ข่าวดีในข่าวร้ายของกลุ่มทิสโก้
ถึงแม้ว่าผลประกอบการของกลุ่มทิสโก้จะออกมาไม่สวยงามและนักวิเคราะห์ยังมีมุมมองเชิงลบต่อผลประกอบการในปี 2567 แต่ข่าวดีในช่วงนี้การขึ้นแท่นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มธนาคารน่าจะทำให้นักลงทุนใจชื้นขึ้นมา
ถึงแม้ว่าผลประกอบการของกลุ่มทิสโก้จะออกมาไม่สวยงามและนักวิเคราะห์ยังมีมุมมองเชิงลบต่อผลประกอบการในปี 2567 แต่ข่าวดีในช่วงนี้การขึ้นแท่นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มธนาคารน่าจะทำให้นักลงทุนใจชื้นขึ้นมา เพราะราคาเป้าหมายนักวิเคราะห์ให้กันไว้เพียง 100 บาทต่อหุ้น
ผลประกอบการของกลุ่มทิสโก้สิ้นงวดปี 2566 ที่เพิ่งออกมาเป็นไปตามคาดจากการที่ NIM หรือส่วนต่างของราคาดอกเบี้ยที่ลดลงและต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญที่สูงขึ้น ผลจากการประชุมนักวิเคราะห์ล่าสุดผู้บริหารบริษัทยอมรับว่าปี 2567 นี้ จะยังคงเป็นปีที่ยากลำบากต่อไปจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ขณะที่ NIM จะทยอยลดลงจากการแข่งขันในตลาดเงินที่เข้มข้นขึ้นและรายได้ค่าธรรมเนียมยังท้าทาย โดยเฉพาะธุรกิจหลักทรัพย์ ด้าน NPL จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.50-2.75% จากปี 2566 ที่ 2.22% จากการปล่อยสินเชื่อผู้บริโภคที่เคยให้ผลตอบแทนสูงอย่าง “สมหวังเงินสั่งได้“ และ Autocash ที่มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ส่วนกำไรไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ลดลงตามคาดอยู่ที่ 1.78 พันล้านบาท เมื่อเที่ยบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนจากสำรองเผื่อหนี้สูญที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ขณะที่มีรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์น้อยกว่าคาด ต้องอาศัยรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากค่าธรรมเนียมการออกหลักทรัพย์ใหม่ (Incentivefee) ที่ 50 ล้านบาทเข้ามาช่วย
นักวิเคราะห์ยังได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567-2568 ลดลง 7-8% จากการปรับ credit cost ปี 2567-2568 ขึ้น ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 7.1 พันล้านบาท ลดลง 3% เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่คาดว่าแนวโน้มกำไรในไตรมาส 1/2567 มีโอกาสที่จะทรงตัวทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะเริ่มเห็นการลดลงของกำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
จากต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่ความคาดหวังว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นอีกจากกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ยังดีอยู่น่าจะถือเป็นข่าวดีในข่าวร้าย
นอกจากนั้นยังมีข่าวดีเพิ่มขึ้น การที่ได้รับโล่เกียรติยศในฐานะองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุด ในหมวดธนาคาร ประจำปี 2566 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงาน ASEAN and Thailand’s Top Corporate Brands 2023 จัดโดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสื่อในเครือผู้จัดการ ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กลุ่มทิสโก้ มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Focus) สอดรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตอบโจทย์สังคม โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม บริหารความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เหมาะสม พร้อมดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบธรรมาภิบาลที่ดี และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังปรับตัวรับมือกับความท้าทายอยู่เสมอ โดยบูรณาการทั้งบุคลากร ขั้นตอน เทคโนโลยี และข้อมูล เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังคงเป็นสถาบันการเงินที่ลูกค้าไว้วางใจในระยะยาว ส่งผลให้กลุ่มทิสโก้ได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์องค์กรไทย Thailand’s Top Corporate Brands 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยมูลค่าแบรนด์ 29,242 ล้านบาท
ความเข้มแข็งของแบรนด์ทิสโก้นี้น่าจะช่วยเสริมแรงให้ราคาหุ้นในระยะสั้นไม่ร่วงลงมาก