SCBX ยังเดินหน้าต่อเนื่อง

เอสซีบี เอกซ์ ประกาศผลกำไรสุทธิประจำปี 2566 จำนวน 43,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% จากปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบทางบวกของแผนการเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจการเงินแนวใหม่ที่ดำเนินไปอย่างราบรื่นต่อไปอีกปี โดยไม่ได้พึ่งพาธุรกรรมธนาคารแบบเดิมอีกต่อไป

SCBX เกิดขึ้นจากแนวคิดในการปฏิวัติวงการธนาคารพาณิชย์ของไทย ด้วยการแปลงโฉมบริษัทโฮลดิ้งคอมปะนีที่รวมเอาธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม ประกอบด้วยธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทในเครือทางด้านการเงินเข้ามาไว้ใต้ร่มธงเดียวกันเพื่อมุ่งสู่ธุรกิจอี-แบงกิ้งอย่างเต็มที่

ปฏิบัติการดังกล่าวช่วยให้มองเห็นอนาคตของการให้บริการทางการเงินอย่างครบถ้วนรวมทั้งในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่กำลังท้าทายความสำเร็จในอนาคต

ผลประกอบการที่รายงานกำไรสุทธิของ SCBX ได้ยืนยันว่าก้าวย่างของธนาคารแห่งนี้มีความต่อเนื่องในการเติบโตอย่างราบรื่นดี

รายได้จากการดำเนินงานรวม 171,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากปีก่อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 71,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% จากปีก่อนเพียงเล็กน้อย โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 42% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ระดับ 45.2% สะท้อนถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในระยะเปลี่ยนผ่าน

ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์รายนี้พยายามผ่าตัดระบบการทำงานให้ระบบงานเน้นการใช้ข้อมูลที่พึ่งพาพนักงานน้อยลงอย่างชัดเจน โดยหันมาใช้ระบบอี-แบงกิ้งเต็มรูปมากขึ้น  รวมทั้งลดจำนวนพนักงานอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้ลดรายจ่ายลงอย่างมีนัยสำคัญ

แม้ว่ารายได้จากธุรกรรมใหม่อย่างคริปโทเคอร์เรนซี จะยังไม่ปรากฏผลที่เห็นได้ชัดเจนก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในงบการเงินแต่อย่างใด

บริษัทได้ตั้งเงินสำรอง จำนวน 43,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 28.9% จากปีก่อนแสดงถึงการบริหารคุณภาพสินเชื่อย่างรอบคอบ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยที่ไม่ทั่วถึงและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นแม้มีการเปลี่ยนแปลงภายในที่มากมายช่วยตอกย้ำให้เห็นว่าเส้นทางที่ฝ่ายบริหารนำโดยนายอาทิตย์ นันทวิทยา ได้ดำเนินการมานั้นถูกต้องและทำให้ SCBX เป็นเครื่องมือที่ทรงอานุภาพของกลุ่มการเมืองที่อนุรักษนิยมที่สุดในสังคมไทย