ดอกเบี้ย-หุ้นกู้ ทำแบงก์หลอน
ไป ๆ มา ๆ ตลาดหุ้นก็พบกับวิบากกรรมอีกจนได้ และดูเหมือนประเด็น “ดอกเบี้ย” กับ “เบี้ยวหุ้นกู้” จะส่งผลกระทบต่อจิตใจนักลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
ไป ๆ มา ๆ ตลาดหุ้นก็พบกับวิบากกรรมอีกจนได้ และดูเหมือนประเด็น “ดอกเบี้ย” กับ “เบี้ยวหุ้นกู้” จะส่งผลกระทบต่อจิตใจนักลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ จึงเห็นแรงขายสาดใส่หุ้นแบงก์อย่างหนักตั้งแต่เช้า จนสุดท้ายดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,413.52 จุด ลบไป 1.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.54 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นอีกวันที่ตลาดหุ้นถูกหลอกหลอนจากประเด็นดังกล่าวนะจ๊ะ
งานนี้บอกกันตามตรงว่า หากแบงก์ลดดอกเบี้ยได้จริง ก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับประชาชนทั่วไป แต่ราคาหุ้นในกระดานจะถูกกดดันอย่างหนัก เพราะคนเล่นมองว่า การลดดอกเบี้ยทำให้กำไรไม่โต ขณะเดียวกันก็มีเสียงเม้าท์มอยว่า แบงก์จะเข้มงวดกับการพิจารณาปล่อยกู้มากขึ้น (ไม่อยากเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว) ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปว่า ทุกฝ่ายจะหาจุดกึ่งกลางที่ทำให้สบายใจได้ไหม?
ประกอบกับวานนี้มีรีเสิร์ชต่างชาติให้ลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นแบงก์ จึงกลายเป็นแรงกดทับที่ทำให้สถานการณ์หุ้นแบงก์ย่ำแย่ลงไปอีก “โมนิก้า” ถึงมีอาการละเหี่ยใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสิ่งที่เคยกังวลก่อนหน้านี้ เริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่กระนั้นก็ยังเชื่อว่า ตราบใดที่ดัชนียังประคองตัวยืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง ดัชนีก็มีโอกาสวิ่งกลับขึ้นไปทดสอบ 1,430 จุดอีกครั้งนะจะบอกให้
น่าเสียดายที่ความเชื่อดังกล่าว ก็มลายหายไปอีกจนได้ เพราะพรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังว่า แบงก์ได้ผ่านปีที่ดีสุดไปแล้ว และปีนี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับการปั๊มกำไรอย่างเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งยังได้รับผลกระทบจากเบี้ยวหุ้นกู้ในทางอ้อมอีกด้วย ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้แบงก์ต้องระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม “โมนิก้า” เลยมองว่า เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 จะเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมายไงล่ะตัวเอง
ขนาดแบงก์ตราดอกบัว BBL ได้ชื่อว่าเพลย์เซฟสุด ๆ และอยู่ในกลุ่มอนุรักษ์นิยม ยังถูกขายไม่เลี้ยง จนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 150 บาท ลบไป 4.50 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.97 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นภาพที่สะท้อนความกังวลบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้แนวรับที่บริเวณ 147 บาทเอาไม่อยู่ หลังธุรกิจถูกรุมล้อมด้วยข่าวลบสารพัดอย่างในเวลานี้เจ้าค่ะ
ส่วนรายที่คลุกคลีอยู่กับ “เอสเอ็มอี” อย่างหุ้น KBANK อาจมีประเด็นที่น่ากังวลมากกว่าก็จริง แต่ทุกครั้งก็เอาตัวรอดได้ตลอดเหมือนกัน “โมนิก้า” ถึงมองว่า ในทางธุรกิจยังมีช่องทางที่ไปได้ แต่ในมุมของราคาหุ้นแทบจะไม่มีแก๊ปให้เล่น ราคาหุ้นถึงร่วงแรงอีกครั้ง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 129.50 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.78 พันล้านบาทแบบนี้..คงต้องไปรอดูที่บริเวณแนวรับ 122 บาทแล้วล่ะ
สำหรับรายที่ดูแข็งกว่าใครเพื่อน “โมนิก้า” ขอมองไปที่ยานแม่อย่าง SCB ซึ่งประคองตัวได้อย่างยอดเยี่ยมในภาวะที่หุ้นแบงก์โดนกดดันอย่างหนัก โดยราคาหุ้นก็พยายามรักษาทรงอย่างเหนียวแน่น แต่วานนี้ก็ต้านแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาไม่ไหว ราคาหุ้นเลยทิ้งตัวลงมาปิดที่ระดับ 104 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 970 ล้านบาทแบบนี้..มันเป็นจังหวะที่ต้องจำใจถอยจริง ๆ จ้า!
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นที่สนองการเมืองอย่าง KTB ก็อยู่ในโมเมนตัมที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่? เพราะถ้ายึดเรื่องราวในอดีตเป็นตัวนำจะเห็นว่า ทุกครั้งที่รัฐบาลอยากได้อะไร หุ้นตัวนี้เด้งรับนโยบายเป็นประจำ และเผอิญเที่ยวนี้มีเรื่องลดดอกเบี้ยเป็นวาระเร่งด่วน “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า การลงมายืนปิดที่ระดับ 18.30 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.04 พันล้านบาท มันเกี่ยวกันมากน้อยขนาดไหนเจ้าค่ะ
ตบท้ายกันที่หุ้นกระดาษลังอย่าง SCGP กันดีกว่า เพราะอาการหมดเรี่ยวแรง และร่วงลงมาเที่ยวนี้ มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า หุ้นพร้อมจะทำนิวโลว์อีกแล้วกระมัง! “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการลงมายืนปิดที่ 34.75 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 557 ล้านบาท โดยมีโลว์เก่าที่เคยทำไว้บริเวณ 33.25 บาทเป็นฐานที่มั่นสุดท้าย..มันน่าช้อนไหมคะ