมื่อไร้หัวโขนก็แทบจะกลายเป็นหมาหัวเน่า บางรายมีคดีติดตัว เมื่อไร้เอกสิทธิ์คุ้มกะลาหัวก็ไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองจะเป็นอย่างไร จึงต้องพยายามดิ้นด้วยความหวังว่าหากสามารถทำให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งมีอันเป็นไปได้ ยังมีความหวังเล็ก ๆ ว่าพวกตัวเองจะได้ไปต่อ ทั้งที่ความจริงพรรคพวกส่วนใหญ่ได้ปรับตัว เปลี่ยนสถานะนับตั้งแต่มีความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปแล้ว

ไม่จำเป็นต้องอาศัยหมอดูที่ไหน ดูจากกระบวนการพิจารณาร่างฯ งบประมาณที่กำลังจะเกิดขึ้น หากทุกอย่างไม่เป็นไปตามราคาคุย หลังผ่านวาระแรกไปแล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า พวกที่ปากดีทั้งหลายนี่แหละตัวดีที่ต้องจับตามอง ไม่ว่าจะนักการเมืองรุ่นใหม่หรือรุ่นลายครามต่างมีดีเอ็นเอไม่ต่างกัน ประโยชน์ที่กองอยู่ตรงหน้า ใครบ้างที่จะกล้าปฏิเสธ หากคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำตอบว่าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทเพื่อเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตทำได้ ยิ่งไปกันใหญ่

อนาคตทางการเมืองจะเป็นไปแบบไหนภายในเดือนนี้คงจะได้เห็นภาพกันชัดขึ้น ซีกรัฐบาลมีสองเรื่องคือร่างฯ งบประมาณ กับร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ถ้าผ่านก็ยืนระยะกันแบบยาว ๆ ส่วนฝ่ายค้านสองสัปดาห์สุดท้ายชะตากรรมของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ พรรคก้าวไกล ภายใต้การชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญจะได้รู้กันหมู่หรือจ่า ส่วนพวกลากตั้งแทบไม่ต้องพูดถึง ใครที่เคลื่อนไหวหนักและพุ่งเป้าโจมตีรัฐบาลเป็นด้านหลักบอกได้เลยว่าเป็นพวกจนตรอก รัฐประหารที่ผ่านมาดูเหมือนไม่เสียของ แต่ประเทศเสียหายหลายทาง โดยเฉพาะความเจริญและกระบวนการยุติธรรม จึงต้องเร่งกอบกู้วิกฤตและความศรัทธากันขนานใหญ่

Back to top button