ชะตากรรมที่แตกต่างกันของหุ้นสื่อสิ่งพิมพ์
ความแตกต่างกันของหุ้น POST และ MATI สิ่งพิมพ์ 2 รายที่มีชะตากรรมต่างกันลิบลับ สะท้อนถึงแนวทางและฝีมือบริหารจัดการ
ความแตกต่างกันของหุ้น POST และ MATI สิ่งพิมพ์ 2 รายที่มีชะตากรรมต่างกันลิบลับ สะท้อนถึงแนวทางและฝีมือบริหารจัดการ โดยหุ้นตัวแรกขาดทุนหนักอย่างต่อเนื่องเพราะอาการจมไม่ลง ขณะที่หุ้นตัวหลังทำกำไรสุทธิสวยงามด้วยวิธีการที่ประหลาดพิสดาร
POST รายงานผลประกอบการของงบการเงินรวม (สอบทานแล้ว) สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2566 บริษัทฯ มีผลขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมจำนวน 7.7 ล้านบาทเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรเบ็ดเสร็จจำนวน 46.9 ล้านบาท ลดลง 54.6 ล้านบาท
สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2565 หากไม่รวมรายได้อื่นจากการจําหน่ายไปซึ่งเครื่องหมายบริการโพสต์ทูเดย์ และนิวส์เคลียร์ และลิขสิทธิ์ ในสื่อออนไลน์ ของโพสต์ทูเดย์ และนิวส์เคลียร์ จำนวน 55 ล้านบาท ผลขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จะมีจำนวน 8.1 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ปัจจุบันผลขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จะมีจำนวน 7.7 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 0.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 4.9 โดยผู้บริหารอ้างว่าสาเหตุหลัก ๆ มาจากการปรับปรุงโครงสร้างการดำเนินการหมายถึงการปิดหรือขายทิ้งกิจการที่ขาดทุนออกจากมือและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ข้อเท็จจริงที่รับรู้กันภายในวงการคือข้ออ้างแบบปัดสวะธรรมดาของการถอยร่นไม่เป็นขบวน
การขาดทุนของ POST ในงวด 9 เดือนของปี ยังคงติดกับดักอนาคตที่แก้ไขได้ยากจากตัวเลขขาดทุนสุทธิ 64 ล้านบาท สำหรับค่ายสื่อสิ่งพิมพ์ภาษาอังกฤษที่เคยยิ่งใหญ่จากค่าโฆษณาที่สูงสุดในตลาดมาอย่างยาวนาน
ภายใต้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดอย่างกลุ่มจิราธิวัฒน์ POST ยังมีผลการดำเนินงานเป็นขาลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีตัวเลขขาดทุนสะสมมากจนทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 352 ล้านบาท รอเวลาให้กลุ่มทุนใหม่เข้ามาเทกโอเวอร์เท่านั้นถึงจะอยู่รอดต่อไปได้
สำหรับค่ายมติชน สื่อสิ่งพิมพ์ภาษาไทยที่มีสื่อดังอย่าง ข่าวสด มติชน และประชาชาติธุรกิจ อยู่ใต้ร่มเงา และมีสำนักพิมพ์มติชนที่จัดพิมพ์และจำหน่ายพ็อกเก็ตบุ๊กเป็นรายได้เสริม กับรายงานตัวเลขกำไรสุทธิที่สวยงามในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ทั้ง ๆ ที่กำไรจากธุรกิจหลักยังขาดทุนอยู่ และได้รับอานิสงส์จากการนำเงินลงทุนไปซื้อหุ้น GULF และได้รับเงินปันผลสวยงาม
แม้ว่ากำไรสุทธิของมติชนจะประดักประเดิด แต่เห็นได้ชัดว่าการนำเงินของบริษัทเข้าไปลงทุนเพื่อรับเงินปันผลใน GULF เป็นความฉลาด เพราะลำพังการเร่งทำรายได้กลับคืนมาเมื่อสถานการณ์โควิด-19 บรรเทาลงยังไม่อาจทำกำไรกลับคืนมาได้ ต้องพึ่งพารายได้พิเศษจากเงินลงทุนใน GULF ที่ยังคงเป็นกอบเป็นกำต่อไปในฐานะ cash cow ช่วยให้บริษัทเอาตัวรอดได้
การทำกำไรสุทธิด้วยการพลิกรูปแบบการลงทุนดังกล่าว อาจจะถูกมองว่าเป็นการผิดจารีตไปบ้าง แต่ในฐานะของบริษัทจดทะเบียนถือเป็นเพทุบายในช่วงยากลำบากที่แยบยลน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะแม้จะมีกำไรสุทธิตกต่ำลงจากปีก่อนที่เคยมีกำไรสุทธิ 76 ล้านบาท แต่ลดลงมาเหลือเพียง 70 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิที่ลดลงน้อยกว่ารายได้ที่เคยสูงถึง 416 ล้านบาทมาเหลือเพียงแค่ 316 ล้านบาท ก็ถือว่าอัตรากำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้นได้
เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่าเป็น disruption
แล้วสามารถเอาตัวรอดจากวิธีการบริหารเงินทุนได้จากการคิดแบบนอกกรอบ (outlier)