‘จิราธิวัฒน์’ รุ่น 4 & เซ็นทรัลศตวรรษใหม่
เกือบศตวรรษที่ “กลุ่มเซ็นทรัล” ที่เริ่มต้นจากร้านหนังสือเล็ก ๆ ย่านบางมด จนเติบใหญ่กลายมาเป็นอาณาจักรธุรกิจเครือเซ็นทรัล กว่า 9 กลุ่มธุรกิจหลัก ผ่านการส่งไม้ต่อกันมาถึง 4 รุ่น
เกือบศตวรรษที่ “กลุ่มเซ็นทรัล” ที่เริ่มต้นจากร้านหนังสือเล็ก ๆ ย่านบางมด จนเติบใหญ่กลายมาเป็นอาณาจักรธุรกิจเครือเซ็นทรัล กว่า 9 กลุ่มธุรกิจหลัก ผ่านการส่งไม้ต่อกันมาถึง 4 รุ่น ทำให้ “ตระกูลจิราธิวัฒน์” เป็นหนึ่งในหลายตระกูลที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลด้านเศรษฐกิจมากสุดตระกูลหนึ่งของไทยเลยทีเดียว
ล่าสุดทายาทรุ่นที่ 4 “ภูมิ จิราธิวัฒน์” (ลูกชายนิตย์สินี จิราธิวัฒน์) โดยบริษัท ซีจี แคปปิตอล แอดไวซอรี่ จำกัด มีการเปิดตัวกองทุน Private Equity Fund กองแรกมูลค่า 10,000 ล้านบาท ผู้ลงทุนหลักคือ 1) ครอบครัวจิราธิวัฒน์ 2) ธนาคารชั้นนำต่าง ๆ 3) นักลงทุนสถาบันระดับโลก
ภายใต้วัตถุประสงค์ลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นหลัก มีทั้งการลงทุนสินทรัพย์โรงแรม คอนโดมิเนียม สวนสนุก สวนน้ำและ Mixed-use ที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นในเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย และพัทยา เบื้องต้นมีแผนลงทุนปีละ 3-5 โครงการ เริ่มด้วย The Standard Residences Phuket Bangtao โครงการคอนโดมิเนียม จังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว
การรุกเข้าสู่ Private Equity Fund ครั้งนี้ นับว่าน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง..เพราะนั่นหมายถึงบทพิสูจน์วิสัยทัศน์และแนวทางการบริหารธุรกิจของ “จิราธิวัฒน์” เจเนอเรชั่นใหม่..ว่าจะให้ความยิ่งใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัล..เป็นทุนเดิมในการต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกมากเพียงใด..!?
“ตระกูลจิราธิวัฒน์” ก่อร่างสร้างตัวมาจาก “เตียง แซ่เจ็ง” หรือ “นี่เตียง” ชาวจีนจากหมู่บ้านไหเค้า มณฑลไหหลำ ประเทศจีน ที่เข้ามาประเทศไทย พร้อมภรรยาชื่อ “หวาน” ช่วง พ.ศ. 2470 มีบุตรชายคนโตที่เกิดในประเทศจีน คือ สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ช่วงปี พ.ศ. 2468 เมื่อแรกเกิดชื่อ “ฮกเส่ง” (ฮกแปลว่าลาภและเส่งแปลว่าสำเร็จ)
โดยยุคของ “นี่เตียง” เริ่มประกอบธุรกิจ ด้วยการเปิดร้านกาแฟและขายของเบ็ดเตล็ด ย่านบางมด ย้ายไปอยู่บริเวณที่ว่าการอ.บางขุนเทียน ตรงข้ามสถานีรถไฟวัดจอมทอง (ส่วนภรรยารับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า) โดยตั้งชื่อร้านว่า “เข่งเส่งหลี” และเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องเผชิญความลำบาก และ “หวาน” ภรรยาเสียชีวิต ทำให้ “สัมฤทธิ์” บุตรชายคนโต จึงมาช่วยดูแลธุรกิจ..
จนปี พ.ศ. 2493 ครอบครัวนี่เตียง ขอให้ผู้ใหญ่ที่ครอบครัวนับถือตั้งชื่อนามสกุลให้ว่า “จิราธิวัฒน์” คำว่า “จิระ” หมายถึง “ยืนนาน” ส่วน “อธิ” หมายถึง “ความยิ่งใหญ่” และ “วัฒน์” คือ “วัฒนา” เมื่อรวมแล้วหมายถึง “ตระกูลที่มีความยิ่งใหญ่วัฒนาอย่างยาวนาน” นั่นเอง..
ถัดมายุคที่ 2 คือ “สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์” ในฐานะพี่ใหญ่และน้อง ๆ อีก 25 คน (น้องที่เกิดจากมารดาเดียวกัน 7 คน และต่างมารดาอีก 18 คน) โดยปี 2490 ได้เซ้งห้องแถวที่ถนนเจริญกรุง ย่านสี่พระยา เปิดเป็นร้านขายหนังสือ ใช้ชื่อร้านว่า “ห้างเซ็นทรัลเทรดดิ้ง” ช่วงแรกเน้นขายหนังสือนำเข้าจากต่างประเทศและสินค้าจากสำเพ็ง จากนั้นรับน้องชาย 2 คนคือ “วันชัย” และ “สุทธิพร” มาช่วยงานหลังเลิกเรียน จากนั้นมีการนำสินค้า อาทิ ถุงเท้า เนคไท เสื้อกล้าม กระโปรงพลีท และชุดชั้นในสตรี และขยับขยายสินค้าประเภทใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น และปี 2499 เปิดสาขาใหม่ชื่อ “ห้างเซ็นทรัล” จากนั้นมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
มาช่วงปี 2532 “สัมฤทธิ์” ป่วย จึงแต่งตั้งน้องชายคนรอง “วันชัย จิราธิวัฒน์” เป็นประธานคณะกรรมการเครือเซ็นทรัล และจัดองค์กรใหม่ แบ่งกลุ่มธุรกิจผู้บริหารรับผิดชอบโดยตรง 5 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (CRC) มี “สุทธิชาติ จิราธิวัฒน์” เป็นประธาน 2) กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (CPN) มี “สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์” เป็นประธาน 3) กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและค้าส่ง (CMG) มี “สุทธิศักดิ์ จิราธิวัฒน์” เป็นประธาน 4) กลุ่มธุรกิจโรงแรมมี “สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์” เป็นประธาน 5) กลุ่มธุรกิจฟาสต์ฟู้ด มี “สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์” เป็นประธาน
ถัดมายุคที่ 3 เริ่มต้นขึ้น (หลัง “สัมฤทธิ์” เสียชีวิตปี 2535) โดย “วันชัย” เป็นผู้นำองค์กรคนที่ 3 ในยุคการบริหารของวันชัย ธุรกิจเติบโตหลายด้าน เป็นยุคแห่งการขยายกิจการ ทั้งประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ทั้งค้าปลีก โรงแรมและนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แตกไลน์ ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น ซูเปอร์สปอร์ต ไทวัสดุ เป็นต้น
โดยทายาทรุ่นที่ 3 “ตระกูลจิราธิวัฒน์” มีการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศและแตกไลน์ธุรกิจเป็น 9 กลุ่มหลัก ที่รับไม้ต่อจากรุ่นที่ 2 ผู้บริหารรุ่นที่ 3 อาทิ กอบชัย, ทศ, นิตย์สินี, ปริญญ์, เกรียงศักดิ์, พิชัย, ธีรยุทธ, ธีรเดช, ชาติ, อิศเรศ, ธรรม์, วัลยา, ยุวดี ฯลฯ โดยมี “ทศ จิราธิวัฒน์” เป็นประธานกรรมการบริหาร ส่วน “ชาติ จิราธิวัฒน์” ถูกวางตัวให้เป็นอันดับสองของรุ่นที่ 3 ทำหน้าที่บริหารเซ็นทรัล เอ็มบาสซีฯ
น่าติดตามต่อไปว่าทายาทรุ่นที่ 4 ของ “ตระกูลจิราธิวัฒน์” จะช่วยกันแผ่ขยายอิทธิพลทางธุรกิจกลุ่มเซ็นทรัล..ในการก้าวข้ามผ่านสู่ศตวรรษใหม่อย่างไร..!??