ยืดหนี้หุ้นกู้ เทรนด์ใหม่ ‘บจ.’.!?

แหม๊...เห็นตัวเลขหุ้นกู้โดยรวมทั้งระบบที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 กว่า 1 ล้านล้านบาท แล้วหัวจะปวด..!! เพราะท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี


แหม๊…เห็นตัวเลขหุ้นกู้โดยรวมทั้งระบบที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 กว่า 8.9 แสนล้านบาท แล้วหัวจะปวด..!! เพราะท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี การจะ Roll Over หรือออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อไปชำระหุ้นกู้ชุดเก่าที่จะครบกำหนด ซึ่งเป็นท่าไม้ตายที่บจ.ทำกันจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ง่ายเหมือนเก่าแล้ว…

หลายบจ.ออกหุ้นกู้มาแล้วขายไม่ออก บางบจ.อันดับเครดิต A+ เป็นหุ้นกู้ในระดับ Investment Grade เสียด้วยซ้ำ ก็ยังขายกระท่อนกระแท่น แทบเอาตัวไม่รอด ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงบจ.ที่ไม่มีเครดิต หรือเป็นหุ้นกู้ระดับ Non-investment Grade กว่าจะขายได้หรือขายหมด เลือดตาแทบกระเด็น..!!

กลายเป็นโจทย์ใหญ่ของหลาย ๆ บจ. ว่าจะแก้ปัญหาชีวิตอย่างไร..?

แนวทางที่พอจะทำได้ เห็นจะเป็นการขอยืดชำระหนี้หุ้นกู้ออกไป แล้วแลกกับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนี่แหละ..!!

อย่างกรณีบิ๊กรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ของ “เจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต” ที่นำร่องขอยืดชำระหนี้หุ้นกู้ 5 รุ่น มูลค่า 14,455 ล้านบาท ออกไป 2 ปี พร้อมเสนอเพิ่มดอกเบี้ย 0.25% ในปีแรก และ 0.50% ในปีที่ 2

หุ้นกู้ 5 รุ่นดังกล่าว ประกอบด้วย รุ่น ITD242A มูลค่า 2,000 ล้านบาท ครบกำหนด 15 ก.พ. 2567, รุ่น ITD242DA มูลค่า 2,455 ล้านบาท ครบกำหนด 4 ธ.ค. 2567, รุ่น ITD24DB มูลค่า 1,215 ล้านบาท ครบกำหนด 4 ธ.ค. 2567, รุ่น ITD254 มูลค่า 6,000 ล้านบาท ครบกำหนด 29 เม.ย. 2568 และรุ่น ITD266A มูลค่า 2,785 ล้านบาท ครบกำหนด 2 มิ.ย. 2569

ถ้าไปอ่านเหตุผลของ ITD ระบุชัดว่า “สถานการณ์ในตลาดตราสารหนี้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นกู้ไม่เอื้ออำนวย เป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน ที่อาจทำให้การออกจำหน่ายหุ้นกู้รุ่นใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอน (Roll Over) มีความเสี่ยง และจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการดำเนินธุรกิจของบริษัท

บริษัทจึงพิจารณาในการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้ในการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้แทนการออกหุ้นกู้รุ่นใหม่ ๆ เพื่อมาทดแทนรุ่นเดิมที่จะครบกำหนดในปี 2567”

อือ…ก็พอฟังได้ แต่จะฟังขึ้นหรือเปล่า..?? อันนี้ไม่รู้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นกู้ทุกชุด ซึ่งมีนัดหมายชี้ชะตา ITD ในวันที่ 17 ม.ค. 2567 นี้

แต่ไม่จบแค่นั้น ล่าสุดมีบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ลอกการบ้าน ITD เด๊ะ นั่นคือบริษัท สยามนุวัตร จำกัด (SNW) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูง…ถ้านึกไม่ออกว่าสยามนุวัตรเป็นใคร..? ก็เป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมหรู อาทิ วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม, วิช ซิกเนเจอร์ มิดทาวน์ สยาม, เวอร์ทีค พระราม 4-สยาม, วิช แอท สามย่าน และวิช แอท สยาม ซึ่งนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้วันที่ 23 ม.ค. 2567 นี้ เพื่อขอเลื่อนจ่ายหุ้นกู้ครบดีลในปีนี้จำนวน 3 รุ่น มูลหนี้ 520 ล้านบาท ไปอีก 1 ปี เป็นปี 2568

ยิ่งตอกย้ำว่าตลาดหุ้นกู้เข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือเปล่า..!?

ว่าแต่การยืดหนี้หุ้นกู้จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของบจ.ป๊ะเนี่ย..??

ที่น่าจับตา หากเจ้าหนี้หุ้นกู้ไม่ยอมใจอ่อนไฟเขียว หรือยอมยืดหนี้ให้ ก็จะส่งผลกระทบแบบโดมิโน เนื่องจากหากหุ้นกู้ล็อตแรกเกิด Call Default หรือถูกเรียกให้ชำระหนี้โดยพลัน หุ้นกู้ที่เหลือทุกรุ่นก็จะเกิด Cross Default อัตโนมัติในทางเทคนิค ทำให้ทางเลือกของเจ้าหนี้หุ้นกู้มีไม่มากนัก

เอาน่า…คิดเสียว่า กำขี้ดีกว่ากำตด เพราะการยืดชำระหนี้ออกไป อาจเสียโอกาสในการได้คืนเงินต้น แต่อย่างน้อย ๆ ก็ได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาชดเชย เป็นน้ำทิพย์ชโลมใจละว้า..!!

ส่วนงานนี้ถามว่าใครเสียวสันหลังสุด คงหนีไม่พ้นนายแบงก์ละมั้ง…เพราะหากบริษัทผิดนัดชำระหุ้นกู้จริง แบงก์ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ที่ปล่อยกู้ให้บริษัทนำเงินไปดำเนินธุรกิจ ก็จะมีความเสี่ยงในการได้รับคืนหนี้นะจิบอกให้…

มิน่า…ช่วงนี้ถึงเห็นสีหน้านายแบงก์ใหญ่แต่ละคนหมองคล้ำเชียว..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button