ของดีมีอยู่
น่าเสียดาย รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาบริหารงานกว่า 4 เดือนแล้ว ยังไม่สร้างความหวังอันใดให้ตลาดทุนเลย ปีที่แล้วดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง 15% ปีนี้จะเป็นเท่าไหร่ มองเห็นแต่ทางลง ยังไม่เห็นทางขึ้น
น่าเสียดาย รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาบริหารงานกว่า 4 เดือนแล้ว ยังไม่สร้างความหวังอันใดให้ตลาดทุนเลย ปีที่แล้วดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง 15% ปีนี้จะเป็นเท่าไหร่ มองเห็นแต่ทางลง ยังไม่เห็นทางขึ้น
เรื่องผลงานที่จะโชว์ประชาชนในเรื่องแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชน 50 ล้านคน ผมเคยเขียนท้วงติงมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ในภาคปฏิบัติ ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ “ไร้ดุลยภาพ” ระหว่างอำนาจอธิปไตย 3 อำนาจ โดยอำนาจฝ่ายบริหารอ่อนแอสุด
คงไม่มีวันจะทำโครงการนี้ได้หรอก ขืนยืดเยื้อไปก็เสียเวลาเปล่า รัฐบาลคงไม่สามารถหาของขวัญชิ้นงามมาแจกประชาชนได้หรอก
และแล้วก็เป็นจริง อุปสรรคด่านแรกที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เขียนความเห็นคลุมเครือ ไม่รู้จะคัดค้านหรือสนับสนุน หากรัฐบาลลุยถั่วไป ก็คงต้องเดินหน้ารับความเสี่ยงเอาเอง
กฤษฎีกา เป็นแค่ที่ปรึกษากฎหมายรัฐบาล ไม่ใช่องค์กรที่มีอำนาจตัดสินก็จริง แต่ในสภาวะไร้ดุลอำนาจฯ เช่นนี้ ขืนทำไปรัฐบาลก็มีสิทธิ์ติดคุกหรือสิ้นสภาพไปเลยก็ได้
ยิ่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือป.ป.ช.ออกมาฟันธงล่วงหน้าด้วยเอกสารการศึกษากว่า 170 หน้าว่า โครงการนี้ส่อทุจริตเชิงนโยบาย
“เครื่องจักรสังหารรออยู่” ทั้งความเห็นกฤษฎีกาและป.ป.ช.จะเป็นพยานปากเอกชั้นดีในศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปราบโกง หรือศาลฎีกาแผนกคดีอายานักการเมือง (เหมือนเช่นเคยที่ผ่านมา)
ส่วนอีกโครงการหนึ่ง ที่รัฐบาลกำลังขายฝันอยู่ในเวลานี้ คือโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมฝั่งอ่าวไทยกับมหาสมุทรอินเดีย ผมว่าโครงการนี้จะมองแค่มิติงานก่อสร้างของกรมทางหลวงไม่ได้นะ
แต่จะต้องมองให้ลึกครอบคลุมไปทั้งมิติของโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ตลอดจน “พันธมิตรร่วมทุนรายใหญ่” ไม่ใช่จะหาข้อสรุปกันง่าย ๆ ช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลยังไม่ถึง 1 ปีดี
ในประการสำคัญที่สุดก็คือ โครงการนี้ไม่ใช่การขุดคลอง แต่เชื่อมโดยแผ่นดิน ฉะนั้นจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า “Double Handling” ทั้งขนลง-ขนขึ้น มันคงไม่ง่ายเหมือนขนของย้ายบ้านหรอกนะ แต่นี่มันเรือบรรทุกสินค้าเป็นหมื่นเป็นแสนตัน
เวลาในการเทียบเรือ-ขึ้นเรือก็ต้องนัดหมายกันให้ตรงเวลาและไม่ล่าช้าจนเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่จัดการได้ยากมาก
แลนด์บริดจ์มันจะช่วยย่นระยะเวลาการอ้อมช่องแคบมะละกาได้ถึง 2 วันจริงหรือ ยังเป็นคำถามน่าสงสัยอยู่มาก ๆ
ผมว่ารัฐบาลเพื่อไทยที่สืบเชื้อสายมาจากไทยรักไทย ยังมีของดีที่ฝากผลงานให้จดจำอยู่มากนะ สามารถจะรื้อผลงานเก่าที่ยังทำไม่เสร็จมาต่อยอดให้สมบูรณ์ หรือปัดฝุ่นโครงการเก่าที่ยังไม่ได้ทำหรือมีคนห้ามไม่ให้ทำ ก็ยังได้
โครงการหนึ่งที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างว่าจะสร้างอนาคตใหม่ให้ประเทศชาติ นั่นก็คือ ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะมีการจัดวางโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมระบบรางและการขนส่งสินค้าแบบบูรณาการ ด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงทั้ง 3-4 ภูมิภาค
พร้อมกับวางบริบทใหม่ ระบบจัดการบริหารน้ำทั่วประเทศแบบบูรณาการ ที่มีทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ตลอดจนการสร้าง “ฟลัดเวย์” เส้นทางน้ำใหม่ แก้ปัญหาคู่แฝด “น้ำแล้ง-น้ำท่วม” แบบครบวงจรในคราวเดียวกัน
ของดีมีอยู่นะ ถ้านำมาปัดฝุ่นก็จะกลายเป็นของขวัญชั้นดีไม่แพ้ดิจิทัล วอลเล็ต และแลนด์บริดจ์ที่จืดชืดหรอก เพียงแต่ต้องปรับกลยุทธ์นำเสนอให้หลบเลี่ยงจาก “เครื่องจักรสังหาร” เสียหน่อย