ลุ้นฟันด์โฟลว์ไหลเข้า-เล่นหุ้นปันผลสูง (SETHD)
แรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ที่มีเข้ามาในปี 2566 จำนวน 192,489 ล้านบาท หากมองเป็นความเลวร้ายในแง่ของการถอนเงินลงทุนออกจากตลาดหุ้นไทยก็สามารถที่จะบอกได้ว่า ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา หุ้นไทยตกหนัก เพราะอะไร?
แรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ที่มีเข้ามาในปี 2566 จำนวน 192,489 ล้านบาท หากมองเป็นความเลวร้ายในแง่ของการถอนเงินลงทุนออกจากตลาดหุ้นไทยก็สามารถที่จะบอกได้ว่า ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา หุ้นไทยตกหนักเพราะอะไร?
ฉะนั้น การกลับมาพลิกฟื้นของ SET INDEX ต้องกลับมาด้วยเหตุผลเดียวกัน คือการกลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้งของนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับเม็ดเงินต่างชาติ หรือ fund flow ที่คาดหวังจะเข้ามาในปี 2567 ภายหลังจากที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยหนักตลอดทั้งปี 2566 รวมแล้ว 1.9 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับตัวเลขซื้อสุทธิของปี 2565
ฉะนั้น เท่ากับว่าเม็ดเงินประมาณ 1.9-2 แสนล้านบาท ถูกหมุนเข้าหมุนออกจากตลาดหุ้นไทยสลับเป็นรายปี
ในเมื่อแรงขายสุทธิในปี 2566 ออกมาเต็มจำนวน 192,489 ล้านบาท (เท่ากับซื้อสุทธิ 1.9-2 แสนล้านบาทในปี 2565) การจะมีความหวังที่เม็ดเงินดังกล่าวจะกลับมาซื้อสุทธิในปี 2567 แบบเต็มจำนวน ก็มีความเป็นไปได้
โดยสัญญาณแรกที่เริ่มมีเข้ามาคือ การซื้อสุทธิวันสุดท้ายของปี 2566 (28 ธ.ค.) ของนักลงทุนต่างชาติเกือบ 4 พันล้านบาท เรื่อยมาจนปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติยังทยอยซื้อสลับขายหุ้นไทยอยู่เรื่อย ๆ ไม่ได้มีสัญญาณเทขายฝั่งเดียวเหมือนช่วงปีก่อนแต่อย่างใด
หากประเมินว่า flow ของต่างชาติจะกลับเข้ามา การเลือกลงทุนหุ้นที่มีปันผลสูง (High Dividend) ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจและเหมาะสม สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากจะเข้าสู่เทศกาลปันผล
ประกอบกับสถิติย้อนหลัง 10 ปีที่ผ่านมา หุ้นในกลุ่ม SETHD มักจะเป็นบวก หรือให้ผลตอบแทนที่ดี
โดยทางทีมกลยุทธ์ KCS ได้รวบรวมหุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลช่วงปี 2567 (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลครั้งเดียว) หรือครึ่งหลังปี 2566 (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง) จากคาดการณ์ของ KCS และ Consensus เพื่อนำมาคัดสรรหุ้นปันผลสูง (High Dividend) คือ Dividend Yield มากกว่า 2.0% สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะ 1-2 เดือนแรกของปี
KCS ได้ทำการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นปันผล (SETHD) ย้อนหลัง 10 ปี พบว่า SETHD ในช่วงเดือน ม.ค.–ก.พ. ของทุกปี ผลตอบแทนมักเป็นบวก เดือน ม.ค. ผลตอบแทนบวก 7 ใน 10 ปี เฉลี่ย +0.97%, เดือน ก.พ. บวก 8 ใน 10 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +0.91%
SETHD ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของทุกปี (งวด 1Q) ผลตอบแทนเป็นบวก 8 ใน 10 ปี เฉลี่ย +1.47%
ในเชิงกลยุทธ์ KCS แนะนำซื้อหุ้นปันผลสูงก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD 2 สัปดาห์ แล้วขายวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD (dividend capture) มักจะให้ผลตอบแทนที่ดี ทีมกลยุทธ์ KCS ได้ทำการคัดกรองหุ้นปันผลเด่นครึ่งหลังปี 2566 ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ 1.เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผลปี 2566/ครึ่งหลังปี 2566 สูงกว่า 2%
2.เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มการเติบโตหรือกระแสเงินสดมั่นคง หรืออยู่ใน Theme การลงทุนหลักของ KCS ปี 2567 อาทิ Theme ดอกเบี้ยผ่านจุดพีกไปแล้ว กลุ่มหุ้นที่หนุนเศรษฐกิจไทยปี 2567 ฟื้นตัวมากกว่าศักยภาพ 3.0% ฯลฯ โดยเรียงตามอัตราตอบแทนเงินปันผลจากสูงไปต่ำ พบว่ามีหุ้นปันผลเด่น 11 บริษัท คือ
หุ้น Big Cap ได้แก่ AP (TP-15.5, Yield 2H23F-5.7%), LH (TP-9.5, Yield 2H23F-4.9%), SAWAD (TP-53, Yield 2H23F-4.3%), TIDLOR (TP-30, Yield 2H23F-2.8%), WHA (TP-6.4, Yield 2H23F-2.4%), INTUCH (TP-85, Yield 2H23F-2.4%), ADVANC (TP-264, Yield 2H23F-2.0%)
หุ้น Mid Cap ได้แก่ MC (TP-16, Yield 2H23F-6.3%), NER (TP Con-6.1, Yield 2H23F-4.5%), SC (TP-4.5, 2H23F-4.34%), SIRI (TP-2.2, Yield 2H23F-3.8%)
โดยทีมกลยุทธ์ KCS ได้ทำการศึกษาสถิติหุ้นปันผลเด่น 11 บริษัทดังกล่าวข้างต้นย้อนหลัง 8 ปี พบว่าหากลงทุนซื้อหุ้นก่อน 2 สัปดาห์ และขายวันที่ขึ้น XD พบว่าผลตอบแทนเป็นบวก
โดยหุ้นที่ให้ Return มากที่สุดคือ TIDLOR +5.4%, ADVANC +3.7%, INTUCH +2.2%, ส่วน WHA, AP, SIRI, MC, NER ผลตอบแทนอยู่ในช่วง +1.2 -1.5% เท่ากับว่า การลงทุนหุ้นกลุ่ม High Dividend ในช่วงเวลาดังกล่าว หลาย ๆ ครั้งนักลงทุนจะได้รับเงินปันผลฟรี