เกมพลิก (อีกแล้ว)
เดิมทีดัชนีทำท่าจะจอดไม่ต้องแจวอยู่แล้วเชียว!..แต่กลับมีแรงซื้อเข้ามาดันดัชนีอีกรอบ ส่งผลให้ดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,413.53 จุด
เดิมทีดัชนีทำท่าจะจอดไม่ต้องแจวอยู่แล้วเชียว!..แต่กลับมีแรงซื้อเข้ามาดันดัชนีอีกรอบ ส่งผลให้ดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,413.53 จุด บวกไป 5.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.02 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่พลิกผันพอสมควร และทำให้เดี๊ยนต้องระวังตัวมากกว่าเดิม เพราะเป็นการตีกลับท่ามกลางข่าวลบรุมเร้าไม่เลิก จึงอาจเป็นไปได้ว่า นี่คือการรีบาวด์เพื่อลงต่อก็ได้นะคะ
สาเหตุที่ทำให้เชื่อนั้นมาจากวิธีคิดที่ว่าด้วยเรื่องโมเมนตัมเป็นประเด็นสำคัญ และหากทุกคนจำได้จะเห็นว่า เดี๊ยนเคยเตือนการเคลื่อนตัวของดัชนีจะเป็นลักษณะทดสอบแรงขาย และมีแนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 1,400 จุด โดยการเล่นตรงนี้จะเป็นการชี้ชะตาดัชนีจะไปทางไหน? เพราะหากยืนได้อย่างแข็งแกร่ง ก็จะกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,430 จุด..หากยืนไม่ได้จะลงมาพักตัวใต้ 1,400 จุดสักพักนะจ๊ะ
สัปดาห์นี้จึงเป็นการพิสูจน์ว่า นักลงทุนแต่ละกลุ่มอยาก “เล่น” หรืออยาก “ถอย” และอย่าลืมว่า CPAXT DELTA KBANK AOT และ CPALL มีผลต่อการขึ้นของดัชนี 2.50 จุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปว่า “ซื้อเล่นสั้น” หรือ “ซื้อลงทุน” เพราะแต่ละตัวที่เอ่ยถึงมีลักษณะฟื้นตัวจากก้นเหวทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยมั่นใจว่า การขึ้นเที่ยวนี้จะเป็นการทะยานขึ้นอย่างบูรณาการน่ะซี
คิดดูสิ!..ขนาดพี่พานทองแท้ PTT ทำท่าเหมือนจะไปได้ดี แต่สุดท้ายก็มาโดนรีดเงินเสียอย่างนั้น บรรดานักเล่นเลยกังวลว่า กำไรปีนี้มีโอกาสที่จะลดฮวบ ราคาหุ้นเลยทิ้งตัวลงมาปิดที่ระดับ 34.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.68 พันล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมยากสำหรับคนที่คิดจะเข้าไปตะลุมบอน เพราะเมื่อดูยาว ๆ จะเห็นว่า ท่านพี่เตรียมจะปรับโครงสร้างพลังงานใหม่ จึงน่าจะกระทบต่อผลงานของบริษัทเต็ม ๆ จ้า
ส่วนในรายของ WHA ซึ่งทำผลงานได้ดีมาตลอด และหลายคนก็ยังเชื่อว่า ผลงานปีนี้น่าจะดีเหมือนเดิม แต่ก็โดนขายทิ้งแบบไม่มีเยื่อใย จนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 4.78 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 915 ล้านบาท มันกลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องคิดมากพอสมควร และถ้าดูจากบทวิเคราะห์ต่าง ๆ ก็ยังมีแก๊ปให้ราคาหุ้นไปต่อได้ แต่ดันปิ๋วไปเสียฉิบเจ้าค่ะ
ขนาดหุ้นอาหารหมาแมวอย่าง ITC ที่หลายคนมองว่า ปีนี้จะทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ยังถูกขายหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 20.20 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 245 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันจริง ๆ และไม่รู้ว่า หุ้นตัวนี้จะเดินต่ออย่างไร เพราะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นก็วนเวียนไปมาที่ 20-22 บาทเป็นประจำพะย่ะค่ะ
สำหรับรายที่แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ของจริง “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น TGE อีกสักครั้ง เพราะแรงซื้อยังมีเข้ามาอย่างหนาแน่น จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.50 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 6.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 199 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ต้องตามดูแบบห่าง ๆ และไม่สามารถคอมเมนต์อะไรได้อีกเลย เพราะวันนี้มาไกลกว่าที่เดี๊ยนคิดไว้มากเหลือเกินนะออเจ้า
ส่วนคนที่ชอบเล่นเก็งกำไรแบบสุดซอย “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ชำเลืองตามอง XPG เป็นรายถัดมา เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.29 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่เชื่อมโยงโดยตรงกับราคาคริปโตพุ่งอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันก็มีประเด็นเชื่อมโยงโดยตรงกับผลงานของปีนี้ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับไปสืบเสาะข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งว่า จริงไหม?
ในเมื่อมีประเด็นที่ต้องคิดกันทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นตัวเล็กอย่าง SANKO เพื่อชี้ให้เห็นการถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ จนโมเมนตัมของหุ้นเปลี่ยนไปในทางไซด์เวย์ดาวน์ มีฐานเก่าที่นอนนิ่งเป็นประจำอยู่ที่บริเวณ 1.20 บาท มันคือสัญญาณของการถอยกรูดหรือเปล่า? หลังหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 1.63 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 63 ล้านบาทแล้วน่ะซี