ลุ้นกันต่อโมนิก้าและทีมงาน
*เริ่มต้นศักราชใหม่ “โมนิก้า” ถือเคล็ดว่า ควรพูดแต่สิ่งดีๆ สิ่งไม่ดีควรงดเว้น และห้ามตั้งอยู่บนความประมาท เดี๊ยนเลยถือโอกาสพูดถึงทิศทางธุรกิจประเภทต่างๆ เพื่อทำให้นักลงทุนเห็นภาพการลงทุนตลอดปี 59 ได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเตือนสตินักลงทุนว่าอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ และควรกำหนดรูปแบบการลงทุนด้วยตนเอง หรือถ้าเป็นไปได้ควรปรับพอร์ตการลงทุนให้กระชับขึ้นกว่าเดิมนะค่ะ
*เริ่มต้นศักราชใหม่ “โมนิก้า” ถือเคล็ดว่า ควรพูดแต่สิ่งดีๆ สิ่งไม่ดีควรงดเว้น และห้ามตั้งอยู่บนความประมาท เดี๊ยนเลยถือโอกาสพูดถึงทิศทางธุรกิจประเภทต่างๆ เพื่อทำให้นักลงทุนเห็นภาพการลงทุนตลอดปี 59 ได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเตือนสตินักลงทุนว่าอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ และควรกำหนดรูปแบบการลงทุนด้วยตนเอง หรือถ้าเป็นไปได้ควรปรับพอร์ตการลงทุนให้กระชับขึ้นกว่าเดิมนะค่ะ
*เนื่องจากตลาดหุ้นไทยจะผันผวนมากขึ้นอย่างแน่นอน..ใครที่คิดว่า หุ้นไทยจะกลับทิศกลับทาง ขอให้เลิกฝันตอนกลางวันแสกๆ ได้แล้ว และควรยืดอกพกถุง (เงิน) ขึ้นมาเผชิญกับความเป็นจริงเสียที เพราะปีนี้หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คิดเร็ว ทำเร็ว ทุนหนา” ย่อมทำให้บริษัทนั้นเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และควรให้ความสำคัญกับบริษัทที่ตุนเงินสดไว้เยอะๆ ด้วยพะยะค่ะ
*สำหรับสภาพการลงทุนจะห่อเหี่ยวยาวตั้งแต่ต้นปี 59 หรือไม่นั้น! ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อสำรวจอุณหภูมิรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับการทำให้หุ้นอ่อนตัวลงอย่างหนักพบว่า ยังมีหลายประเด็นให้ติดตาม แถมแต่ละเรื่องก็เกี่ยวข้องกับหุ้นแต่ละกลุ่มเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนมองการอ่อนตัวของดัชนีเที่ยวนี้เป็นเรื่องของ Fund Flowมากกว่าประเด็นอื่นๆ…หากเราเข้าใจถึงหลักการลงทุนเรื่องนี้ก็จะพบว่า การเทขายหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ เป็นกระกระทำที่ถูกต้องเจ้าค่ะ
*ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์แนะนำให้นักลงทุนเทขายหุ้นทำกำไร เมื่อดัชนีเริ่มขยับขึ้นมาแถวๆ 1,300-1,320 จุด ในขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนบางส่วนมองว่า ครั้งนี้ดัชนีจะฝ่าขึ้นไปได้?? (2-3 รอบที่แล้ว ก็คิดแบบนี้) “โมนิก้า” ถึงย้ำแล้วย้ำอีกว่า ใครอ่านจังหวะขึ้นลงของดัชนีได้แม่นย่ำกว่ากัน คนนั้นได้สิทธิ์รับโชคใหญ่จากตลาดหุ้นทันที..งานนี้บอกได้คำเดียวว่า ตาดีได้ ตาร้ายเสีย (ปัจจัยพื้นฐานช่วยได้นิดหน่อย) นะค่ะ
*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายคนมองว่า ดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงไปยังแนวรับ 1,200 จุดค่อนข้างสูง!!..ส่วนจะลงไปจริงหรือไม่? เป็นเรื่องที่ค่อยมาคุยกันทีหลัง เพราะอารมณ์ของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ หดหู่อย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันตัวแปรทางด้านต่างๆ ก็ไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักเรื่อง ความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงไปทดสอบแนวรับด้านล่าง จึงไม่ใช่เรื่องที่คิดไปเองเจ้าค่ะ
*ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า เปิดพุทธศักราชใหม่ขึ้นมาปุ๊บ นักวิเคราะห์ยังแนะนำให้นักลงทุน “ขาย” ปั๊บ เท่ากับเป็นการกระตุ้นอารมณ์นักลงทุนรายย่อยให้รู้จักตื่นตัวตลอดเวลา เพราะการลงทุนในปี 59 เขาวัดความสำเร็จกันที่เรื่องของข่าวสาร และจังหวะการเข้าทำ ซึ่งเป็นผลมาจากอาการแกว่งตัวของดัชนีจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม นักลงทุนกลุ่มต่างๆ จะหันมาเล่นเก็งกำไรกันมากขึ้นพะยะค่ะ
*นั่นหมายความว่า คนที่รู้จักแนวคิดมันนี่เกม จะกลายเป็นผู้ชนะ..ซึ่งเห็นได้จากปรากฏการณ์ side way down หรือ side way up ใครเข้าซื้อหุ้นแล้วออกของไม่ทัน!รับรองว่า เจ็บตัวทุกราย ยิ่งถือยาวเท่าไหร่ ยิ่งอึดอัดใจมากขึ้นเท่านั้น โดยผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมาอย่างเป็นทางการพบว่า จังหวะซื้อขายสำคัญสุด!เดี๊ยนถึงต้องการให้นักลงทุนชายตามองสภาพแวดล้อมก่อนลงมือซื้อหุ้นไงล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของหุ้นสุดรัก EA มีสตอรี่ดีรองรับเต็มประตูหน้าต่าง และยังมีพัฒนาการสำคัญที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนลองพิจารณาข้อมูลหุ้นตัวนี้ให้ดีเสียก่อน เพราะยังมีข่าวดีบางเรื่องที่ยังไม่ถูกปล่อยออกมา..งานนี้ใครคิดว่า หุ้นตัวนี้จะมีพัฒนาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็หาจังหวะทยอยซื้อหุ้นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะหาว่า คนสวยมีอะไรดีแล้วไม่บอกนะจ๊ะ
*ไหนๆ พูดถึงหุ้นที่มีธุรกิจหลากหลาย “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนอิริยาบถไปดูหุ้นลีสซิ่งดาวรุ่งบ้างดีกว่า และตัวที่อยากจะพูดถึงมากเป็นอันดับแรกก็คือ MTLS ราคาหุ้นยังย่ำฐานวนเวียนไปมาแถว 20.50 บาทมาหลายวัน จึงมีคนอยากรู้ว่า ราคาหุ้นจะทะยานขึ้นไปทำ new high ได้หรือเปล่า? เนื่องจากราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้อยู่สูงถึง 25 บาท จึงเป็นหุ้นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งนะจ๊ะ
*อีกตัวที่น่าจับตามากที่สุดก็คือ JAS หลังจากโดนมรสุมจากแรงเทขายกระหน่ำซัดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ล่าสุดราคาหุ้นพยายามสู้อย่างสุดฤทธิ์สุดเดช จนมีผู้คนอยากรู้ว่า รอบนี้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ 4 บาทไหม? “โมนิก้า” ตอบแทนได้ทันทีว่า มีโอกาสไปถึงแน่นอน! เพราะไซเคิลของหุ้นเคลื่อนตัวแบบ w-shape แถมหุ้นยังพยายามย่ำฐานแถว 3.20 บาทแบบนี้..trading ได้เลยเจ้าค่ะ
*ส่วนหุ้นแบงก์เจ้าปัญหาอย่าง KTB นับวันจะมีเรื่องชวนให้ปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลมาจากหัวเรือบางคนมาจากค่ายอื่น วัฒนธรรมการทำงานแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ในที่สุดเลยเกิดปฏิกิริยาแอนตี้กันอย่างสุดฤทธิ์ จนในที่สุดเป็นการงัดข้อกันระหว่างสาขากับสำนักงานใหญ่ และคนที่ค่อนข้างซวยสุดในเรื่องนี้ก็หนีไม่พ้น “วรภัค” ซึ่งอยู่ในภาวะที่ถูกเลื่อยขาเก้าอี้ทุกวัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูคลื่นใต้น้ำลูกนี้ว่าจะทำให้ใครบางคนถูกเฉดหัวพ้นสำนักงานใหญ่บ้าง..อิอิอิ
*ป.ล.ดัชนีอ่อนตัวลงหนักคราวนี้ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ เพราะทุกคนรู้กันเต็มอกอยู่แล้ว พอเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ กลับรับไม่ได้แบบนี้..อีเดียดกันไปหน่อยนะจ๊ะ